Porsche Panamera เจเนเรชันที่ 3 เน้นความเป็นสปอร์ตซีดานพร้อมเพิ่มความหรูโดยมี 4 รุ่นไฮบริดให้เลือก
Porsche เผยโฉม Panamera รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 (3rd generation) ออกมากับการออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในของรถ โดยยังคงรักษาความลักษณะความเป็นรถสปอร์ตซีดานเอาไว้พร้อมกับใส่ความหรูเพิ่มเข้ามาในรถ และเน้นการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยมี 4 ทางเลือกในแบบไฮบริด
Porsche Panamera 3rd Generation รุ่นใหม่ถูกระบุว่าว่ายังคงรักษาเส้นสายและสัดส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นเอาไว้ภายในตัวรถที่มีความยาว 5,052 มม. กว้าง 1,937 มม. สูง 1,423 มม. พร้อมกับแสดงความสปอร์ตของรถมากขึ้น โดยด้านหน้าของรถมีการเพิ่มช่องดักอากาศเหนือป้ายทะเบียนเพื่อเพิ่มอากาศเข้าสู่ระบบขับเคลื่อน ขณะที่แนวเส้นหน้าต่างด้านข้างของรถได้รับการออกแบบใหม่เพื่อบ่งบอกถึงการเป็นรถสปอร์ต 4 ประตู โดยขอบกระจกหน้าต่างหลังของรถมีความไหลลื่นไปกับรูปทรงของรถ และกลมกลืนไปกับด้านหลังของรถ
นอกจากนี้รถสปอร์ตซีดานรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับไฟหน้า Matrix LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่มีไฟ HD Matrix LED เป็นออปชันให้เลือก ส่วนรุ่น Turbo E-Hybrid จะถูกเพิ่มความโดดเด่นด้วย Diffuser ที่กันชนหลังสีเดียวกับรถและกันชนหน้าเฉพาะรุ่น มีปลายท่อไอเสียดาร์กบรอนซ์ รวมทั้งมีสีใหม่ Turbonite สำหรับรุ่นเทอร์โบแต่งเพิ่มความโดดเด่นทั้งที่ตรา Porscheเหนือฝากระโปรงหน้า กระจกหน้าต่างด้านข้าง โลโก้เทอร์โบที่ฝาท้าย ล้อ และพวงมาลัยของรถ
ส่วนห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับแนวคิดค็อกพิต Porsche Driver Experience ที่สร้างความสมดุลย์ระหว่างการควบคุมดิจิตอลกับอนาล็อก รวมทั้งการจัดวางตำแหน่งสิ่งต่างๆ ที่สำคัญต่อการขับรถอย่างเกียร์เลือกระบบขับเคลื่อนและสวิตช์เลือกโหมดการขับที่ควบคุมได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน นอกจากนี้ยังมีจอขนาด 10.9 นิ้วสำหรับด้านหน้าผู้โดยสารเป็นออปชันให้ติดซึ่งสามารถสตรีมวิดีโอได้ในขณะที่เดินทาง โดยที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากเบาะผู้ขับเพื่อความปลอดภัย
รถรุ่นใหม่มี 4 ระบบขับเคลื่อน E-Hybrid ให้เลือกซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมกับสมรรถนะสูงขึ้นและการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น รวมทั้งรุ่น Turbo E-Hybrid ใหม่ที่มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 140 kW หรือ 190 แรงม้า ให้กำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบไฮบริด 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 930 นิวคัน-เมตร โดยมีการออกแบบให้มอเตอร์ไฟฟ้ารวมอยู่กับระบบส่งกำลังดูอัลคลัตช์ PDK 8 สปีดใหม่ทำให้ช่วยลดน้ำหนักของรถลงประมาณ 5 กิโลกรัม
ด้านสมรรถนะของรถรุ่นเทอร์โบไฮบริดใหม่ใช้เวลา 3.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ 315 กม./ชม. ในขณะที่แบตเตอรีมีความจุ 25.9 kWh ทำให้สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 91 กิโลเมตร โดยรถมาพร้อมระบบชาร์จไฟ AC 11 kW ที่ทำให้ลดเวลาในการชาร์จไฟลงเหลือ 2 ชั่วโมง 39 นาที
นอกจาก 4 รุ่น E-Hybrid แล้ว รถสปอร์ตซีดานรุ่นใหม่ยังมีรุ่นพื้นฐาน และPanamera 4 เป็นทางเลือกที่ไม่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมในการขับเคลื่อนซึ่งมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 353 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร โดยรุ่นพื้นฐานใช้เวลา 5.1 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 272 กม./ชม. ขณะที่ Panamera 4 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถใช้เวลา 4.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 270 กม./ชม.
รถทั้งหมดจะมาพร้อมกับช่วงล่าง Dual-Chamber Two-Valve Air Suspension พร้อม Porsche Active Suspension Management ที่แยกการควบคุมระดับการยืดและยุบของแดมเปอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรถรุ่น E-Hybrid จะมีระบบช่วงล่างแอคทีฟ Porsche Active Ride เป็นออปชันให้เลือก ที่มาพร้อมกับช็อกแอบซอร์เบอร์แอคทีฟที่ได้รับการพัฒนาใหม่ใช้เทคโนโลยี Two-Valve ร่วมกับการควบคุมปั๊มไฮดรอลิกด้วยอีเล็กทรอนิก
ทางผู้ผลิตรถสมรรถนะสูงจากเยอรมนีเปิดรับจองรถรุ่นใหม่ทันทีที่เผยโฉมออกมาโดยมีราคาเริ่มต้น 107,800 ยูโรในเยอรมนี แต่การส่งมอบรถที่ยุโรปจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th