Rolls-Royce Black Badge Spectre รถไฟฟ้าหรู เข้ม ทรงพลังที่สุดของแบรนด์

Rolls-Royce เพิ่มสมาชิกใหม่ในชื่อ Black Badge ด้วย Black Badge Spectre ซึ่งไม่เพียงเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของผู้ผลิตรถยนต์หรูจากสหราชอาณาจักรรายนี้ที่เข้มหรูภายใต้ชื่อนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่มีพลังขับเคลื่อนมากที่สุดเท่าที่เคยทำออกมาของแบรนด์ด้วย

Rolls-Royce Black Badge Spectre

Rolls-Royce Black Badge Spectre ถูกระบุว่าได้รับการออกแบบเพื่อให้ไปถึงขีดสุดได้ง่าย รวดเร็ว และปราณีต โดยมีการอัปเกรดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่สำหรับการขับเคลื่อนทุกล้อของรถให้สร้างกำลังออกมา 659 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 1,075 นิวตัน-เมตร ในขณะที่รุ่นปกติมีกำลัง 577 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร

Rolls-Royce Black Badge Spectre

อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าหรูรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ทั้งแรงม้าและแรงบิดสูงสุดพร้อมกัน โดยหากต้องการปลดปล่อยแรงม้าทั้งหมดของรถจะต้องทำโดยใช้ Infinity Mode ด้วยการกดปุ่มบนพวงมาลัย เพื่อให้มีการนำทั้ง 659 แรงม้าสู่ล้อของรถ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่งของผู้ขับโดยตรง

Rolls-Royce Black Badge Spectre

หากต้องการใช้แรงบิดสูงสุดของรถต้องเลือก Spirited Mode ซึ่งจะทำให้มีแรงบิดออกมาเพิ่มถึง 1,075 นิวตัน-เมตรชั่วคราว ส่วนเวลาในการทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ของรถถูกระบุไว้ที่ 4.1 วินาที เร็วกว่ารุ่นปกติ 0.3 วินาที

นอกจากเพิ่มกำลังให้กับรถแล้ว ทางผู้ผลิตรถยนต์จากสหราชอาณาจักรยังเพิ่มน้ำหนักพวงมาลัย อัปเกรดแดมเปอร์ และลดการโคลงของตัวรถลง ซึ่งส่งผลให้เพิ่มการมีส่วนร่วมกับรถมากขึ้น โดยที่ยังคงให้ความสบายในการเดินทาง

ด้านรูปลักษณ์ของรถเข้มขึ้นด้วยการเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่เคยแวววาวทั้ง Spirit of Ecstasy กรอบกระจังหน้า กรอบกระจกหน้าต่าง และมือจับเปิดประตูรถเป็นสีดำ นอกจากนี้รถยังมากับล้ออลูมินัมฟอร์จขนาด 23 นิ้ว โดยเลือกได้ระหว่างสีทูโทนหรือสีดำ นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังมีออปชันต่างๆ ให้เลือกเพิ่มอย่างกระจังหน้าเรืองแสงที่มีให้เลือก 5 สี นอกจากนี้ยังเลือกตัวรถสีม่วง Vapour Violet ใหม่ร่วมกับฝากระโปรงหน้าสีดำ Iced Black และเส้น Coachline ด้านข้างตัวรถได้

เมื่อเปิดประตูรถจะพบกับครอบบันไดBlack Badgeเรืองแสง จอแสดงข้อมูลการขับสี Cyan Fire, Neon Night, Synth Wave, Vivid Grellow หรือ Ultraviolet ตามที่ผู้ซื้อเลือก นอกจากนี้ยังมีไฟเรืองแสงที่แผงหน้าของรถ โลโก้อินฟินิตี้ และการแต่งด้วย Technical Fiber รวมไปถึงมีการแต่งโดยใช้ไม้ Bolivar สีดำเป็นพื้นมีด้านบนเป็นลาย Diamond-shaped จากคาร์บอนและโลหะคุณภาพสูง