แม้ว่า Porsche จะเข้าสู่โลกของพลังงานไฟฟ้าแล้วกับ Taycan และประสบความสำเร็จด้วยยอดจองจำนวนมากจนต้องยืมพนักงานของบริษัทในเครือเดียวกันอย่าง Audi มาช่วยผลิต แต่ผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงจากเยอรมนีรายนี้ยังคงมองว่าเครื่องยนต์ใช้น้ำมันสำคัญสำหรับตน แต่ก็ต้องการทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงมีการประกาศแผนการวิจัยน้ำมันสังเคราะห์ที่เรียกว่า eFuel

เกี่ยวกับรายละเอียดของน้ำมันสังเคราะห์ eFuel ที่ทาง Porsche กำลังศึกษาถูกระบุว่าทำมาจากคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจนซึ่งสามารถสร้างเป็นพลังงานใหม่ได้ พร้อมกับสามารถทำให้ไม่มีผลต่อสภาพอากาศได้ โดยทาง Porsche บอกว่า “ในแง่ของลักษณะพื้นฐาน eFuel ไม่มีความแตกต่างจากน้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซินที่มาจากน้ำมันดิบ” แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญก็คือ eFuel เป็นสิ่งที่หายากและบางผู้ผลิตรถยนต์ที่เคยศึกษาไม่เชื่อว่าจะมีความคุ้มค่า

อย่างไรก็ตามทาง Porsche คิดต่างออกไป และกำลังมองหาผู้ร่วมงานในการสร้างโรงงานทดลองผลิต eFuel เพื่อพิสูจน์ว่าห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดใช้งานได้ และสามารถทำเป็นอุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนียังบอกเพิ่มว่าพวกเขาจะทำให้มีความยืดหยุ่นเมื่อต้องการปรับวงจรการผลิต

ปัญหาใหญ่ในการศึกษาน้ำมันสังเคราะห์ของ Porsche ก็คือยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีใครเข้าร่วมด้วย แต่ Michael Steiner หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Porsche ได้บอกว่า “การเดินทางด้วยไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและมีความชัดเจน แต่การไปทางนี้จะนำไปสู่เป้าหมายเรื่องความยั่งยืนช้ากว่าที่ต้องการ” นอกจากนี้ยังบอกเพิ่มถึงเหตุผลที่ Porsche เชื่อมั่นใน eFuel ว่า “เครื่องยนต์สันดาปจะยังคงมีบทบาทในโลกยานยนต์อีกหลายปีในอนาคต”

หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Porsche ได้บอกถึงเหตุผลที่ Porsche ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนา eFuel ก็เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าน้ำมันสังเคราะห์จะเหมาะสำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูง รวมทั้งยังวิจารณ์ว่า E10 ตอนที่ออกมานั้นมีข้อเสียมากกว่าข้อดี

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th