Range Rover เจเนเรชันใหม่เรียบหรูสง่างามพร้อมความทันมัย
Land Rover ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ของรถเอสยูวีหรูขนาดใหญ่ของตน Range Rover ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 5 ออกมาแทนที่เจเนเรชันก่อนหน้าที่ทำตลาดรถเอสยูวีหรูมา 10 ปีแล้ว โดยที่รถรุ่นใหม่มาพร้อมกับการใช้แพลตฟอร์มใหม่ รวมไปถึงแน่นอนว่ามีทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริด
Range Roverใหม่มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจนพร้อมยังคงให้ความหรูและสง่างามสมกับการเป็นรถเอสยูวีหรูรุ่นใหญ่ โดยที่ด้านหน้าของรถมาพร้อมกับทั้งไฟหน้าใหม่ดีไซน์ทันสมัย กระจังหน้าขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าและลายกระจังหน้าแบบใหม่ รวมไปถึงที่ด้านข้างของรถยังมีที่เปิดประตูแบบ Flush ที่เพิ่มความทันสมัยให้กับรถมายิ่งขึ้น ในขณะที่ด้านหลังมีการออกแบบไฟท้ายทรงเรียวแนวตั้งที่ขอบฝาท้ายซึ่งเมื่อไม่ได้เปิดไฟจะมีสีดำกลมกลืนไปกับแถบสีดำแนวนอนของฝาท้าย
ด้านขนาดของรถมีความยาวเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเลกน้อยด้วยความยาว 5,052 มม. โดยที่หากเป็นรุ่นฐานล้อยาวจะมีความยาวของรถเพิ่มขึ้นอีก 200 มม. โดยทาง Land Roverได้ระบุว่า Range Roverใหม่ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม MLA-Flex ใหม่สำหรับใช้กับรถในระดับเรือธงโดยที่สามารถใช้ได้กับทั้งเครื่องยนต์ รถปลั๊กอินไฮบริด และรถไฟฟ้า
Range Roverใหม่มีหลากหลายเครื่องยนต์ที่ใชประจำการขึ้นอยู่กับตลาดที่ขาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ไมลด์-ไฮบริด 395 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบที่ได้รับการอัพเกรดใหม่กำลัง 523 แรงม้า รวมไปถึงเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตรที่มีกำลัง 296 และ 345 แรงม้า นอกจากนี้ยังมี 2 ทางเลือกของรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ทาง Land Rover ระบุว่าสามารถให้ระยะการเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ถึง 100 กิโลเมตร โดยที่ใช้แบตเตอรี 38.2 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 105 kW ทำงานร่วมเครื่องยนต์ 6 สูบ 434 แรงม้า หรือ 503 แรงม้า ส่วนรุ่นไฟฟ้าล้วนทางผู้ผลิตรถเอสยูวีหรูระบุว่าจะเปิดตัวในปี 2024
แม้รถเอสยูวีหรูรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับการขับเคลื่อนด้วยทุกล้อเป็นมาตรฐาน แต่ระหว่างความเร็ว 34 – 160 กม./ชม. จะไม่มีการส่งกำลังไปยังเพลาหน้าของรถยกเว้นเมื่ออุณหภูมิใกล้จะถึงจุดเยือกแข็งและเมื่ออยู่ในสภาพที่ทำให้การยึดเกาะถนนของรถลดลง นอกจากนี้ยังมีระบบ Terrain Respond สำหรับการเดินทางไปบนเส้นทางลักษณะต่างๆ พร้อมกับมีเฟืองท้าย Active Rear Differential เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับช่วยในการไปบนเส้นทางทุรกันดาร รวมทั้งมีระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังเพื่อช่วยในการเดินทางนเส้นทางออฟโรด ในขณะที่ความสามารถในการลุยถูกระบุว่าสามารถลุยน้ำได้ลึก 900 มม.
สำหรับระบบช่วงล่างของรถทาง Land Roverนำเอาแอร์สปริงซึ่งเคยใช้อดีตมาใช้อีกครั้งกับ Range Roverใหม่โดยจะทำงานร่วมกับแอคทีฟแดมเปอร์ และระบบควบคุมการโคลงอีเล็กทรอนิก 48V รวมไปถึงยังมีการใช้ข้อมูลจากระบบนำทางอ่านสภาพถนนล่วงหน้า
ภายในห้องโดยสารมีจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 13.7 นิ้ว และจอระบบ Infotainment ขนาด 13.1 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยที่มีระบบตอบสนองเมื่อมีการสัมผัสหน้าจอ และยังสามารถเพิ่มจอขนาด 11.4 สำหรับผู้อยู่ที่เบาะหลังได้ โดยหากเป็นเกรดแต่งสูงจะมาพร้อมกับระบบเสียงจาก Meridian และระบบตัดเสียงรบกวนแอคทีฟในห้องโดยสาร ส่วนการขายทาง Land Rover เริ่มเปิดรับจอง Range Rover ใหม่แล้วในยุโรปโดยที่มีเกรด First Edition ที่มีเบาะหลังแบบ 2 ที่นั่งให้เลือกด้วยกับราคา 98,000 ปอนด์
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th