Porsche เผยโฉม Taycan Turbo GT ออกมา ซึ่งไม่เพียงเป็นรุ่นที่มีพลังขับเคลื่อนมากที่สุดของ Taycan เท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่มีพลังขับเคลื่อนมากที่สุดที่ถูกผลิตในแบบ Series-production ของบริษัทด้วย โดยมีทั้งรุ่นปกติและรุ่นพร้อม Weissach Package ที่เน้นสำหรับขับในสนามแข่ง รวมทั้งรถรุ่นนี้ยังเคยถูกนำไปสร้างสถิติความเร็วรถในสายการผลิตทั้งที่ Nurburgring และ Laguna Seca ใน Monterey แคลิฟอร์เนียมาแล้ว

ทั้ง Porsche Taycan Turbo GT และรุ่นที่มาพร้อมกับ Weissach Package มีระบบขับเคลื่อนซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่เหมือนที่อยู่ในรุ่น Turbo S แต่ได้รับการอัปเกรดรวมทั้งเปลี่ยนมอเตอร์หลังใหม่ซึ่งถูกระบุว่าควบคุมโดยอินเวอร์เตอร์ที่มีพลังและประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้มีพลังขับเคลื่อนรวม 580 kW หรือ 778 แรงม้า แต่ด้วยการใช้ Launch Control จะทำให้พลังขับเคลื่อนเพิ่มเป็น 760 kW หรือ 1,019 แรงม้า โดยที่สามารถพุ่งไปถึง 815 kW หรือ 1,093 แรงม้าได้ 2 วินาที รวมไปถึงมี Attack Mode ที่เพิ่มพลังของรถ 120 kW หรือ 163 แรงม้าจากกำลังขับเคลื่อนปกติได้นาน 10 วินาที

ด้วยพลังขับเคลื่อนทำให้รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ใช้เวลา 2.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และลดลงเหลือ 2.2 วินาทีกับรถที่มาพร้อม Weissach Package ในขณะที่การทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ใช้เวลา 6.6 วินาที และ 6.4 วินาทีพร้อม Weissach Package ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 306 กม./ชม.

ภายนอกของรถไฟฟ้ารุ่นใหม่บ่งบอกการเป็นรุ่นแรงกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการมาพร้อมกับชุดแต่งตัวถังใหม่ รวมทั้งมีสปอยเลอร์หลังอแดปทีฟพร้อม Gurney Flap ซึ่งทำงานร่วมกับ Splitter ขนาดใหญ่ซึ่งมี Aeroblade ใต้กันชนหน้า Diffuser ที่กันชนหลัง และชิ้นส่วนหักเหลมใต้ท้องรถ ทำให้รถที่มาพร้อมกับ Weissach Package สามารถสร้างแรงกดได้รวม 220 กิโลกรัม

นอกจากนี้ภายนอกของรถยังใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งที่เสา B-Pillar แทรกที่กระจกข้าง และสเกิร์ตข้าง โดยมี 6 สีภายนอกให้เลือก รวมทั้ง 2 ใหม่คือสีฟ้า Pale Blue Metallic และสีม่วง Purple Sky Metallic โดยมีออปชันจากPorsche Exclusive Manufaktur ให้เลือกสีและการแต่งเพิ่ม ส่วนล้อมาตรฐานของรถเป็นล้อฟอร์จน้ำหนักเบาขนาด 21 นิ้วลายใหม่

ห้องโดยสารของรถมีเบาะ Adaptive Sport Seat และพวงมาลัย Sport GT หุ้มด้วย Race-Tex และหนัง พร้อมมีชื่อรุ่นของรถที่พนักพิงศรีษะของเบาะและคอนโซลกลาง โดยนอกจากการแต่งด้วยสีเข้มแล้วยังมีออปชันแต่งด้วยสีฟ้า Volt Blue หรือสีเงิน GT Silver  ที่มีการเย็บด้ายสีตัดกันให้เลือก

สำหรับรถที่มาพร้อมกับ Weissach Package ซึ่งเน้นการขับในสนามแข่งจะถูกลดน้ำหนักรถลงด้วยการนำเอาทั้งเบาะหลัง นาฬิกาอนาล็อก พรมปูพื้นในห้องโดยสาร พรมปูพื้นที่เก็บสัมภาระ และวัสดุดูดซับเสียงออกไป รวมไปถึงใช้วัสดุน้ำหนักเบาลงในพื้นที่เก็บสัมภาระ

ทางPorsche พร้อมเริ่มส่งมอบรถรุ่นใหม่ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ส่วนราคารถในสหรัฐเมริกาเริ่มต้นที่ 230,000 ดอลลาร์

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th