เปิดราคา ALL NEW HONDA CR-V ชู 2 เครื่องยนต์ 5 รุ่นย่อย เริ่มต้น 1.41 ล้านบาท
เปิดราคา ALL NEW HONDA CR-V วาง 2 เครื่องยนต์ 2.0 ไฮบริด และ 1.5 เทอร์โบ ขาย 5 รุ่นย่อย เริ่มต้น 1.41 – 1.729 ล้านบาท
ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว ALL NEW HONDA CR-V Generation 6 ในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย วางขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และขุม เครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย
เครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV 2 รุ่นย่อย คือ
- รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1,729,000 บาท
- รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1, 589,000 บาท
เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 3 รุ่นย่อย คือ
- รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1,649,000 บาท
- รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1,599,000 บาท
- รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1,419,000 บาท
ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black
- กระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
- ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD
- สัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black
- กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
- ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
- ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
- สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
- เบาะหนังสีดำแต่งด้วยด้ายสีแดง
- พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light)
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
ระบบเฉพาะรุ่น e:HEV ES, e:HEV RS 4WD และ รุ่น EL 4WD
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
เบาะนั่ง 2 แบบ
- รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) เพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
- รุ่นเบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) ปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) สามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
ระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิง
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- เครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
เครื่องยนต์มาพร้อมทางเลือก 2 ชนิด
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่
- เครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
- ระบบขับเคลื่อนปรับได้ 3 โหมด คือ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
- สวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ปรับโหมดได้ 3 โหมดการขับขี่ คือ แบบสปอร์ต (Sport Mode) แบบปกติ (Normal Mode) และ แบบประหยัด (Econ Mode)
ขุมพลังเทอร์โบ
- เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตรา ประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E85
ทั้งนี้ มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS)
ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
- ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
เทคโนโลยีความปลอดภัย
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และe:HEV RS 4WD)
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
สีให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือ
- สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES
- แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD
- ขาวแพลทินัม (มุก)
- เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- เงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- ดำคริสตัล (มุก)
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมอบข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566 ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
สำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษ ด้านการบริการหลังการขาย ได้แก่ ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร(อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) มีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต ราคา 12,000 บาท คิ้วตกแต่งกระจังหน้า ราคา 3,900 บาท บันไดข้าง ราคา 16,500 บาท ไฟส่องสว่างประตูคู่หน้าแบบ LED (1 ชุดมี 2 ชิ้น) ราคา 4,350 บาท คิ้วขอบห้องสัมภาระ LED ราคา 8,000 บาท และชุดเสริมหลังคาคู่พร้อมชุดบรรทุกสัมภาระหลังคา ราคา 27,500 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
- Elegant Package ราคา 31,000 บาท และ 32,500 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV RS 4WD) ประกอบด้วย กันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้า และชุดตกแต่งประตูข้าง
- Premium Sport Package ราคา 43,500 บาท และ 45,000 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV RS 4WD) ประกอบด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้า บันไดข้างและชุดตกแต่งฝาท้ายคิ้วโครเมียม
- Exhaust Pipe Finisher Package ราคา 2,500 บาท ประกอบด้วยปลอกท่อไอเสียสเตนเลส 2 ชิ้น
พบกับ ฮอนด้า ซีอาร์–วี ใหม่ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (Motor Show 2023) ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 และที่โชว์รูมฮอนด้าตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 โดยรุ่นเทอร์โบ ตั้งแต่ 20 มีนาคม 2566 และ รุ่น e:HEV ในเดือนเมษายน 2566
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ภาพ : ฝ่ายภาพ GRANDPRIX
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th