Porsche เปิดตัว Cayenne S E-Hybrid Coupe รุ่นประกอบอาเซียน ราคา เริ่มต้น 6.29 ล้านบาท
ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupé ที่ประกอบขึ้นภายในภูมิภาคอาเซียน มอบประสบการณ์อันเหนือระดับใน ราคา ที่น่าสนใจ เริ่มต้น 6,290,000 บาท พร้อมส่งมอบในเดือนสิงหาคมนี้
ปอร์เช่ ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) ที่ผลิตขึ้นสำหรับแฟนๆ ปอร์เช่ชาวไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์รถยนต์หรูระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถเอสยูวีสปอร์ตคันนี้กลายเป็นรถรุ่นที่ 2 จากสายการผลิตของประเทศมาเลเซีย และเป็นรุ่นแรกที่ประกอบในภูมิภาคเพื่อส่งออกมายังประเทศไทย โดยมอบประสบการณ์อันเหนือระดับในราคาที่น่าสนใจ
Porsche Cayenne GTS เน้นพลังและสมรรถนะสำหรับการขับทางไกล
Porsche เข้าใจความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าชาวไทยจึงได้ปรับแต่ง Cayenne S E-Hybrid Coupé ให้มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่เหนือชั้น มีฟีเจอร์มากมายเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐานที่นำเข้าจากยุโรป นอกจากนี้ยังมีไมโครไซต์ (Microsite) เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการจองรถยนต์รุ่นใหม่นี้ผ่านทางออนไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์การจองที่สะดวกสบายให้กับลูกค้าที่สนใจ และรองรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสีภายนอก ตัวเลือกหนังภายใน และอุปกรณ์เสริม Tequipment ต่างๆ
อัลเบรคท์ ไรโมลด์ (Albrecht Reimold) กรรมการบริหารฝ่ายการผลิต ปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า “ปอร์เช่ บุกตลาดสำคัญนี้ด้วยการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2022 ตั้งแต่นั้นเราก็ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น การส่งมอบ Cayenne ที่ประกอบในมาเลเซียมากกว่า 1,000 คันให้กับลูกค้าชาวมาเลเซีย ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีหลังจากเริ่มประกอบ วันนี้เราเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตด้วยการยกระดับโรงงานประกอบที่กูลิมอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่า คาเยนน์ รุ่นแรกที่ส่งออกไปยังภูมิภาคนี้ จะตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างสูงสุด”
ฮานเนส รูออฟ (Hannes Ruoff) ประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “การเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นประกอบในมาเลเซียสำหรับประเทศไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอกย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตลาดที่มีความเคลื่อนไหวและไม่หยุดนิ่งสำหรับปอร์เช่ รถยนต์รุ่นแรกที่ส่งออกจากโรงงานประกอบในภูมิภาคของเราไปยังประเทศไทย สะท้อนถึงพลังแห่งวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันและความร่วมมือที่แข็งแกร่ง ซึ่งผลักดันให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้น”
ทางด้าน ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะเปิดตัว Cayenne S E-Hybrid รุ่นประกอบในภูมิภาค สำหรับประเทศไทย รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมอุปกรณ์ที่ผ่านการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ และด้วยราคาที่น่าสนใจ เราเชื่อมั่นว่ารุ่นย่อยใหม่นี้จะกลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมสำหรับแฟนๆ ปอร์เช่และลูกค้าในประเทศไทยอย่างแน่นอน”
อุปกรณ์มาตรฐานที่เหนือกว่า
Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและสปอร์ตยิ่งขึ้น ลูกค้าชาวไทยสามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ สีขาวเมทาลิก Carrara White, สีดำเมทาลิก Chromite Black และสีเงินเมทาลิก Dolomite Silver
เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดดเด่นด้วยโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และพิกเซลกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย และความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ขณะที่ล้ออัลลอยลาย Cayenne ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius Grey มอบความหรูหรา และสปอร์ตให้กับรถ SUV คันนี้ได้อย่างลงตัว
ภายในของ Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ได้รับการยกระดับด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และแพ็คเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยยกระดับความหรูหราให้กับผู้ขับขี่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร
เอสยูวีสุดหรูรุ่นนี้ ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE, เบาะหนังคุณภาพเยี่ยมเลือกได้ 2 สี คือ สีดำหรือสีแดงบอร์กโดซ์ (Bordeaux Red) พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศรีษะที่เบาะคู่หน้า อีกทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน เครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมระบบจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยจอด (ParkAssist) พร้อมกล้องรอบทิศทาง (Surround View) และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay มอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งยังเอาใจผู้โดยสารด้านหลังด้วยระบบเตรียมติดตั้ง Rear Seat Entertainment ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย เพื่อยกระดับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
เพิ่มเติมความทันสมัยให้กับห้องโดยสารด้วย Porsche Driver Experience ประกอบด้วย ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบโค้งมนขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา ตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติได้รับการย้ายไปทางซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับช่องเก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยงามทันสมัยในโทนสีดำ แผงควบคุมระบบปรับอากาศมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ใช้งานง่าย พร้อมสวิทช์ปรับอากาศแบบหมุน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและดูหรูหรา
นิยามใหม่แห่งประสิทธิภาพ
Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ผสมผสานความสปอร์ตอันทรงพลังของ Cayenne S เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันล้ำสมัยของ Cayenne E-Hybrid นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตระดับโลกในการมอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ ผสานเทคโนโลยีไฮบริดที่ทั้งทรงประสิทธิภาพ และล้ำหน้า
Cayenne S E-Hybrid Coupé ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวม 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) รถเอสยูวีคูเป้รุ่นนี้เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City) เหมาะสำหรับการขับขี่ภายในกรุงเทพฯ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย
ระบบช่วงล่างใหม่ เสริมความสะดวกสบาย
Porsche ได้ยกระดับ Cayenne S E-Hybrid Coupé ด้วยระบบช่วงล่างลมอัจฉริยะแบบใหม่ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างมาตรฐานและรุ่นก่อนหน้า
นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมยังช่วยเพิ่มความแม่นยำ และสมรรถนะของการขับขี่ ลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal, Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมของ Cayenne S E-Hybrid Coupé ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้น เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ช่วยปรับช่วงล่างได้หลากหลาย ตั้งแต่เน้นความนุ่มนวลสำหรับการขับขี่สบายๆ ไปจนถึงโหมดสปอร์ตที่เน้นการตอบสนองฉับไว
ราคาที่น่าสนใจพร้อมตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย
Porsche เข้าใจว่าลูกค้าต้องการความเป็นตัวเอง ดังนั้น Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย สามารถปรับแต่งผ่านไมโครไซต์พิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยเว็บไซต์นี้เปิดโอกาสให้แฟนๆ ปอร์เช่ สามารถออกแบบคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ในฝันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีตัวถังและการตกแต่งภายใน รวมไปถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริม Tequipment หรือ แพ็คเกจปรับแต่งพิเศษจาก Porsche Exclusive Manufaktur
New Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ราคา เริ่มต้นที่ราคา 6,290,000 บาท โดยมีกำหนดส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ลูกค้า Porsche ที่สนใจสามารถจองรถยนต์รุ่นนี้ผ่านไมโครไซต์ (Microsite) ได้ที่ thcayenne.online
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ปอร์เช่ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th