Mercedes-Benz เผยโฉมรถใหม่ที่จะส่งไปทำหน้าที่รถเซฟตีคาร์และรถเมดิคัลคาร์ในการแข่งขันฟอร์มูลาวันฤดูกาล 2022 นี้ โดยประกอบด้วย Mercedes-AMG GT Black Series ซึ่งรับหน้าที่รถเซฟตีคาร์แทน GT R ที่เคยรับหน้าที่นี้ในฤดูกาล 2021 ที่ผ่านมา และ Mercedes-AMG GT 63 S 4Matic+ รับหน้าที่รถเมดิคัลคาร์ ซึ่งเป็นการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบคนละสนามกับรถเซฟตีคาร์และรถเมดิคัลคาร์จาก Aston Martin

แม้ Mercedes-AMG ทั้ง 2 รุ่นที่ทำหน้าที่ในฟอร์มูลาวันฤดูกาลนี้มีตัวรถสีแดงโดยที่แต่งด้วยสีดำและกราฟฟิกสีขาวบนตัวรถเหมือนกัน แต่แทนการมีแถบไฟบนหลังคาตามปกติของรถเซฟตีคาร์ซึ่งจะทำให้สูญเสียแอโรไดนามิกของรถ AMG GT Black Series จึงถูกติดตั้งไฟ LED ไว้ที่ส่วนบนของกระจกหน้ารถ ที่สปอยเลอร์หลัง และแผ่นป้ายด้านหลังรถแทน โดยใช้ไฟสีส้มเพื่อระบุว่าห้ามรถแข่งฟอร์มูลาวันแซงรถเซฟตี้คาร์ และไฟสีเขียวเพื่อแสดงว่ารถแข่งสามารถแซงได้ นอกจากนี้ที่สปยเลอร์หลังของรถยังมีชุดกล้องความละเอียดสูงหลายตัว โดยที่ตัวหนึ่งจะส่งภาพที่เกิดขึ้นสดไปภายในรถเพื่อให้โค-ไดรเวอร์ดู ขณะที่กล้องตัวอื่นเป็นการขับภาพวิดีโอฟุตเทจสำหรับการถ่ายทอดทีวี นอกจากนี้ยังมีไฟ SC สีส้มสว่างขึ้นที่กระจกเหนือซุ้มล้อหลังของรถเซฟตีคาร์เมื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่

ภายในห้องโดยสารของ AMG GT Black Series เซฟตีคาร์มาพร้อมกับ Track Package ซึ่งประกอบด้วยโรลเคจซึ่งเป็นท่อกลมไทเทเนียม เบาะบักเก็ตซีตน้ำหนักเบาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 6 จุด ช่องใส่ขวดน้ำที่ปีกเบาะด้านข้าง มีแท็บเล็ตติดตั้งไว้ทั้งที่คอนโซลกลางและแผงแดชบอร์ด เพื่อแสดงภาพสดที่มาจากกล้องด้านหลังและภาพจากการถ่ายทอดทางทีวีเพื่อให้โค-ไดร์เวอร์เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามแข่ง

อุปกรร์ภายในรถยังรวมไปถึง InCar Hotspot พร้อม WILAN, ระบบ GPS ความละเอียดสูง, ปุ่มสำหรับควบคุมวิทยุสื่อสาร, ปุ่มควบคุมระดับเสียง, ไฟสัญญาณเตือนพิเศษ และระบบวิทยุสื่อสารที่สองสำหรับกรณีฉุกเฉิน

ใต้ฝากระโปรงของ Mercedes-AMG GT Black Series แม้จะเป็นเครื่องยนต์เดิมๆ จากโรงงาน V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 730 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีดส่งกำลังสู่ล้อหลัง ซึ่งทำให้ใช้เวลา 3.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กม./ชม. แต่ก็เพียงพอที่อาจจะเป็นรถเซฟตี้คาร์ที่มีความเร็วมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว

ส่วนรถเมดิคัลคาร์ Mercedes-AMG GT 63 S 4Matic+ แม้จะไม่ได้มีความแรงเท่า Mercedes-AMG GT Black Series แต่ก็เป็นการขยับความแรงขึ้นจากรถเดิมที่รับหน้าที่เมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็น Mercedes-AMG C 63 S Estate พอสมควร จนทำให้ทางค่ายดาวสามแฉกระบุว่าเป็นรถเมดิคัลคาร์ที่เร็วและมีกำลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟอร์มูลาวัน เพราะรถเมดิคัลคาร์ในฤดูกาลนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่มีกำลัง 639 แรงม้า โดยใช้เกียร์ AMG Speedshift MCT 9G ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ของรถสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 315 กม./ชม.

เนื่องจากรถเมดิคัลคาร์ถูกออกแบบเพื่อให้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อเหตุฉุกเฉินโดยมีทีมงานด้านการแพทย์ 3 คนและจอดรออยู่ในพิตเลนขณะมีการแข่งขัน จึงทำให้ภายในรถมีแท็บเล็ต 3 เครื่อง, InCar Hotspot และ WILAN โดยที่มีการใช้ทั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุดและ 4 จุดภายในรถ รวมทั้งมีอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างถุงมือป้องกันการติดเชื้อ, เครื่องช่วยหายใจ, อุปกรณ์ตัดเพื่อการช่วยชีวิต และ 2 อุปกรณ์ดับไฟ ในขณะที่ภายนอกรถมีการติดแถบไฟเหนือช่องดักอากาศคาร์บอนไฟเบอร์บนหลังคาที่ออกแบบพิเศษเพื่อเสริมแอโรไดนามิกของรถ รวมทั้งมีแผ่นป้ายไฟระบุรถเมดิคัลคาร์ด้านหลัง

ทั้งรถ Mercedes-AMG เซฟตีคาร์และเมดิคัลคาร์จะเริ่มรับหน้าที่ในฟอร์มูลาวันฤดูกาล 2022 ที่การแข่งขันบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคมนี้