Range Rover Evoque คอมแพกต์เอสยูวีทรงสปอร์ต
หลัง Land Rover เปิดตัวและทำตลาดคอมแพกต์เอสยูวีหรูดีไซน์สปอร์ตด้วย Range Rover Evoque มาตั้งแต่ปี 2011 ล่าสุดคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นนี้ถูกเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่สองออกมาแล้ในอังกฤษ และพร้อมสำหรับการทำตลาดโลกในปีหน้า
โดย Evoque ใหม่ได้รับออกแบบภายนอกที่แทบจะถอดแบบมาจากรุ่นใหญ่กว่าอย่าง Velar ทั้งรูปทรงเรียวยาวของไฟหน้าแบบ Matrix LED กระจังหน้าทรงแคบยาว ไฟท้ายทรงเรียวยาวพร้อมการออกแบบให้มีลักษณะสามมิติ หรือแม้แต่เส้นด้านข้างของตัวรถ เรียกได้ว่าแทบเป็นการย่อส่วนมาจาก Velar โดยมีการออกแบบรายละเอียดของไฟหน้าและไฟท้ายรวมทั้งกันชนหน้าใหม่เท่านั้นที่สร้างความแตกต่างจาก Velar นอกเหนือไปจากขนาดของรถ
ขณะที่มิติตัวถังของ Evoque เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมในด้านความกว้างด้วยตัวเลข 2,100 มม. และความสูงที่ 1,649 มม. แต่ความความยาวของรถยังคงเท่าเดิมกับตัวเลข 4,371 มม. อย่างไรก็ตาม Evoque ใหม่มีระยะฐานล้อที่ยาว 2,681 มม. ซึ่งยาวขึ้นกว่าเจนเนอเรชั่นแรก 21 มม. จึงทำให้มีพื้นที่ช่วงเข่าในเบาะแถวที่สองกว้างขึ้น 20 มม. และด้วยความกว้างขึ้นของตัวรถส่งผลให้พื้นที่เก็บของด้านหลังกว้างขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งให้ความสะดวกขึ้นในการเก็บถุงกอล์ฟและกระเป๋าเดินทาง โดยมีความจุ 591 ลิตร แต่สามารถเพิ่มเป็น 1,383 ลิตรได้เมื่อพับเบาะแถวที่สองลง
ในด้านของเครื่องยนต์ Range Rover Evoque มาพร้อมกับทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบและดีเซล 4 สูบรวม 7 รุ่นซึ่งมีกำลังตั้งแต่ 150 แรงม้าไปจนถึง 300 แรงม้า โดยมี 6 รุ่นที่เป็นขุมกำลัง Mild-Hybrid ใช้เกียร์อัตโนมัติ ZF 9 สปีดส่งกำลังสู่ล้อทั้งสี่ มีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 150 แรงม้า พร้อมเกียร์แมนนวล 6 สปีดและระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงรุ่นเดียวสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการระบบไฮบริด
Evoque ใหม่มาพร้อมการทำงานทั้ง Active Driveline สำหรับควบคุมแรงบิดที่ให้ความสมดุลย์อย่างต่อเนื่องทั้งล้อหน้าและหลังเพื่อช่วยไม่ให้สูญเสียการทรงตัว และ Driveline Disconnect ที่ลดการส่งกำลังสู่ล้อหลังเพื่อลดการสูญเสียกำลังและช่วยในเรื่องการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าทั้งสำหรับการเดินทางในเมืองและบนเส้นทางขรุขระ และใช้เทคโนโลยี Terrain Respond 2 ที่นอกจากจะมีโหมดการขับมาให้เลือกสำหรับการเดินทางบนเส้นทางต่างๆ คือ Comfort, Sand, Grass-Gravel-Snow และ Mud & Ruts แล้วยังมีระบบออโต้ที่สามารถเลือกโหมดการขับที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ ขณะที่ตัวรถมีความพร้อมในการลุยพื้นที่ทุรกันดารต่างๆ ด้วยความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 212 มม. มีมุมไต่และมุมจาก 25 และ 30.6 องศา รวมทั้งสามารถขับลุยน้ำได้สูง 600 มม. โดยมีช่วงล่างที่รองรับการเดินทางทั้งในเมืองและนอกเมืองแบบแม็กเฟอร์สันตรัตที่ด้านหน้าและ Integral Link ที่ด้านหลังพร้อมระบบ Adaptive Dynamic ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพถนนทุก 10 วินาทีสำหรับปรับการทำงานของโช๊กตามสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงเพื่อให้การควบคุมที่ดีขึ้น
Evoque ใช้จอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้วและ Head-up Display สำหรับการแสดงสำหรับการแสดงข้อมูลแก่ผู้ขับ พร้อมกับจอขนาด 10 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment พร้อมกับให้ความสะดวกในการเชื่อมกับรถเพื่อรับรู้ข้อมูลและควบคุมการทำงานบางอย่างของ Evoque เช่น ตรวจสอบปริมาณน้ำมันในรถ ล็อกและปลดล็อก รวมไปปถึงปรับตั้งอุณหภูมิในห้องโดยสารล่วงหน้าผ่านแอพพ์จากสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอชต์ได้
Range Rover Evoque จะเริ่มการส่งมอบรถในปีหน้า ส่วนผู้ที่มองหารุ่นปลั๊กอินไฮบริด ไม่ต้องกังวลเพราะแพล็ตฟอร์มที่ใช้กับ Evoque ใหม่รองรับได้ทั้ง Mild-Hybrid และปลั๊กอินไฮบริด เพียงแต่ต้องรอหน่อย เพราะรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะเปิดตัวออกมาเป็นทางเลือกในปีหน้า
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th