Porsche Thailand เปิดตัวนิทรรศการ “Electrifying Past. Present. Future.”

Porsche Thailand เปิดตัวนิทรรศการ “Electrifying Past. Present. Future.” จัดขึ้นที่ Curvistan Bangkok ตั้งแต่วันนี้-18 ส.ค. 2025
Porsche เปิดตัวนิทรรศการสุดพิเศษ “Electrifying Past. Present. Future.” ที่ Curvistan Bangkok พื้นที่สำหรับพบปะสังสรรค์เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความหลงใหลในรถยนต์ ศิลปะ และการออกแบบไว้ในที่เดียว นำเสนอประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟ ที่สะท้อนมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมันต่อโลกยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า (Electromobility) ถ่ายทอดผ่านการเชื่อมโยง อดีตอันทรงคุณค่ากับปัจจุบันที่เต็มไปด้วยพลัง และอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2024 Curvistan Bangkok ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของชุมชนคนรัก Porsche และผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมยานยนต์อย่างแท้จริง ล่าสุด Porsche เดินหน้านำเสนอประสบการณ์ใหม่ ผ่านนิทรรศการ “Electrifying Past. Present. Future.” เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสนวัตกรรมล้ำสมัยที่ปฏิวัติวงการยนตรกรรมไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High-Performance Electrification) ของแบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานจากเยอรมนี โดยนิทรรศการนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-18 สิงหาคม 2025
Porsche Design Tower Bangkok เผยโฉมคอนเซ็ปต์ครัวระดับเวิลด์คลาส
นิทรรศการครั้งนี้สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Porsche โดยย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นในปี 1900 เมื่อ Ferdinand Porsche ได้สร้างสรรค์ “Lohner-Porsche System” ซึ่งถือเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งบริเวณดุมล้อคันแรกของโลก และนำเสนอสิ่งประดิษฐ์อันล้ำหน้านี้ต่อสาธารณชนครั้งแรกในงาน Paris Exposition ภายใน Palace of Electricity
เป็นเวลากว่า 100 ปีต่อมา Porsche ยังคงเป็นผู้นำในโลกยนตรกรรมสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของนิทรรศการ Electrifying Past. Present. Future. คือ การจัดแสดง 918 Spyder ไฮเปอร์คาร์ไฮบริดระดับตำนานที่สะท้อนถึงความก้าวล้ำทางวิศวกรรม ผสานเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าเข้ากับ DNA มอเตอร์สปอร์ตของ Porsche อย่างสมบูรณ์แบบ มอบทั้งสมรรถนะ และประสิทธิภาพที่โดดเด่น
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของนิทรรศการคือ Porsche 919 Hybrid ตำนานรถแข่งไฮบริดที่สร้างชื่อในยุคของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าด้วยการคว้าชัยชนะในรายการ 24 Hours of Le Mans การแข่งขันสุดทรหดระดับโลก 3 ปีติดต่อกัน (ปี 2015-2017) ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จสูงสุดในสนามแข่งระดับโลก ในเวอร์ชั่น 919 EVO ซึ่งถูกปลดล็อกข้อจำกัดด้านกฎการแข่งขัน รถคันนี้ได้สร้างสถิติเวลาต่อรอบ 5:19.55 นาที บนสนามแข่งนูร์เบิร์กริงต์ฝั่งเหนือ โดยการขับของ Timo Bernhard นักแข่งสังกัดทีม Porsche และสถิตินี้ยังคงไร้ผู้โค่นล้มมาจนถึงปัจจุบัน
นิทรรศการ “Electrifying Past. Present. Future.” เป็นโอกาสพิเศษสำหรับผู้ที่หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ได้สัมผัสนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนวงการมาตลอดศตวรรษ และเรียนรู้ถึงแนวทางที่กำลังมุ่งสู่อนาคตของสมรรถนะพลังงานไฟฟ้าแรงสูง (High-Performance Electrification) อย่างแท้จริง
Porsche 919 Hybrid ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในสนามแข่ง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Porsche ในฐานะรถแข่งที่ปูทางสู่การพัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโลกของมอเตอร์สปอร์ตสู่ยนตรกรรมบนท้องถนน เทคโนโลยีที่ถูกทดสอบ และพิสูจน์สมรรถนะภายใต้สภาวะการแข่งขันอันเข้มข้น ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงของ Porsche ในปัจจุบัน
1 ในนวัตกรรมสำคัญที่ได้รับการพัฒนาจากสนามแข่งคือเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าแรงดัน 800 โวลต์ (800-Volt Technology) ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วภายใต้สภาวะการแข่งขัน และถูกนำมาปรับใช้ในยนตรกรรมสปอร์ตของ Porsche สำหรับการขับขี่จริง หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ Porsche Taycan รุ่นใหม่ ที่ได้รับการปรับโฉมเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้สูงสุด สมรรถนะโดดเด่นในทุกการขับขี่จากสนามแข่งสู่ท้องถนนอย่างสมบูรณ์แบบ
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Porsche Thailand
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Curvistan Bangkok แห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ในฐานะบริษัทผู้ให้การสนับสนุนผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายใน 13 ประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และปอร์เช่ ประเทศไทย ที่เป็นผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมามากกว่า 30 ปี และความร่วมมือระหว่าง สเตฟาน บอกเนอร์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Curves อันเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และชานนท์ เรืองกฤตยา นักธุรกิจวิสัยทัศน์กว้างไกล ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ Porsche Design Tower Bangkok ที่กำลังจะเริ่มต้นการก่อสร้าง และตั้งอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ก้าวจาก Curvistan Bangkok
ในวันนี้ ทั้งสองท่านในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของปอร์เช่ ได้จับมือเปิดตัวนิทรรศการ Porsche Unseen Design Studies ขึ้น ณ Curvistan Bangkok ซึ่งจะจัดแสดงในช่วงระยะเวลาจำกัดเท่านั้น
ในนิทรรศการนี้ ไมเคิล มาวเออร์ รองประธานฝ่ายปอร์เช่ไลฟ์สไตล์ ณ ปอร์เช่ ดีไซน์ สตูดิโอ เมืองไวส์ซาค และเป็นผู้ดูแลวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบของปอร์เช่มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ได้เผยถึงคอนเซ็ปต์คาร์ หรือรถยนต์ต้นแบบของปอร์เช่อันท้าทายและน่าอัศจรรย์จากการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้การดูแลของไมเคิลตลอดช่วงเวลากว่าสองทศวรรษ ซึ่งในวันนี้เป็นครั้งแรกกับการรวบรวมผลงานคอลเลกชัน ‘Unseen’ ของปอร์เช่มาจัดแสดงในประเทศไทย ถือเป็นเดสติเนชันที่ผู้หลงใหลในปอร์เช่รวมถึงผู้ที่สนใจในยานยนต์ไม่ควรพลาด เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ด้านดีไซน์อันเป็นเลิศของปอร์เช่สักครั้ง
ไฮไลต์สำคัญของนิทรรศการนี้คือ “Vision Spyder” โมเดลจำลองเท่าขนาดจริง ที่สะท้อนจินตนาการของรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กสไตล์โมเดิร์นของไมเคิลและทีม ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนาดที่เล็กกะทัดรัดและนวัตกรรมน้ำหนักเบาของรถที่ออกแบบโดยวิศวกรปอร์เช่ในยุค 1950 โดยเฉพาะรุ่น 550 Spyder ที่ทำให้ ฮันส์ แฮร์มันน์ คว้าชัยชนะในการแข่งขันรถสปอร์ต Carrera Panamericana ในปี 1954
“Vision Spyder” ยังโดดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบสปาร์ตันที่มีฟีเจอร์ครบครัน และกระจังหน้าแบบแบนราบที่ติดตั้งเหนือเครื่องยนต์แบบวางกลางลำ (Midengine) พร้อมลายคาดรถสีแดง (Racing stripes) และครีบหลังท้ายรถขนาดพอเหมาะ
ที่ Curvistan ผู้เข้าชมยังสามารถยลโฉมปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด (Taycan Turbo S Celestial Jade) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ แบบเอ็กซ์คูลซีฟ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเดือนธันวาคมนี้
ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ Sonderwunsch ของปอร์เช่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายละเอียดที่ถูกผสานกับสัญลักษณ์ต่างๆ