Rolls-Royce Spectre Electric Super Coupe รุ่นแรกของโลก เปิดค่าตัว 31.8 ล้านบาท
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ Rolls-Royce อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ครบวงจร เปิดตัว Rolls-Royce SPECTRE ยนตรกรรม อัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ รุ่นแรกของโลก ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนับเป็น Rolls-Royce ที่จะมาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ราคา เริ่มต้น 31.8 ล้านบาท
Rolls-Royce SPECTRE ราคา เริ่มต้น 31.8 ล้านบาท (รวมภาษี) ไม่รวมออปชั่น มาพร้อมแพ็กเกจ SPECTRE Ownership รับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตนาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ไม่ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์)*, รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 10 ปี*, โปรแกรมบำรุงรักษา (service inclusive) ครอบคลุมค่าแรงทั้งหมด*, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง* และทีมบุคลากรของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศไทย ผ่านการอบรมพร้อมประกาศนียบัตรด้านการบำรุงรักษา สเปกเตอร์ อย่างเต็มรูปแบบ*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ปี 2564 โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ทำการประกาศครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเป็นทิศทางไปสู่อนาคตของแบรนด์ โดย Rolls-Royce ยืนยันความแน่วแน่ในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรุ่น ‘SPECTRE’ (สเปกเตอร์) ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 พร้อมตั้งเป้ายุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาป และทำให้ยนตรกรรมที่จำหน่ายขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573 ซึ่งนับตั้งแต่การประกาศสำคัญในครั้งนั้น SPECTRE ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทดสอบอย่างเข้มข้น เป็นระยะทางรวมระยะทางกว่า 2.5 ล้านกิโลเมตร และเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ณ Home of Rolls-Royce เมือง West Sussex ประเทศอังกฤษ พร้อมเสียงตอบรับที่เยี่ยมจากทั่วโลก
SPECTRE คือ ผู้เปิดตำนานอันน่าตื่นเต้นบทใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมที่ขับเคลิ่อนด้วยไฟฟ้าของแบรนด์ โดยยนตรกรรมรุ่นดังกล่าว นับเป็นการยืนยันถึงพันธสัญญา, ความแม่นยำแห่งการทำนาย และการพัฒนาอันน่าทึ่งพร้อมแสดงให้เห็นว่า Rolls-Royce ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ยังคงรักษาเอกลักษณ์และจุดเด่นตามแบบฉบับของ Rolls-Royce พันธุ์แท้ ทุกประการ ควบคู่ไปกับเป้าหมายในการทำให้ยนตรกรรมทุกรุ่นที่จำหน่าย ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส มีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีไฟฟ้ามายาวนาน โดยช่วงปี 2443 มร. ชาร์ลส์ โรลส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ Rolls-Royce ได้ทำนายอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า หลังได้มีโอกาสขับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า ‘The Columbia Electric Carriage’ โดยเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบอันยั่งยืนของยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า อาทิ การปราศจากมลพิษและเสียงรบกวน
เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จรองรับอย่างเพียงพอ จากนั้นช่วงปี 2554 Rolls-Royce ได้เผยโฉมยนตรกรรมต้นแบบ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น แฟนธอม (Experimental Phantom concept) ภายใต้รหัส 102EX และตามมาด้วย 103EX ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและสื่อถึงแนวทางในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ Rolls-Royce ในอนาคตได้อย่างชัดเจน
SPECTRE คงคอนเซปต์ของการเป็น Rolls-Royce พันธุ์แท้ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ภายใต้หลักปรัชญา ‘A Rolls-Royce first, and an electric car second.’ พร้อมรักษาจุดเด่นด้านความสะดวกสบาย พื้นที่ห้องโดยสาร ความนุ่มนวลและสมรรถนะไว้อย่างครบถ้วน พร้อมปรับแต่งทุกรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบผ่านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอันเป็นเลิศ
สะดุดตากับสัดส่วนที่ลงตัวในสไตล์รถยนต์ฟาสแบคสองประตู สเปกเตอร์จึงเปรียบเสมือนผู้สืบทอดของยนตรกรรมระดับไอคอน ‘แฟนธอม คูเป้’ (Phantom Coupé) ขณะที่ห้องโดยสารนั้นเป็นดั่งผืนผ้าใบที่พร้อมสำหรับการรังสรรค์รูปแบบตามสไตล์ของผู้ครอบครอง (Bespoke) ควบคู่ไปกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated fascia) และครั้งแรกของ Rolls-Royce ในสายการผลิต กับประตูดาวส่องแสงระยิบระยับ (Starlight Doors) ส่งผลให้ SPECTRE ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ชื่นชอบการขับรถด้วยตนเอง
Rolls-Royce SPECTRE เป็นยนตรกรรมรุ่นที่ 4 ที่ใช้แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และผ่านการออกแบบมาเพื่อรองรับกับขุมพลังไฟฟ้าอย่างลงตัว อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของสเปซเฟรมอีก 30% เมื่อเทียบกับ Rolls-Royce รุ่นอื่นๆ ส่วนแบตเตอรี่ได้รับการติดตั้งบริเวณพื้นรถที่นอกจากช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นเรียบ และเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและมีการทรงตัวดีขึ้น ก็ยังทำหน้าที่เป็นแผ่นกันเสียงรบกวนที่มีน้ำหนัก 700 กิโลกรัมอีกด้วย
การเปิดตัวของ Rolls-Royce SPECTRE แสดงถึงความเชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือ หนทางสู่อนาคต เหนือกว่าเทคโนโลยีไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจาก 2 มอเตอร์ SSM (Separately Excited Synchronous Motors) ด้านหน้า 190 กิโลวัตต์ / 365 นิวตันเมตร ด้านหลัง 360 กิโลวัตต์ / 710 นิวตันเมตร หรือมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป พละกำลัง 430 กิโลวัตต์ (584 hp) แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที
ระยะทางสูงสุดที่สามารถขับได้ไกลถึง 530 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) นับว่าสูงกว่าที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ทำให้ SPECTRE เป็นยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี จากการที่ลูกค้า Rolls-Royce ส่วนใหญ่ มักมีรถยนต์ใช้งานประมาณ 7 คัน และขับรถยนต์ Rolls-Royce ของตนเองเป็นระยะทางประมาณ 5,100 กิโลเมตรต่อปี
นอกจากนั้น ทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้า ในการติดตั้งระบบชาร์จไฟที่บ้านอีกด้วย ซึ่ง SPECTRE สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ใน 34 นาที ผ่านระบบชาร์จไฟกระแสตรง (195 กิโลวัตต์-DC) และสามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร เมื่อผ่านการชาร์จไฟเพียง 9 นาทีเท่านั้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยขับ คือ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Active Lane Centring) และอะแด๊ปทีฟครูสคอนโทรล เพื่อการขับที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สำหรับแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไออน 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตจากแร่โคบอลต์และลิเธียมจากแหล่งผลิตที่มีการควบคุมเข้มงวดในออสเตรเลีย,โมรอคโค และ อาร์เจนตินา ซึ่งเซลล์ภายในแบตเตอรี่ผลิตขึ้นด้วยพลังไฟฟ้าที่มาจากธรรมชาติ 100% พร้อมทำการทดสอบภายใต้อุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ไปจนถึงร้อนจัดกว่า 50 องศาเซลเซียส ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสมสำหรับการใช้งานทุกสภาวะ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์อันชาญฉลาด
Rolls-Royce SPECTRE มีระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก โดยระบบจะทำงานเมื่อผู้ขับกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ ‘B’ บริเวณก้านควบคุม ซึ่งการใช้งานใน ‘Brake Mode’ รถยนต์จะมีการหน่วงอัตโนมัติเมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จากการกักเก็บพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับได้โดยแทบไม่ต้องแตะเบรก (Single-pedal driving) แต่หากผู้ขับเลือกใช้โหมด ‘low recuperation’ อาการหน่วงเมื่อยกคันเร่งจะมีไม่มากนัก ให้ความรู้สึกคล้ายการขับที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากกว่า
ระบบช่วงล่างพลานาร์ ใน Rolls-Royce SPECTRE ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากที่ติดตั้งในรุ่น GHOST เป็นครั้งแรก โดยเป็นการทำงานร่วมกันหลายชิ้นส่วนที่ผ่านการพัฒนามาอย่างพิถีพิถัน เสมือนเป็น ‘ออเคสตร้า’ ที่ช่วยสร้างประสบการณ์เดินทาง ‘magic carpet ride’ ที่ให้ความรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่บนพรมวิเศษ
ในการขับบนทางตรง ระบบช่วงล่างสามารถตัดการเชื่อมต่อของเหล็กกันโคลง ช่วยให้แต่ละล้อสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะที่เมื่อเข้าโค้ง ระบบจะเพิ่มความหนืดโช้กอัพ และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยว 4 ล้อ เพื่อให้สามารถเข้าและออกโค้งได้อย่างราบรื่น โดยมีเซ็นเซอร์อิสระ วัดค่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะเลี้ยวโค้ง อาทิ องศาพวงมาลัย, การเบรก, การส่งกำลัง และการทำงานของระบบช่วงล่าง พร้อมปรับระดับการทำงานอย่างเหมาะสมเพื่อความสมบูรณ์แบบของประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนน
SPIRIT-สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา มาในแบบดิจิทัล
SPIRIT (สปิริต) เป็นสถาปัตยกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ผู้ครอบครอง SPECTRE ได้เชื่อมต่อกับรถยนต์ของตนอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย นอกเหนือจากการควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ขณะใช้รถ SPIRIT ก็เป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่น ‘Whispers’ (วิสเปอร์ส) ของ Rolls-Royce ทำให้เจ้าของรถสามารถสั่งการได้จากระยะไกล
ประตูอิเล็กทรอนิกส์ (Effortless Doors)
สเปกเตอร์ มีประตูยาว 1.5 เมตร แบบไร้เสากลาง เชื่อมด้วยเลเซอร์ ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะ SPECTRE เมื่อผู้ขับเหยียบเบรก ประตูจะปิดโดยอัตโนมัติ
แรงบันดาลใจในการออกแบบ Rolls-Royce SPECTRE ไปไกลกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโลกยนตรกรรม โดยได้นำรูปลักษณ์อันโดดเด่นและประณีตในทุกรายละเอียดของเรือยอชท์ทรงสปอร์ตมาปรับใช้อย่างชาญฉลาด ขณะที่กระจังหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาของวิหารแพนธีออน (Pantheon grille) ก็มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยติดตั้งกับรถยนต์ Rolls-Royce ซี่กระจังผลิตจากสเตนเลสปัดเงา พร้อมผิวสัมผัสนุ่มเรียบ เพิ่มความอลังการด้วยแอลอีดี 22 ดวง ที่ส่องแสงกระทบกับพื้นหลังเสาที่ผ่านการพ่นทราย เกิดเป็นมุมมองที่งดงามแบบ 3 มิติยามค่ำคืน
สัญลักษณ์นางฟ้าบริเวณหน้ารถ (Spirit of Ecstacy) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ สเปกเตอร์ โดยปรับให้มีลักษณะต่ำลงเล็กน้อย และดูลู่ลมยิ่งขึ้น
ใช้เวลาในการออกแบบและทดสอบในอุโมงค์ลม รวมกว่า 830 ชั่วโมง หรือกว่า 1 เดือน ซึ่งมีส่วนช่วยให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำมาก (drag coefifficient) เพียง 0.25cd ส่งผลให้ SPECTRE เป็นรถที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce
ไฟหน้าแบบแยกส่วนนับเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรม Rolls-Royce มาช้านาน และเป็นการรำลึกถึงดีไซน์ของรุ่นพี่อย่าง PHANTOM COUPE ลงตัวกับเส้นสายตัวถังอันเฉียบคม นำสายตาไปสู่ด้านหลังในสไตล์รถฟาสต์แบค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยนตรกรรมคลาสสิกและเรือยอชท์ที่ใช้ในการแข่งขัน ขณะที่เส้นตัวถังบริเวณข้างประตู (waft line) ให้ความรู้สึกเหมือนเรือที่ลอยเหนือผิวน้ำ สะท้อนถึงความนุ่มสบายของการขับเคลื่อนแบบ ‘magic carpet ride’ อันเลื่องชื่อ
อีกจุดเด่นคือ ไฟท้ายแบบใหม่ ออกแบบให้ปราศจากสีสันโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สามารถเข้ากับสีของตัวถังที่มีให้เลือกไม่จำกัด ปิดท้ายด้วยล้อขนาดอลังการ 23 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ Rolls-Royce Coupe ในสายการผลิตในรอบเกือบ 100 ปี เติมเต็มสัดส่วนอันสง่างามของ SPECTRE ได้อย่างลงตัว
ภายในของ SPECTRE พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและหลากหลายฟีเจอร์พิเศษแบบ Bespoke อาทิ ประตูดาว (Starlight Doors) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกกับ โรลส์-รอยซ์ ในการการผลิตส่องแสงอ่อนๆ เป็นประกายระยิบระยับ ผ่าน 4,796 ดวงดาว หรือหากลูกค้าต้องการก็สามาเลือกติดตั้งแผงไม้ คานาเดล (Canadel panelling) ที่ผลิตขึ้นด้วยมือจากไม้ชั้นเลิศ
งดงามกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ผ่านการฉลุเป็นชื่อ ‘SPECTRE’ ล้อมรอบด้วยประกายดาวมากกว่า 5,000 ดวง ส่วนเบาะคู่หน้าก็สามารถเลือกสีบริเวณปีกเบาะ ให้เข้ากันกับบริเวณรองนั่ง หรือเลือกสีตัดกันได้ตามชอบในสไตล์เทเลอร์เมดตามแบบชาวอังกฤษ รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ โรลส์-รอยซ์ เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดแบบ Bespoke ได้ตามจินตนาการไร้ขีดจำกัด
และนี่คือ Rolls-Royce SPECTRE ที่ลงตัวกับทุกยุคสมัย พร้อมกับการเป็นผู้กำหนดทิศทางสู่อนาคต ภายใต้หลักปรัชญา ‘A Rolls-Royce first and an electric car second’ ด้วยราคาเริ่มต้น 31,800,000 บาท (รวมภาษี) ไม่รวมออปชั่น ถือว่าเป็นยนตรกรรมอัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งจริงๆ
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th