Range Rover Sport เจเนเรชันใหม่ยังคงสไตล์เรียบรู้พร้อมเทคโนโลยีและหลากหลายระบบขับเคลื่อน
Land Rover เปิดตัวรถเอสยูวีหรูขนาดกลาง Range Rover Sport รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 ออกมา โดยที่ยังคงแนวทางการออกแบบที่เน้นความเรียบหรูและไม่พลิกสไตล์จากรุ่นเดิมนัก พร้อมกับใส่เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อความสบายในการเดินทางและมีหลากหลายระบบขับเคลื่อนให้เลือก แต่ยังคงไม่มีรุ่นไฟฟ้าล้วนให้เลือก
Range Rover Sport รุ่นใหม่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม MLA-FLEX ของ Land Rover เหมือนกับรถเอสยูวีรุ่นใหญ่ Range Rover ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับทั้งรถไมลด์ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด รวมทั้งรถไฟฟ้า โดยรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่มาพร้อมกับระยะ 2,977 มม. ระหว่างเพลาหน้ากับเพลาหลังซึ่งยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 54 มม.
ส่วนการออกแบบภายนอกของ Range Rover Sport ใหม่ไม่ได้พลิกสไตล์หนีจากจากรุ่นก่อนหน้ายังคงเน้นความเรียบหรูอยู่เหมือนเดิม ซึ่งทางผู้ผลิตรถเอสยูวีจากสหราชอาณาจักรระบุว่า รถมาพร้อมกับเส้นที่สะอาดและเสริมความงามด้วยที่เปิดประตูที่เรียบไปกับตัวรถรวมทั้งแนวเส้นด้านข้างที่ยาว และเส้นหลังคาที่เฉียบคม ซึ่งด้วยการออกแบบส่วนต่างๆ ภายนอกรถทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงด้านแค่ 0.29 Cd
เมื่อดูถึงรายละเอียดภายนอกรถ Range Rover Sport ใหม่ถูกระบุว่ามาพร้อมกับกระจังหน้า Stealth-like ไฟหน้า LED ดิจิตลทรงเรียว ในขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้าย LED และแถบยาวระหว่างไฟท้ายที่มีชื่อ Range Rover ซึ่งสะท้อนการออกแบบมาจากด้านหน้ารถ พร้อมมีสปอยเลอร์หลังที่ยาว
สำหรับภายในห้องโดยสารนอกจากพื้นที่มากขึ้นโดยมีพื้นที่ส่วนขาเเพิ่มขึ้น 31 มม. และพื้นที่ส่วนเข่าเพิ่มขึ้น 20 มม. ในส่วนของเบาะหลังเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าจากระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นแล้ว รถเอสยูวีรุ่นใหม่ยังมาครบทั้งความทันสมัยและความสบายของผู้อยู่ในห้องโดยสาร ด้วยจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 13.7 นิ้ว และจอทัชสกรีนขนาด 13.1 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment โดยที่หน้าจอมีการตอบสนองต่อการสัมผัส และมาพร้อมกับ Amazon Alexa ซึ่งสั่งงานได้ด้วยเสียง
ส่วนเบาะหน้าของรถสามารถปรับไฟฟ้าได้ 22 ทิศทางพร้อมกับมีทั้งระบบปรับความอุ่นและระบายอากาศ รวมไปถึงมีฟังก์ชันนวดและมีปีกพนักพิงศรีษะเพื่อช่วยสนับสนุนการเดินทางไกล นอกจากนี้ทาง Land Rover ยังให้ความมั่นใจในด้านสุขอนามัยเมื่ออยู่ในรถด้วยระบบฟอกอากาศ Cabin Air-Purification Pro ที่มีทั้งความสามารถในการกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี NanoeX ที่ช่วยลดกลิ่น แบคทีเรีย และสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ภายในรถ
ในส่วนการขับเคลื่อนความหรูมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา เบนซินไมด์ไฮบริด เครื่องยนต์ดีเซลไมลด์ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด โดยรุ่นที่มีกำลังมาสุดคือ P530 มากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบใหม่ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 4.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ขณะที่รุ่นสมรรถนะสูงสุดในแบบปลั๊กอินไฮบริดคือ P510e ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 105 kW และแบตเตอรี 38.2 kWh มีกำลัง 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และสามารถเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ 113 กิโลเมตร
ทุกรุ่นเครื่องยนต์ส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ZF ผ่านระบบ Intelligent All-Wheel Drive ซึ่งจะมีการหยุดส่งกำลังสู่ล้อหน้าเมื่อการขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อก็มีการยึดเกาะที่เพียงพอเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิง
Range Rover Sport เจเนเรชันที่ 3 ให้ความสบายในการเดินทางทั้งบนทางเรียบและทางขรุขระด้วยระบบควบคุมการทรงตัว 48 V Active Roll Control ที่มาจาก Range Rover Sport SVR รุ่นท็อปของเจเนเรชันที่แล้ว และ Terrain Response Controller ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วสำหรับการปรับความเร็วของรถตามลักษระของรถในขณะลุย นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังเพื่อช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้น และสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 900 มม. ใน Wade Mode ที่มีการปรับความสูงของรถเพิ่มขึ้น
ทาง Land Rover รับจอง Range Rover Sport ใหม่แล้วในสหราชอาณาจักร โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 79,125 ปอนด์