Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance ประกาศแผนงานสำหรับอนาคต
หลังการแต่งตั้ง Luca de Meo เป็นซีอีโอคนใหม่ของกลุ่ม Renault ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมได้ไม่นาน กลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance ก็ได้มีการแถลงกรอบการทำงานร่วมกันสำหรับอนาคตออกมา โดยสิ่งสำคัญที่ทั้ง 3 ผู้ผลิตรถยนต์เน้นคือ ความจำเป็นด้านกลยุทธ์การเติบโตและการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของแต่ละบริษัท
จากการประชุมของ Alliance Operation Board ในโยโกฮามาที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการยืนยันถึงกรอบการทำงานเพื่อเพิ่มการสนับสนุนธุรกิจของกลุ่มพันธมิตรและเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านการจัดการโครงสร้าง รวมทั้งมีความตกลงในการที่แต่ละบริษัทสมาชิกจะสามารถใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเสริมความสมบูรณ์ในยุทธศาสตร์ของตนเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้จากแถลงการณ์ว่า “เราส่งเสริมการมีรุ่นรถที่มีความร่วมมือกันเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความแข็งแกร่งภายในของแต่ละบริษัท เพื่อเพิ่มการเป็นผู้นำในภูมิภาคต่างๆ ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีให้มากขึ้น” ยังหมายถึงการที่แต่ละบริษัทจะเป็นบริษัทหลักในภูมิภาคต่างๆ อย่าง Nissan จะเน้นที่จีน Renault ในยุโรป และ Mitsubishi ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในด้านวิศวกรรม Alliance จะทำงานทั้งการเป็นผู้นำและผู้ตามในด้านรถรุ่นต่างๆ โดยมีการเพิ่มแพลตฟอร์ม เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้แต่ละบริษัทใน Alliance เป็นผู้นำสำหรับการพัฒนาแต่ละเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งจะถูกกระจายไปให้แต่ละบริษัท นอกจากนี้ Alliance Operation Board ยังเห็นชอบที่จะรวมเครดิต CAFÉ (Clean Air for Europe) ในยุโรปด้วยกันตั้งแต่ต้นปี 2020 รวมไปถึงมีจะมีแผนด้านรถเพื่อการพาณิชย์น้ำหนักเบา โดยพัฒนารถแวนของ Mitsubishi จากแฟลตฟอร์มของ Renault Trafic ซึ่งจะมีการผลิตที่โรงงานในฝรั่งเศสสำหรับขายในภูมิภาคโอเชียเนียด้วย
สิ่งสุดท้ายจากการประชุมที่ได้แถลงออกมาของ Alliance คือจะมีแผนยุทธศาสตร์ระยะกลางของทั้ง 3 บริษัทเปิดเผยออกมาตอนเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีสิ่งที่มาจากการตัดสินใจของ Alliance Operation Board รวมอยู่ด้วย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th