PT Grand Prix of Thailand 2024 บทสรุปโมโตจีพีไทย 2024
PT Grand Prix of Thailand 2024 บทสรุปอีกหน้าประวัติศาสตร์ โมโตจีพี สนามประเทศไทย
ภายใต้การขับเคลื่อน ความร่วมมือที่ผนึกแน่นทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชนมากมาย ที่ขับเคลื่อนเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตขนาดยักษ์นี้ เนรมิตกิจกรรมที่สมบูรณ์พร้อมทั้งด้านในและนอกสนาม ในฐานะที่ประเทศไทยและคนไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ ราบรื่น และงดงามที่สุด เมื่อถูกถ่ายทอดออกไปสู่สายตาชาวโลก
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ถือว่า การจัดงานโมโตจีพี สนามประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกมิติ ตลอด 3 วันมีผู้ร่วมงาน 205,343 คน แบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานชาวไทย จำนวน 154,666 คน และผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติ จำนวน 50,677 คน เพิ่มจากในปี 2023 ที่มียอดผู้ร่วมงาน 179,811 คน โดยเฉพาะผู้ชมชาวไทย ในปีที่ผ่านมา 127,665 คน เพิ่มขึ้นถึง 27,001 คน แสดงให้เห็นถึงความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง โดยในการจัดงานครั้งนี้ในแง่ของผู้ชม, บรรยากาศ รวมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในรอบการจัดงาน 5 ปี คือ 4,759 ล้านบาท
ทั้งนี้สิ่งที่เป็นความงดงามคือ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยทำผลงานดีเยี่ยมแม้จะออกสตาร์ตจากลำดับที่ 13 แต่สามารถไล่แซงขึ้นมา จนเกือบขึ้นโพเดี้ยม จบในอันดับที่ 4 สร้างความสุข ความประทับใจให้กับคนไทย
นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า โมโตจีพีวิถีไทย ความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ของคนไทยทั้งประเทศ ในปีนี้จัดในธีม “ฅนบุรีรัมย์” แสดงให้เห็นถึงเมืองเล็กๆที่ไม่มีทรัพยากรอะไรมากมาย แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่“ฅนบุรีรัมย์” สามารถสร้างขึ้นมาได้ จนกลายเป็น Destination หนึ่งของโลก ทั้งฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต
ในปีนี้เริ่มต้นกิจกรรม Pre-Event โมโตจีพี ต้อนรับนักแข่งด้วยธีมเสน่ห์อีสาน ท่อง “ปราสาทหินเมืองต่ำ”-ถ่ายวีดีโอโปรโมตประเทศ ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้เหล่านักบิดซูเปอร์สตาร์ของโลกที่ร่วมงาน รวมทั้งทีมงานดอร์น่า สปอร์ตอย่างมาก นักบิดได้ชมและลองย้อม “ผ้าอัคนี” ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีสวยงาม รวมทั้งทดลองชิมอาหารเชิดชูถิ่นอย่าง “ขนมตดหมา” เมนูชื่อแปลกแต่แสนอร่อย
รวมทั้งมี “ฅนบุรีรัมย์” ที่ได้รับโอกาสสำคัญในงานระดับโลกในบ้านเกิด อาทิ “ข้าวฟ่าง” กัลป์ธีรา ทรงประโคน ศิลปินสาวชาวบุรีรัมย์จาก The Voice Thailand ซีซั่น 6 ได้รับเลือกเป็นผู้ขับร้องเพลงชาติไทย ในเวอร์ชั่นการร้องสด ประกอบวงออเคสตร้าที่เป็นลูกหลานบุรีรัมย์ และ “ศศลักษณ์ ไหประโคน” แข้งบุรีรัมย์และทีมชาติไทย ฅนบุรีรัมย์ที่ได้รับเกียรติเป็นผู้โบกธงตราหมากรุก ในการแข่งขันรุ่น MotoGP โดยนับเป็นชาวไทยและลูกหลานบุรีรัมย์คนที่ 2 ที่ได้โบกธงในงานระดับโลก ต่อจาก “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล ที่ได้โบกธงตราหมากรุก ในการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันหรือ F1 มาแล้ว
ไฮไลต์สำคัญที่สร้างสีสัน ไวรัลอีกครั้งกับ “หมูเด้ง” ที่เพจหลัก Motogp.com เผยภาพ “หมูเด้ง” ออกสตาร์ตในกริดสุดท้ายของรุ่น MotoGP ลำดับที่ 23 โดยไม่ต้องผ่านรอบควอลิฟาย ถูกกล่าวขานและแชร์ออกไปทั่วโลก เหล่าแฟนคลับชูป้ายเชียร์หมูเด้งในสนาม โดยก่อนการแข่งขัน ดอร์น่า สปอร์ตได้ทำภาพกราฟิกโปรโมตสนามประเทศไทย มีข้อความภาษาไทยว่า ยินดีต้อนรับ, ไทยจีพี และมีภาพหมูเด้งล้อมกรอบอยู่ด้านล่าง เขียนข้อความว่า ขอบคุณ
นอกจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขัน สนามประเทศไทยได้ผุด แคมเปญ ThaiGP x MOODENG แจกจ่ายเสื้อลิขสิทธิ์ MotoGP ที่มีภาพหมูเด้งขี่รถแข่ง สุดน่ารักแจกให้กับผู้โชคดี เพียง 20 คน พร้อมส่วนลดครึ่งราคาในการเยี่ยมชมหมูเด้งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งทีมดอร์น่า สปอร์ต ได้นำเสื้อ ThaiGP x MOODENG แจกจ่ายให้นักบิดระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกได้สวมใส่ ทำให้ได้รู้ว่านักบิดเหล่านี้ต่างตกหลุมรัก ฮิปโปน้อย “หมูเด้ง” ของไทยเช่นกัน
ทั้งนี้ที่ถูกชื่นชมตลอดมา คือเสน่ห์ของสนามที่มีความสนุก หลากหลาย ไม่เหมือนใคร จัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต, มวยและ PT Grand Prix Expo ที่มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกช้อป ชิม รวมถึงพาวิลเลียนขนาดยักษ์ของแบรนด์สินค้าและหน่วยงานราชการให้ร่วมสนุกร่วมชมมากมาย ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด, น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง, ฮอนด้า, ยามาฮ่า, โตโยต้า, ดูคาติ , กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ฯลฯ พิเศษสุดสำหรับในปีนี้ ยังมี “ไทไทย พาวิลเลียน” ที่นำเสนอแนวคิด รากฐานภูมิปัญญาภายใต้แนวคิดใหม่ สวยงามอลังการอย่างมาก
นอกจากนี้หลังจบการแข่งขันคณะทำงานของไทย ได้ประชุมร่วมกับ “ดอร์น่า สปอร์ต” ทีมดอร์น่าได้กล่าวชื่นชมการจัดงานสนามประเทศไทยว่า เป็นการบริหารจัดการภาพรวมของกิจกรรมที่ดีที่สุดในทุกสนามที่ผ่านมา ทำเอาทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานมากกว่า 6 เดือน ก่อนเข้าสู่อีเว้นต์มอเตอร์สปอร์ตขนาดยักษ์นี้ ภาคภูมิใจหายเหนื่อย โดยหลายเสียงได้ชื่นชมว่า Everything is perfect ที่แสดงให้เห็นถึงการจัดงานฝีมือคนไทย และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ-เอกชน ที่ทำให้เกิดงานที่ดีที่สุดอีกหนึ่งงานไม่แพ้ใครในโลก ทั้งยังสร้างความสุข รอยยิ้มให้แฟนมอเตอร์ปอร์ต เศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งในจังหวัด พื้นที่ใกล้เคียง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th