เรนาสโซ เดินเครื่องเต็มสูบ-เปิดโชว์รูมลัมโบร์ฯ กรุงเทพ, ตั้งเป้าขาย 40 คัน!!!

เรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายลัมโบร์กินี ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลี่ยน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวโชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจรมูลค่ารวม 180 ล้านบาท ริมถนนวิภาวดีรังสิต เผยกำหนดส่งมอบ Lamborghini Huracan EVO โมเดลใหม่ล่าสุดในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมตั้งเป้าทำยอดขาย 40 คันในปีนี้

เรนาสโซ มอเตอร์ ในเครือชาริช โฮลดิ้ง ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินี อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ โชว์รูม และศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดของแถบเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งเป็นหนึ่งในศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถเข้าซ่อมบำรุงได้มากที่สุดของทุกภูมิภาคสูงสุดที่ 70-80 คันต่อเดือน

โชว์รูม Lamborghini Bangkok ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ลัมโบร์กินี ในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 5,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่โชว์รูม 465 ตารางเมตร พื้นที่ศูนย์บริการกับคลังอะไหล่ 1,720 ตารางเมตร และพื้นที่สำนักงานกับพื้นที่ใช้สอยเบ็ดเตล็ดอีก 2,538 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร บนถนนวิภาวดีรังสิต

เฟเดอริโก ฟอสชินี ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์บริษัทออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ลัมโบร์กินี ได้พิสูจน์ถึงความสำเร็จอย่างเสมอต้นเสมอปลาย โดยในปี 2018 ยังคงประสบความสำเร็จอย่างสูงติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ซึ่งยืนยันถึงความยั่งยืนของกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์รถซูเปอร์สปอร์ต และด้านการค้าของเรา นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นั่นคือการเปิดตัวกระทิงดุสายพันธุ์ใหม่ Lamborghini Huracan EVO ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์ ภายใต้กลยุทธ์การบริหารแบรนด์รถซูเปอร์สปอร์ตควบคู่ไปกับรถซูเปอร์เอสยูวี”

Lamborghini Huracan EVO ปรับแอโรไดนามิกพร้อมใช้พลังจากรุ่นสมรรถนะสูง

ขณะที่มัตเตโอ ออเทนซี่ ประธานกรรมการบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ลัมโบร์กินี เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และได้รับการยอมรับเชื่อถือจากลูกค้าทั่วโลก การประกาศแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใหม่ได้ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการร่วมงานกันระหว่างลัมโบร์กินี และบริษัทเรนาสโซ มอเตอร์ ในเครือชาริช โฮลดิ้ง จะช่วยสื่อสารคุณค่า ภาพลักษณ์ และแนวทางการดำเนินงานอันน่าเชื่อถือไปยังแฟนลัมโบร์กินี ทั้งกลุ่มลูกค้า และผู้ที่สนใจ โดย ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ จะยิ่งช่วยเสริมแบรนด์ที่แข็งแรงอยู่แล้วให้แกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการส่งมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กินีที่เหนือระดับที่ใครก็เทียบไม่ได้”

ทางด้านคุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริษัทเรนาสโซ มอเตอร์ กล่าวว่า “การเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กินีหมายถึงเอกสิทธิ์ในระดับสูงสุดของการขับขี่ ดังนั้นลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ จึงคัดสรร และพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบ การก่อสร้าง การตกแต่ง เพราะการขาย และการให้บริการรถซูเปอร์คาร์ระดับโลก ต้องมาพร้อมกับมาตรฐานชั้นนำระดับโลก เพื่อให้เจ้าของรถผู้ทรงเกียรติ และผู้มาเยือนทั้งหลายจะได้สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนการได้รับบริการจากโรงแรมระดับ 6 ดาว รวมถึงการซ่อมบำรุงที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ซึ่งรวมถึงด้านความปลอดภัย และความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่เจ้าของผู้ครอบครองรถลัมโบร์กินีทุกท่าน มาตรฐานบริการระดับโลกเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ลัมโบร์กินี เป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์ชั้นแนวหน้าที่ครองใจคนไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

นอกจากนี้คุณอภิชาต เปิดเผยว่าในปี 2019 เรนาสโซ มอเตอร์ จะได้รับโควตารถลัมโบร์กินี ที่จะส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยราว 40 คัน รวมถึงโมเดลใหม่ล่าสุด Huracan EVO ที่เพิ่งเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมพร้อมจะส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ทันที

โชว์รูม และศูนย์บริการของลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ มีการตกแต่งภายนอกที่สะดุดตาด้วยโลโก้ลัมโบร์กินีสีเหลืองบนพื้นหลังสีดำ เมื่อเข้าสู่ด้านในจะพบกับเหลี่ยมมุมการดีไซน์ที่ลุ่มลึก พื้นผิวและการจัดแสงที่รับกัน ช่วยขับความงามของลัมโบร์กินีที่เป็นดั่งชิ้นงานศิลปะให้โดดเด่นออกมา ผู้มาเยือนจะ “สัมผัส และรู้สึก” ได้ถึงประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งจิตวิญญาณของลัมโบร์กินี โดยเฉพาะห้อง AdPersonam ที่สามารถเลือกปรับแต่งรถลัมโบร์กินี ให้สะท้อนบุคลิกได้ตามต้องการ พร้อมเห็นตัวอย่างการตกแต่งภายนอก และภายในด้วยระบบ Interactive

ศูนย์บริการลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ เป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรแห่งแรกที่เป็นห้องปิดติดระบบปรับอากาศทั้ง 7 ช่องซ่อม พร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ควรค่ากับเจ้าของลัมโบร์กินี ผู้ทรงเกียรติพึงได้รับ พร้อมให้บริการด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ครบถ้วน ทีมงานทีมงานที่มีความรู้ และประสบการณ์มากกว่า 20 ปี สามารถรองรับรถลัมโบร์กินีได้มากกว่า 1,000 คันต่อปี ทำให้มั่นใจได้ว่าทีมงานสามารถวิเคราะห์สภาพรถ และปรับแต่งให้รถหรูของทุกท่านพร้อมโลดแล่นด้วยสมรรถนะสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ภายในงานยังได้จัดแสดง Lamborghini Aventador SVJ ราคา 44.5 ล้านบาท ให้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินี ในเมืองไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดย Aventador SVJ เป็นรถยนต์แบบโปรดักชั่นที่สามารถทำลายสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในสนามนูร์เบิร์กริงต์ ด้วยเวลา 6.44.97 นาที ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น

นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้วอเวนทาดอร์ เอสวีเจ มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่า Aventador SV 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นกระทิงเปลี่ยวที่ดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี