PUMA เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ PUMA Start Stop Series
บริษัท เอ็ม เอฟ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ 2547 โดยเป็นผู้นำเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ ชนิด Maintenance free แบบฝาปิดสนิท (SMF ) ภายใต้แบรนด์ PUMA เป็นรายแรกที่ทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 14 ปี จนเป็นที่ยอมรับขอผู้ใช้รถยนต์ชั้นนำ และ ทำให้ผู้ผลิตในประเทศเริ่มทำการผลิตแบตเตอรี่ชนิด SMF จนเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน
คุณบุญชัย เมธีดุลสถิต กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัท เอ็ม เอฟ ออโต้ (ประเทศไทย ) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ แบตเตอรี่ ชั้นนำ ของประเทศไทย มีสินค้า แบรนด์ ต่าง ๆ ได้แก่ PUMA Black , PUMA Gold , MF Power , OPTIMA Battery , Index , MF Charger และ Midtronics Tester และ ขณะนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ ได้มีการพัฒนาและ เปลี่ยนแปลงการทำงานของเครื่องยนต์ และ ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์เป็นอย่างมาก ทำให้แบตเตอรี่ ก็ต้องมีการพัฒนา เพื่อตอบสนองการทำงานของเครื่องยนต์ จึงเป็นเวลาอันเหมาะสมที่บริษัท จะเริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ แบตเตอรี่ PUMA Start Stop Series ทีมีคุณภาพ และ ประสิทธิภาพสูง ช่วยให้รถยนต์ประหยัดน้ำมัน และ ลดการปล่อยไอเสีย ไม่อย่างมีประสิทธิภาพ
เหตุผลที่รถยนต์รุ่นใหม่ จำเป็นต้องใช้ PUMA Start Stop Series
- ในอดีตรถยนต์ ทุกคัน แบตเตอรี่จะมีหน้าที่เพียง จ่ายไฟฟ้า เพื่อการสตาร์ท เครื่องยนต์ เพียงอย่างเดียว แล้ว ไดชาร์จ จะทำหน้าที่จ่ายไฟฟ้าให้รถทั้งคัน ตลอดเวลา ที่เครื่องยนต์ ทำงาน พร้อมชาร์จไฟ เข้าสู่แบตเตอรี่ ตลอดเวลา
- ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมรถยนต์ ได้บังคับใช้กฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 (คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ) และลดการใช้เชื้อเพลิง
- ในประเทศไทย เราได้บังคับกฏหมายการเสียภาษี สำหรับรถยนต์ โดย เสียภาษีตาม อัตรการปล่อยก๊าซ CO2 ตั้งแต่ ปี 2559 เป็นต้นมา
- ผู้ผลิตรถยนต์ จึงได้มีการติดตั้งระบบไดชาร์จอัจฉริยะ (Alternator Management System ; AMS ) และ ระบบ Stat Stop ในรถที่ผลิตในประเทศไทย ตั้งแต่ 2554 เป็นต้นมา
หลักการทำงานของระบบไดชาร์จอัฉริยะ และ ระบบ Start Stop (ภาพ ระบบไฟฟ้า ในรถยนต์ )
ในรถยนต์ จะมีแม่เหล็กไฟฟ้า 2 ตัว คือ คอมเพรสเซอร์แอร์ และ ไดชาร์จ ทำงานอยู่ และ จะหน่วงการทำงานของเครื่องยนต์ เอาไว้ ทำให้รถยนต์สิ้นเปลี่องน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อเราปิดแอร์ รถยนต์จะประหยัดน้ำมัน ได้ประมาณ 10 – 15% แต่เราไม่สามารถปิดแอร์ได้ เพราะอากาศร้อน
ผู้ผลิตรถยนต์ จึงออกแบบให้ไดชาร์จหยุดทำงาน ซึ่งเป็นการลดภาระของเครื่องยนต์ และ ขณะที่ไดชาร์จหยุดการทำงาน แบตเตอรี่ จะทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า แทนไดชาร์จ และ จะชาร์จไฟ กลับ ทุกครั้งที่เราถอนคันเร่งเครื่อง ระบบนี้ จะทำให้ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน และ ลดก๊าซ CO2 ได้ (การทำงานเช่นนี้ เรียกว่า ระบบไดชาร์จอัจฉริยะ ; Alternator Management System: AMS )
และ ในรถยนต์ บางรุ่น จะมีระบบ Start Stop ซึ่งเครื่องยนต์ จะหยุดทำงาน ทุกครั้งที่รถจอดหยุดนิ่ง โดยแบตเตอรี่จะเป็นผู้รับ ภาระ จ่ายกระแสไฟฟ้า ให้อุปกรณ์ไฟฟ้า ทุกชนิดขณะเครื่องยนต์หยุดทำงาน ซึ่งทำให้ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้มาก และช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เช่น กัน
จากการทำงานเช่นนี้ ทำให้แบตเตอรี่ ต้องรับภาระการทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า จึงมีอายุการใช้งานสั้นกว่าเดิมาก
แบตเตอรี่ PUMA Start Stop ออกแบบเพื่อ ให้รองรับการทำงานของระบบ ไดชาร์อัจฉริยะ และ Start Stop และ มีอายุใช้งานยืนยาว ผลที่ลูกค้าจะได้ คือ รถประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น , ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และ อายุใช้งานยืนยาว
คุณสมบัติพิเศษของ PUMA Start Stop Series
PUMA Start Stop Series เป็นแบตเตอรี่ ที่ออกแบบให้มีแผ่นธาตุแบบพิเศษให้สารเคลือบแผ่นธาตุมีความหนาแน่นสูง โดยมีการเพิ่มสารคาร์บอน และไฟเบอร์ ลงไปในสารเคลือบแผ่นธาตุ ทำให้มีคุณสมบัติ ในการรับกระแสชาร์จกลับได้เร็ว และ มีการคายประจุไฟฟ้าได้นานขึ้น จึงทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยได้ผ่านการทดสอบ ตามมาตรฐาน SBA S0101 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รองรับการทำงานของระบบ Start Stop ที่
แบตเตอรี่ รุ่นใหม่ต้องผ่าน การทดสอบ ให้ได้มากกว่า 30,000 Cycles และ ทำให้เครื่องยนต์ลดการทำงานลงได้ประมาณ 3-5% มีผลให้ประหยัดน้ำมัน และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ได้
PUMA Start Stop จะมี 2 ประเภท คือ PUMA EFB ใช้สำหรับรถยนต์ ที่วางแบตเตอรี่ไว้ในห้องเครื่องที่มีความร้อนสูง โดยมากใช้กับรถยนต์ญี่ปุ่น และ ปิคอัพ PUMA AGM ใช้สำหรับรถยุโรป ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายในห้องโดยสาร หรือ ช่องสำภาระ และ รถที่มีการติดตั้งระบบ Start Stop แบบ Advance ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่ ต้องรับภาระหนักกว่าแบบปรกติ ซึ่ง AGM แบตเตอรี่จะสามารถคายประจุไฟฟ้าได้ยาวนานกว่า EFB และมีอายุใช้งานยาวนานกว่า EFB
ที่สำคัญ ความพิเศษของแบตเตอรี่ PUMA Start Stop อยู่ที่อายุใช้งานยาวนาน ผ่านมาตรฐาน SBA S0101 ได้มากกว่า 30,000 Cycles และช่วยให้รถยนต์ ลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ (CO2) 3 – 10% และยังช่วยให้รถยนต์ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3 – 10%
คุณบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเป้าหมายการตลาด ผลิตภัณฑ์ PUMA Start Stop Series มีเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้ใช้รถรุ่นใหม่ที่ผลิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เริ่มมีการติดตั้งไดชาร์จอัจฉริยะ และ ระบบ Start Stop โดย PUMA Start Stop ได้รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 18 เดือน หรือ 60,000 กม. ทำให้ผู้บริโภค มั่นใจได้ในคุณภาพ ของแบตเตอรี่ PUMA Start Stop และ ทำให้บริษัทสร้างการเติบโต สู่ยอดขาย ระดับ 400 ล้านบาท/ปี ได้ในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้
แบตเตอรี่ PUMA ทุกรุ่น ผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่มีการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งทั้งในด้านรูปแบบแผ่นธาตุ ความจุกระแสไฟฟ้า และวัสดุที่ใช้. จึงทำให้ มีความคงทนต่อทุกสภาพอากาศ,เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้กำลังแรงสูง, แรงม้าที่สูง และรถยนต์ที่แต่งเครื่องเสียงระดับเทพ. ในปัจจุบันสำหรับคนใช้รถยนต์ญี่ปุ่นทั่วไปเริ่มรับรู้ว่า แบตเตอรี่ PUMA ป้อนกระแสไฟที่แรงให้กับรถยนต์ได้ดีและอายุงานยาวนาน. จึงทำให้มีเสียงกระแสการตอบรับเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญมาโดยตลอด
แบตเตอรี่ PUMA นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย “บริษัท เอ็ม เอฟ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ในประเทศไทย ผลิตโดย บริษัท จอนสันคอนโทรล เดลคอลล์ แบตเตอรี่ ประเทศเกาหลี เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ ที่มีกำลังผลิดมากที่สุดในโลก เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ใช้ เทคโนโลยีการผลิตแผ่นธาตุ ในระบบการรีดอัด ( Expansion Grid Technology ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยมากที่สุดในการผลิดแผ่นธาตุ สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ผลิตได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในแบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาจากโรงงานประกอบรถยนต์ (OEM part)”
เรื่อง : ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th