Rolls-Royce VISION NEXT 100 ต้นแบบสุดหรูสู่อนาคต
บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด เผยโฉมยนตรกรรมหรูต้นแบบแห่งโลกอนาคต โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 (Rolls-Royce VISION NEXT 100) ภายใต้รหัส 103EX ที่จะเป็น “ยนตรกรรมต้นแบบ” สำหรับอนาคตอย่างแท้จริงคันแรกของโรลส์-รอยซ์
ที่มาของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100
“ยนตรกรรมต้นแบบ” เป็นหนึ่งใน 4 หัวข้อที่ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประกาศในงาน “THE NEXT 100 YEARS” เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 ที่มิวนิค ทั้งนี้ปีพ.ศ. 2559 นี้ไม่เพียงแต่เป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แต่ยังเป็นปีที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งสำคัญให้กับโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส อีกด้วย
สำหรับโรลส์-รอยซ์ การยุติการผลิตยนตรกรรมแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก” นั้น เปรียบเสมือนบทส่งท้ายสำหรับเฟสแรกของแบรนด์โรลส์-รอยซ์ยุคใหม่ ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ความสำเร็จของยนตรกรรม “แฟนธอม” “โกสต์” “เรธ” และ“ดอว์น” เป็นการปูทางให้กับโรลส์-รอยซ์ในอนาคต
โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 – วิสัยทัศน์แห่งยนตรกรรมหรูสำหรับอนาคต
ในการรังสรรค์โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ทีมออกแบบที่นำทีมโดย มร. ไจลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ได้ตั้งคำถามว่า “เราจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบของยนตรกรรมหรูในอีก 100 ปีข้างหน้าได้อย่างไร” และจากคำถามนี้ทำให้ทีมออกแบบเกิดคำถามตามมาอีก 2 ข้อนั่นคือ “อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าของโรลส์-รอยซ์คาดหวังที่จะเห็นในยนตรกรรมของเขา/เธอในอนาคต” และ “โรลส์-รอยซ์จะทำอย่างไรในปัจจุบันเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่จะเกิดขึ้น” คำถามเหล่านี้ทำให้ทีมออกแบบสามารถฝันถึงความเป็นไปได้ที่สามารถจะเกิดขึ้นในอนาคตของโรลส์-รอยซ์
https://youtu.be/dGSm082ELXY
โรลส์-รอยซ์ เข้าใจลูกค้า และความต้องการของลูกค้า ตลอดจนแรงบันดาลใจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ เข้าใจดีว่าความหรูหราอย่างแท้จริงต้องสามารถสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล และสิ่งนี้เองที่ทำให้ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาไปสู่อนาคต ดังนั้น ทีมออกแบบได้คำนึงถึงองค์ประกอบหลัก 4 ประการที่ไม่เพียงเป็นรากฐานของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 แต่ยังเป็นทุกสิ่งของที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูสำหรับอนาคต
- การสะท้อนถึงอัตลักษณ์
- การเดินทางที่สะดวกสบาย
- ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่า
- การถึงที่หมายอย่างมีสไตล์
ในการสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 บริษัทฯ ได้ปฏิเสธความคิดแบบเดิมที่ว่ายนตรกรรมแห่งอนาคตต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ โรลส์-รอยซ์ได้ก้าวผ่านจุดนั้นเพื่อให้รถยนต์ต้นแบบสำหรับอนาคตคันนี้เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ การรังสรรค์ตัวถังรถแก่ลูกค้าตามต้องการ เพื่อให้เกิดความมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์รถยนต์ของตนเองมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ไปสู่องค์ประกอบข้อแรก คือ การสะท้อนถึงอัตลักษณ์
การสะท้อนถึงอัตลักษณ์
โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมต้นแบบนี้เป็นตัวอย่างของความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ โรลส์-รอยซ์แบบเฉพาะบุคคลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิวัติประสบการณ์บริการบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ในปัจจุบัน รสนิยมของลูกค้าจะมีบทบาทสำคัญในการออกแบบ และขั้นตอนการสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามผู้เป็นเจ้าของ
ในส่วนของโครงสร้าง โรลส์-รอยซ์จะรังสรรค์แชสซีสำหรับอนาคต ที่ทำจากมือด้วยวัสดุอันทันสมัยและใช้ระบบส่งกำลังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบรูปร่าง ขนาด และเส้นรอบคันของโรลส์-รอยซ์ของเขามากยิ่งขึ้น ลูกค้าในอนาคตจะสามารถสั่งทำรถได้ตามต้องการ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะออกแบบและผลิตยนตรกรรมแต่ละคันตามแนวคิดที่ลูกค้าวางไว้ ซึ่งทำให้โรลส์-รอยซ์ทุกคันเป็นผลงานที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่ง โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 จะใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทันสมัยในการสร้างสรรค์ตัวถังรถที่มีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมมากที่สุด
การเดินทางที่สะดวกสบาย
นับแต่ปีพ.ศ. 2454 เป็นเวลา 105 ปีที่สัญลักษณ์ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ออกแบบโดยประติมากรและศิลปิน มร. ชาร์ลส ไซค์ส โดยมีมิสเอเลนอร์ ธอร์นตันเป็นแบบ ทำหน้าที่ประหนึ่งเข็มทิศนำทางให้โรลส์-รอยซ์ทุกคัน และผู้ครอบครองเดินทางผ่านเหตุการณ์มากมายในชีวิต และได้ยืนเด่นเป็นสง่าในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลายต่อหลายครั้ง
วันนี้ ฟังก์ชั่น “Voice of Eleanor” ได้เข้าไปอยู่ในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ส่งมอบความฝันแห่งยนตรกรรมอนาคตให้กับผู้เป็นเจ้าของ โดยเชื่อมต่อข้อมูลของเจ้าของรถ และสภาวะโดยรอบอย่างละเอียดผ่านระบบดิจิทัลทำให้ฟังก์ชั่นอัจฉริยะนี้เป็นทั้งผู้ช่วยส่วนตัวและคนขับที่มอบความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะแจ้งให้เจ้าของรถทราบถึงกำหนดการการเดินทาง ตารางเวลา และเส้นทางเพื่อเลือกใช้ในการเดินทางก่อนออกจากที่พักอาศัย รวมทั้งแจ้งเตือนการนัดหมาย หรือกิจกรรมการงานต่างๆ ตลอดจนให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ระบบอัจฉริยะนี้จะขับพารถยนต์มารับผู้โดยสารเมื่อพร้อมที่จะออกเดินทาง และควบคุมการขับขี่ไปยังจุดหมายถัดไป อีกทั้งยังช่วยแนะนำ และให้ข้อมูลโดยสรุปก่อนถึงที่หมายเพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ ระบบจะมีการคำนวณและคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนเบื้องหน้า หรือลักษณะพื้นถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายจะตอกย้ำคุณสมบัติเด่นอีกข้อของโรลส์-รอยซ์ คือ “ประหนึ่งนั่งอยู่บนพรมวิเศษ” ด้วยการผสมผสานระหว่างระบบส่งกำลังทรงพลังทันสมัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เหมาะกับการขับขี่ในทุกสภาพพื้นผิวถนน
ห้องโดยสารที่โอ่อ่าหรูหรา
เมื่อก้าวขึ้นในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 จะพบกับห้องโดยสารที่หรูหรา ให้ความรู้สึกประหนึ่งก้าวขึ้นรถม้าในสมัยโบราณอย่างสง่างาม และเมื่อพร้อมออกเดินทาง ประตูรถก็จะค่อยๆ ปิดลงแบบไร้เสียงรบกวน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดหวังจากโรลส์-รอยซ์ คือ ภายในห้องโดยสารที่สร้างสรรค์จากวัสดุหรูหราคุณภาพสูง แต่ที่อาจคาดไม่ถึงคือ ความรู้สึกที่เบาสบาย เรียบง่าย ซึ่งเป็นความสง่างามโดยไม่ต้องปรุงแต่ง
สำหรับห้องโดยสารภายในตกแต่งโดยรอบด้วยไม้ Macassar คุณภาพดีตั้งแต่ด้านในประตู รวมถึงพื้นที่บริเวณรอบด้านข้างจอ OLED (Organic Light Emitting Diodes) ขนาดใหญ่ และด้านข้างของที่นั่งของผู้โดยสารที่ 2 ตลอดถึงด้านข้างของโซฟา เพื่อความสวยงาม สะอาดตา และปิดหน้าจอเมื่อไม่ใช้งาน จุดเด่นในห้องโดยสารอีกจุดหนึ่ง คือเบาะที่นั่งแบบโซฟาที่สวยงาม เป็นการตีความของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ หุ้มด้วยผ้าบุที่หรูหรา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยไปในอากาศขณะที่นั่งอยู่ในห้องโดยสาร เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีน้ำหนักเบา และทันสมัย ในส่วนของโซฟาได้รับแรงบันดาลใจจากโรลส์-รอยซ์รุ่นแรกๆ และจากผลงานชิ้นยอดอย่างแฟนธอม เซเรนนิตี้ ในปีพ.ศ. 2558 ทีมออกแบบจึงเลือกใช้วัสดุที่แสดงออกถึงความหรูหรา คือ การใช้ผ้าไหมซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ ผสมกับขนสัตว์ในการหุ้มเบาะโซฟาสีขาวงาช้าง ที่มอบผิวสัมผัสของเส้นใยที่งดงามแก่ที่นั่งในห้องโดยสารประหนึ่งว่าผู้โดยสารกำลังนั่งบนบัลลังก์อย่างสง่างาม
อีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นภายในห้องโดยสาร คือ พรมขนสัตว์สีขาวงาช้างที่ทอขึ้นพิเศษจากกรุงลอนดอน และเนื่องจากเป็นรถที่ไม่มีคนขับทำให้ ผู้ใช้รถสามารถใช้พื้นที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นในการผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง
การใช้งานของพื้นที่ภายในที่เน้นเรื่องทัศนวิสัยของผู้โดยสารเมื่อมองผ่านออกไปนอกรถโดยสายตาไม่ถูกรบกวนด้วยที่นั่งคนขับ หรือพวงมาลัย หากผู้โดยสารเลือกที่จะพักสายตาจากการมองไปด้านนอกสักครู่ ก็สามารถสั่งงานผ่านระบบ “Voice of Eleanor” เพื่อขอดูข้อมูลต่างๆ ผ่านจอ OLED ที่อยู่ส่วนหน้าของห้องโดยสาร โดยจอดังกล่าวจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง จุดหมายปลายทาง และบุคคลที่จะพบ หรือจะเลือกชมภาพยนตร์สุดโปรดเพื่อความบันเทิงก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถดูเวลาได้จากนาฬิกาที่อยู่ตรงกลางเหนือจอภาพ รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเซอร์ เฮนรี่ รอยซ์ ในฐานะที่เคยเป็นผู้บุกเบิกด้านไฟฟ้า และได้ประดิษฐ์เครื่องปั่นไฟ อีกทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุด
การถึงที่หมายอย่างมีสไตล์
โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมต้นแบบแห่งอนาคต ที่จะมอบประสบการณ์ของการถึงที่หมายได้อย่างสง่างามและมีสไตล์ ในขณะที่รถยนต์ต้นแบบนี้สะท้อนถึงความหรูหราแห่งอนาคตอย่างเด่นชัด แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณลักษณะของโรลส์-รอยซ์ที่มีอยู่ในตัวทุกคัน ได้แก่ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี กระจังหน้าขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้ายาว รูปร่างและสัดส่วนของรถที่มีเอกลักษณ์
โดยขนาดของตัวถังนั้นมีขนาดความยาว 5.9 เมตร สูง 1.6 เมตร ขนาดเดียวกับแฟนธอม รุ่น ขยายฐานล้อโดยเน้นพื้นที่ในการบรรทุก ในขณะที่สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ย้อนยุคกลับไปในแบบของแฟนธอมยุค 1920 รังสรรค์โดยช่างเป่าแก้วชาวยุโรปฝีมือดี โดยสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี จะอยู่ด้านบนของกระจังหน้าแบบใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นโรลส์-รอยซ์ พร้อมกับโลโก้ RR สีแดง มีการใช้เหล็กขัดเงาในส่วนต่างๆ ได้แก่ กระจังหน้า ส่วนรอบฐานของสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี และขอบบนของกรอบไฟหน้า ไปจนถึงเส้นด้านข้างของฝากระโปรงหน้าที่ทำหน้าที่แบ่งสัดส่วนระหว่างด้านบน และด้านล่างของรถ ซึ่งเส้นแบ่งนี้ช่วยเน้นสีภายนอกที่เป็นทูโทนของรถให้เด่นขึ้น โดยส่วนบนของรถทั้งหมดเป็นแก้วสีดำที่ลาดยาวไปจนถึงหลังคารถ ทำให้ผู้โดยสารมีความเป็นส่วนตัวไม่ว่าจะยามค่ำคืน หรือมองผ่านออกไปทางด้านหน้ารถ
ส่วนภายนอกของตัวรถด้านล่างจะเป็นสีฟ้าอ่อน เพิ่มความสว่างให้กับตัวรถ ทำให้ไม่ว่าจะมองมุมไหนของโรลส์-รอยซ์ วิชั้น เน็กซ์ 100 ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังล่องลอยไปในอากาศแม้ขณะรถวิ่ง หรือจอดสนิท การวางมอเตอร์ที่ใช้ในการบังคับล้อไว้ในซุ้มล้อ ทำให้ไม่มีส่วนของซุ้มเพลามาเกะกะผู้โดยสารขณะนั่งในรถ ส่วนเครื่องยนต์ซึ่งปกติจะอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าของรถ ก็กลายเป็นห้องเก็บสัมภาระที่อยู่หลังของล้อหน้า สามารถเปิดจากทางด้านข้างอัตโนมัติเมื่อถึงที่หมาย และลงจากรถ โดยภายในจะพบกับกระเป๋าเดินทางแบบแกรนด์ ทัวเรอร์ 2 ใบ ซึ่งแต่ละใบจะปักชื่อย่อของชาล์ส โรลส์ (CS Rolls) และ เฮนรี่ รอยซ์ (FH Royce)
ด้านกระจังหน้าใหม่ในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ได้รับแรงบันดาลใจจากโรลส์-รอยซ์ในยุค1920 ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา แต่ทนทาน ทำให้ตัวรถลอยเหนือพื้นถนนเนื่องจากตัวรถช่วงล่างยึดติดกับล้อด้วยท่อนยึดปีกนกล่าง มาพร้อมกับล้อรถขนาดสูง 28 นิ้วแต่หน้าแคบ ประกอบมือจากอลูมิเนียม 65 ชิ้น โดยหากมองจากด้านข้าง ตัวรถจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสาร เนื่องจากส่วนท้ายที่ถูกยกสูงขึ้น ในขณะที่การออกแบบใหม่นี้สะท้อนถึงความสะดวกสบาย แต่ต้องขอบคุณการพัฒนาด้านกระแสลมในขณะรถวิ่ง และการลดแรงต้านลมที่ทำให้ตลอดการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น การจอดเมื่อถึงจุดหมายของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 นั้น จะเห็นได้จากสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี และกระจังหน้ามีไฟสว่างขึ้น ในขณะที่กำลังจะเข้าจอด โดยไฟจะค่อยๆ ติดไล่จากขอบด้านข้างของซุ้มล้อหน้า ไปยังบานประตูหลัง เพื่อส่งสัญญาณว่าโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 กำลังจะเข้าจอดแล้ว และหลังคากระจกจะถูกยกขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารยืนเตรียมลงจากรถ ประตูแบบรถม้าบานเดียวเปิดออก ผู้โดยสารเหยียบบนบันไดเพื่อก้าวออกจากรถ ไฟสีแดงใต้บันไดติดขึ้นประหนึ่งว่าเดินบนพรมแดง
โดยสรุปแล้ว โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ต้องการที่จะสะท้อนถึงอัตลักษณ์ การเดินทางที่สะดวกสบาย ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่า และการถึงที่หมายอย่างมีสไตล์ ให้เป็นคำจำกัดความของ “โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมหรูแห่งโลกอนาคต” ได้อย่างเหมาะสมและทรงคุณค่าที่สุด
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th