รีวิว NEW HONDA BR-V ช่วงล่างนุ่ม แน่น เครื่องยนต์พลังแรง แต่ราคาแพงไปไหม ?
รีวิว NEW HONDA BR-V พัฒนาโดยคนไทย เพื่อคนไทย ปรับช่วงล่างใหม่ยกชุด นุ่ม แน่น เครื่องยนต์แรง ลื่นไหล แต่ราคาเหมือนจะแพงไปไหม ?
หลังจาก ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดตัว “ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่” เจเนอเรชันที่ 2 รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ก็เล่นเอาใครและใคร ต่างคิ้วมัดรวมผูกได้เป็นโบว์ดอกใหญ่ ว่าด้วยเหตุผลอะไร ที่กล้าท้าตลาดตั้งราคาขายให้มีราคาแพงสุดในกลุ่ม MINI MPV ในเมืองไทย ไปได้ไกลขนาดนี้
ราคา All-New Honda BR-V ทั้ง 2 รุ่นย่อย
• รุ่น EL ราคา 973,000 บาท (สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) เพิ่ม 4,000 บาท)
• รุ่น E ราคา 915,000 บาท (สีดำคริสตัลมุก เพิ่ม 6,000 บาท)
ฮอนด้า บีอาร์-วี รุ่นปี 2022 ถูกออกแบบและพัฒนาภายใต้ฝีมือของคนไทย ในสังกัดฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ซึ่งรับหน้าที่วิจัยและพัฒนายานยนต์ในภูมิภาคนี้ แต่จากเดิมผลิตในโรงงานฮอนด้าประเทศไทย ถูกจับโยกฐานการผลิตไปยังฮอนด้าอินโดนีเซีย ซึ่งนอกจากเรื่องการจัดสรรเรื่องฐานการผลิตให้ลงตัวแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ อินโดนีเซีย เป็นตลาดที่รถกลุ่ม MPV มีความนิยมสูงและเห็นแหล่งขุมทรัพย์มหาศาลของหลายค่ายรถ
ส่วนคำถาม…ว่าทำไมราคาแพง อธิบายตั้งแต่พารากราฟนี้เลยว่า หากย้อนไปดูราคาตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกจะพบว่าด้วยออปชั่นและฟังก์ชั่นของรถที่เปิดตัวออกมาในช่วงเวลานั้น แต่ตั้งราคาขาย รุ่น V (เบาะ 2แถว 5ที่นั่ง) ราคา 7.65 แสนบาท รุ่น SV (เบาะ 3แถว 7ที่นั่ง) ราคา 8.35 แสนบาท ฮอนด้า บีอาร์-วี ไม่เคยเป็นรถราคาถูก
ฉะนั้น การพัฒนาปรับปรุงทั้งโครงสร้างใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ ระบบความปลอดภัยฮอนด้า เซนซิ่ง 6 ระบบ วัสดุตกแต่งภายในที่ดูดีขึ้น การจะเพิ่มราคาขายไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ขาดอีก 3 หมื่นแตะหลักล้าน มันจะแพงปุยมุ้ย ? พ่อเอ้ย !!!!
เพื่อมิให้ได้ดูเป็นการใส่ไคล้ เรามาลอง ทดราคาขาย BR-V ไว้ในใจ แล้วมาไล่เรียงดูออปชั่นของตัวรถไปทีละส่วนว่า มันคุ้มค่า คุ้มราคา กับเงินที่คุณควรจะจ่ายออกไปเพื่อแลกกับรถลูกครึ่งไทย-อินโด คันนี้ไหม
ดีไซน์ภายนอก
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นในรุ่
น EL ที่มาพร้อมสี Piano Black - กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรั
บการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED - ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
- คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
- ราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)
ดีไซน์ห้องโดยสาร
- ห้องโดยสารกว้างขวาง คอนโซลดีไซน์ใหม่ วัสดุ
ตกแต่งแบบ Piano Black - เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสั
งเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย - ช่องเก็บของ รวมที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง
- พนักเท้าแขนด้านหน้าและด้
านหลัง - ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้
โดยสารด้านหลัง - ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่
องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ครั้งแรกของเซ็กเมนท์นี้ในตลาด - ห้องเก็
บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่ าเจเนอเรชันก่อน - เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ปรับพับเพื่อเพิ่มพื้
นที่ใช้สอยได้ หลากหลายรูปแบบ - เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น ปรับพับแยกแบบ 60:40 พับแบบ One Motion ปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอน 3 ระดับ
- เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น พับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์ CVT
- อัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร
- รองรับพลังงานทางเลือก E20
ระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิง
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมู
ลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว - ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่
พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL) - ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผั
สขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto - พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสี
ยงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ - ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
- ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
เทคโนโลยี ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING 6 ระบบ
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่
วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) - ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่
องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) - ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่
อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) - ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
แบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) - ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่
อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
เทคโนโลยีเพื่ อความปลอดภัยอื่นๆ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่
ยนเลน (Honda LaneWatch) (กล้องชัดกว่า HR-V) - ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุ
ญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) - ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ
ตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed) - ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- กล้องส่องภาพด้านหลัง
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ
ขณะเบรกกะทันหัน (ESS) - ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่
บนทางลาดชัน (HSA) - ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้
าโค้ง (VSA) - ระบบป้องกันล้อล็
อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD) - โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้
องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง - จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
รายละเอียดของตัวรถจะเห็นได้ว่ามีหลายจุดที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นเดิม การเลือกใช้วัสุภายในต้องยอมรับว่าทำได้ดี การใช้หนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์ให้สัมผัสที่ดี การปั๊มลายพลากสติกภายในไม่ดูเฉย ผสมวัสดุหลายพื้นผิวได้ลงตัว โดยเฉพาะตรงบริเวณจอวิทยุ ดูทำให้รถดูมีคลาสขึ้น หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด ก็ดูจะแพ้แค่ มิตซูบิชิ เอ็กซืแพนเดอร์ เท่านั้น
การเพิ่มระบบความปลอดภัยเข้ามา โดยเฉพาะกับฮอนด้า เซนซิ่ง ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับที่อยู่ใน HONDA CITY ก็อยู่ในระดับที่เกือบครบครัน ขาดไปอีก 2 ระบบ ก็แทบจะเท่ากับชุดที่อยู่ในฮอนด้า ซีวิค แล้ว สิ่งที่โดดเด่นจนเป็นแสงสว่างวาบขึ้นมากลางใจ คือ เรื่องความคมชัดของจอ เวลาแสดงผล Honda LaneWatch และกล้องมองหลัง ชัดกว่า HR-V แต่สิ่งที่ดูจะเป็นของแสลงฮอนด้า และไม่มีทีท่าจะมาบรรจบกัน คือ เรื่องของกล้องมองรอบคัน ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหน สาวกฮอนด้าจะได้มีโอกาสสัมผัส
ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ กับสมรรถนะที่แตกต่างไปไม่เหมือนเดิม
ด้านคุณลักษณะการขับขี่ มีโอกาสสอบถามพูดคุยกับทีมวิศวกรคนไทย ที่เป็นผู้ปลุกปั้นให้รถอเนกประสงค์คันนี้ถือกำเนิดเกิดมา เค้ามีความตั้งใจเซ็ทรถให้ออกมามีสมรรถนะที่ดีและเหนือไปกว่ารุ่นเดิม โดดเด่นมาก คือ เรื่องของช่วงล่าง ปรับจูนหลายจุดทั้งตัวสปริง ทั้งมุมการรับแรงสะเทือนจากผิวถนน ที่ทำให้ช่วยซึมซับได้ดี จนแรงสะเทือนส่งไปถึงผู้โดยสารได้น้อย ช่วงล่างมีความนุ่มนวล แต่แน่นหนัก เน้นรองรับการใช้งานแบบครอบครัว
เส้นทางทดสอบ คือ กรุงเทพ-แก่งคอย สภาพถนนค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งหลุมบ่อ และลาดยางเรียบเนียน ตัวถังหลายจุดมีการแดมป์ปิ้งเก็บเสียงให้ดีกว่าเดิม เสียงที่ลดลงชัดเจน คือ เสียงเครื่องยนต์ถ้าเทียบกับรุ่นเดิม ไม่รำคาญเวลาต้องกดใช้พละกำลังเครื่องมาก ๆ แต่ก็ไม่ดีมากจนเลิศเลอ ยังมีเสียงล้อ เสียงลม ชัดอยู่
หลายจังหวะมีการลองใช้ความเร็วทิ่มเข้าโค้ง แอบแปลกใจว่าตัวรถมีอาการโยน หรือโคลงน้อยมาก จุดนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้ดี พวงมาลัยเซ็ทมาน้ำหนักดีขึ้น มีความแม่นยำในระดับที่ดี ไม่รู้สึกเบาโหว่งเหมือนรุ่นเก่าเวลาใช้ความเร็วสูง ระบบเบรกจับตัวไว เวลากดให้ความรู้สึกนุ่มนวล แต่กระชับสั่งการได้ดี
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรตัวนี้ วิศกรยืนยันชัดเจนว่าเป็นเครื่องใหม่ ทำงานเข้าคู่กับเกียร์ CVT ได้เนียนลงตัว ความเร็วสุงสุดที่ทำได้ คือ ประมาณ 170 กม./ชม. ในช่วงถนนโล่งและปลอดภัย จังหวะคดโค้งขึ้นเนิน ขึ้นเขา แม้จะยังมีนิสัยของเกียร์ประเภทนี้ที่ชอบลากรอบสูงเวลากดคันเร่งแรง ต้องยกเท้าสักนิดเพื่อชีวิตที่ดีกว่าไม่ได้มีบุคลิกเป็นรถสปอร์ตวัยรุ่น แต่มอบพลังให้คุณได้อย่างต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองตลอดเส้นทางคือ 14.5 กม./ลิตรยังไม่แน่ใจว่าถ้าโดยสารเต็มจำนวน ตั้งแต่ 5 ไปจนถึง 7 ที่นั่ง เรื่องพละกำลังจะออกมาเป็นแบบไหน ไว้หาคำตอบให้ในอนาคต
รีวิว NEW HONDA BR-V ลองใช้งานระบบ Honda SENSING ตลอดการเดินทางเกือบ 300 กิโลเมตร ภาพรวมทำงานได้ดี ชัดเจนคือ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่
สเต็ปการพับเบาะเพื่อใช้ฟังก์ชั่นของพื้นที่ของตัวรถก็มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง ที่น่าจะวสามารถขนสัมภาระข้าวของได้สมศักดิ์ศรีที่เกิดมาเป็นรถอเนกประสงค์ แต่หากนำไปเทียบกับคู่แข่งในตลาด จุดนี้ความหลากหลายของฟังก์ชั่นการพับเบาะยังดูด้อยกว่า TOYOTA VELOZ แต่สิ่งที่เหนือกว่าแน่ ๆ คือ เรื่องของวัสดุที่ VELOZ ยังห่างชั้น ส่วนการนั่งเบาะแถว 2 นั้นกว้างขวางนั่งสบาย แต่แถว 3 ใช้งานได้จริง นั่งได้แต่สบายไหมเป็นอีกเรื่อง ! (เหมาะสำหรับเด็กนั่งจะดีกว่า)
สรุปโดยรวม บีอาร์-วี ใหม่
หากมองรูปลักษณ์ภายนอก แม้จะเป็นไปตามรสนิยมแต่จัดว่า รถรุ่นนี้มีดีไซน์ที่หล่อคมและลงตัวมากรุ่นหนึ่งของฮอนด้า ฉะนั้น นี่คือ จุดเด่น เพราะฮอนด้าขายดีไซน์มาหลายทศวรรษ แต่ก็น่าแปลกเน้นขายดีไซน์แต่ยังใช้เบรกมือโบราณอยู่ ด้านสมรรถนะเทียบตามประสบการณ์ขับขี่อาจสูสี เอ็กแพนเดอร์รุ่นใหม่ แต่ยังไงก็ชนะ เวลอส และ เอ็กซ์แอล 7
แม้จะมีคำถามและความงง เมื่อคิดมากเรื่องราคา ความคุ้มค่าของตัวรถ จึงไปหยิบเอาคำที่มักได้ยินบ่อยมากลบความฟุ้งซ่านนี้ว่า ถ้าคิดว่าของแพง นั่นหมายความว่าเขาไม่ทำมาเพื่อขายเรา….
งั้นขายใคร ? น่าจะพอตอบได้ว่า รถครอบครัวขนานแท้ที่ทำออกมาเพื่อขายครอบครัวบิ๊กแฟนฮอนด้าอย่างแท้จริง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ภาพ : HONDA
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th