RENAULT EZ-ULTIMO Robo-vehicles ยานยนต์ไร้คนขับกำลังจะมา
ระบบขับขี่ในรูปแบบ Autonomous หรือยานยนต์ไร้คนขับ กำลังจะมา เริ่มต้นจากระดับพื้นฐานที่ยังต้องพึ่งพาทักษะของมนุษย์ในการตัดสินใจ ไล่เรียงไปจนถึงอัตโนมัติเต็มระบบ ที่รถจะไม่มีทั้งพวงมาลัย แป้นคันเร่ง และแป้นเบรกอีกต่อไป มนุษย์ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้โดยสาร และออกคำสั่งเพื่อระบุจุดหมายปลายทาง จากนั้น…ใช้เวลาระหว่างการเดินทางได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะนอนหลับพักผ่อน อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน หรือแม้แต่การประชุม ทั้งหมดเป็นแนวคิดเริ่มต้นของรถต้นแบบ RENAULT EZ-ULTIMO ที่ตนสังกัดได้ให้นิยามไว้ว่า Robo-vehicles
- พื้นที่ด้านบนเป็นกระจก ปรับระดับการส่องผ่านของแสง (และการมองเห็น) ได้ตามความต้องการ
Robo-vehicles เป็นพาหนะทำหน้าที่เสมือนเป็นหุ่นยนต์ รองรับการเดินทางแบบสบายๆ โดย EZ-ULTIMO มีที่มาจาก ‘EASY-ULTIMO’ สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายในทุกสิ่งอย่าง นอกเหนือจากการเป็นรถส่วนบุคคล รถต้นแบบรุ่นนี้ยังมี Business Model ร่วมกับธุรกิจบริการระดับพรีเมียมทุกแขนง อาทิ สายการบิน ให้บริการผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class รับ-ส่ง จากสนามบินตรงถึงโรงแรมที่พัก [expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
จับมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สำหรับการจับจ่ายในสไตล์ Unique Shopping มีรถมารับ ช็อปเสร็จ EZ-ULTIMO บรรทุกของพร้อมคนไปส่งให้ถึงบ้าน หรือโรงแรมที่พัก ทัวร์ชมเมือง จากบริษัทท่องเที่ยว ห้องประชุมเคลื่อนที่ สำหรับผู้บริหาร หรือแม้แต่พาหนะทางเลือก ในการเดินทางระหว่างเมือง สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความอลหม่าน และขั้นตอนต่างๆ ของสนามบิน ฯลฯ
- ห้องโดยสารปรับเปลี่ยนได้ ตามรูปแบบการใช้งาน
ประสบการณ์กว่า 120 ปี ในการสร้างรถของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส อย่าง RENAULT ถูกส่งตรงมายังรถต้นแบบ EZ-ULTIMO ทั้งในเรื่องของแฟชั่นงานดีไซน์ตัวรถ รวมทั้งรายละเอียดงานตกแต่งห้องโดยสาร ที่ดูประหนึ่งเป็นห้องรับแขกในคฤหาสน์หลังใหญ่ โดดเด่นทั้งเรื่องงานออกแบบ โทนสี การเลือกใช้แสงสว่าง การคัดสรรวัสดุเกรดพิเศษ รวมทั้งเรื่องการสื่อสาร ที่ตัวรถมีพร้อมทั้ง GPS และ Wi-Fi G5 ซึ่งตัวจานรับสัญญาณถูกซ่อนไว้ใต้พื้นหลังคากระจกชิ้นใหญ่
- ความยาวระดับ7 เมตร พร้อมระยะฐานล้อ 3.88 เมตร ส่งผลให้ออกแบบห้องโดยสารได้กว้างขวางเต็มพิกัด
EZ-ULTIMO มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติตามมาตรฐาน SAE Level 4 หรือ High Autonomous (สูงสุดคือ Level 5 || Full Autonomous) เป็นยานยนต์ไร้คนขับ ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องการควบคุม หรือดูแลโดยมนุษย์ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด อาทิ ประเภทถนนหรือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ สรุปก็คือ ใน Level 4 ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ในบางพื้นที่ของเมืองที่วางพื้นฐานโครงสร้างไว้รองรับรถกลุ่มนี้เรียบร้อย
- มุมสบายๆ ส่วนตัว สำหรับทุกคน
นอกจากการตอบโจทย์ความต้องการเป็นการส่วนตัว หรือเฉพาะกลุ่มบุคคล EZ-ULTIMO ยังไม่ปล่อยผ่านคอนเซปต์ Car Sharing หรือบริการแบ่งเช่ารถ ที่ตอบโจทย์การเดินทางของคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น สมาชิกเริ่มต้นใช้บริการด้วยการเรียกผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน (EZ-ULTIMO app) พร้อมระบุปลายทาง เพื่อระบบจะคำนวณระยะทางที่รถวิ่งได้ จากพลังงานไฟฟ้าที่เหลืออยู่ โดย EZ-ULTIMO ทุกคัน จะเชื่อมโยงตำแหน่งซึ่งกันและกัน ผ่าน Autonomous Driving Could
จากนั้นรถคันที่ว่างอยู่ และใกล้สมาชิกที่สุด (ต้องสมัคร Member ด้วย) ก็จะแวะมารับ ขณะเดินทาง หากสมาชิกท่านอื่นเรียกใช้บริการจาก Car Sharing และเดินทางไปในเส้นทางที่ใกล้เคียงกัน ระบบจะถามว่า คุณต้องการเพื่อนร่วมทางหรือไม่ ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็ปฏิเสธได้ทันที และหากต้องการสมาชิกมาร่วมแชร์ค่าเดินทาง ก็สามารถตอบรับคำสั่งผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้ทันที เมื่อส่งผู้โดยสารเรียบร้อย หากไม่มีการเรียกใช้บริการต่อ EZ-ULTIMO ก็จะไปวิ่งหาจุดชาร์จไฟแบบ Wireless Charging เพื่อสำรองพลังงานเข้าแบตเตอรี่อัตโนมัติ
- EZ-ULTIMO ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หน้า เน้นความสบายในการเดินทางด้วยช่วงล่างถุงลม พร้อมระบบบังคับเลี้ยวทั้ง 4 ล้อ
EZ-ULTIMO มีความกว้าง ความยาว และความสูง อยู่ที่ 2.2, 5.7 และ 1.35 เมตร ตามลำดับ ตัวรถใช้บานประตูขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 2.63 เมตร และออกแบบลักษณะการเปิดเป็น 2 ส่วน คือ ทั้งบานเลื่อนเปิดมาทางด้านหน้ารถ ขณะที่ส่วนของกระจกหน้าต่างจะเปิดขึ้นด้านบนในรูปแบบปีกนกนางนวล ห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง และความสบายในการ เข้า-ออก ระยะฐานล้อที่มีมากถึง 3.88 เมตร พร้อมห้องโดยสารที่ตัดเบาะนั่งแถวหน้าออก (คนขับและผู้โดยสารด้านหน้า) พื้นที่ใช้สอยของ EZ-ULTIMO จึงมีให้มากกว่าลีมูซีนทั่วไป พื้นห้องโดยสาร รวมทั้งขอบคิ้วรอบๆ ใช้ลายไม้ เพื่อยกระดับความไฮคลาส
ข้อมูลเชิงเทคนิค RENAULT ให้เพียงรายละเอียดพื้นฐาน ได้แก่ EZ-ULTIMO ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านล้อคู่หน้า ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ วางเต็มใต้พื้นห้องโดยสาร เพื่อให้รถรองรับการเดินทางระหว่างเมือง น้ำหนักของรถทั้งคันอยู่ที่เพียง 1,800 กิโลกรัม เน้นความนุ่มนวลในการเดินทางด้วยช่วงล่างแบบถุงลม เมื่อใช้ความเร็ว ถุงลมก็จะปรับลดความสูงตัวถังลงอัตโนมัติ เพื่อลดแรงต้านอากาศ ลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางทั้งในเมือง และบนไฮเวย์ จากการใช้ระบบบังคับเลี้ยวทั้ง 4 ล้อ
- EZ-ULTIMO พร้อมจับมือกับธุรกิจบริการระดับพรีเมียมทุกแขนง อาทิ สายการบิน ให้บริการผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class รับ-ส่ง จากสนามบินตรงถึงโรงแรมที่พัก
- กระจกหน้าต่างเปิดขึ้นด้านบนในรูปแบบปีกนกนางนวล มีความสูงถึง 64 เมตร คุณสุภาพสตรีก้าวเข้าห้องโดยสารได้แบบง่ายๆ
แนวคิด Robo-vehicles จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่รถไฟฟ้าไร้มลพิษ แต่ออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่จะพึ่งพาระบบอัตโนมัติเป็นหลัก และไม่สะดวกในการมีรถส่วนตัว ทั้งหมดคืออนาคตอันใกล้ของรถที่จะถูกใช้สำหรับงานบริการ เดินทางด้วย Autonomous Driving จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย ในระดับ รับ-ส่ง ถึงประตูบ้าน หรือหน้าโรงแรม และที่ทำงาน โดยที่การเดินทางไม่ได้สร้างมลพิษใดๆ ให้กับสิ่งแวดล้อมเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้ง Robo-vehicles จะไม่มีการปฏิเสธผู้โดยสาร และน่าจะถูกใจผู้โดยสารสุภาพสตรีเป็นพิเศษ ที่ไม่ต้องมาคอยระวังภัยจากพฤติกรรมของคนขับรถอีกต่อไป
เรื่อง : พิทักษ์ บุญท้วม
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]