Rolls Royce Wraith Black Badge Limited ปลดปล่อยขุมพลังแห่ง Wraith
Black Badge ยนตรกรรมภาพลักษณ์ใหม่จาก Rolls Royce ที่พร้อมสะกดทุกสายตา ไม่ใช่เพียงสีสันแต่ Black Badge คือนิยามของผู้หาญกล้าที่พร้อมสร้างความแตกต่างโดดเด่นด้วยดีไซน์อันงดงาม ผสานเอกลักษณ์ของ Wraith ได้อย่างลงตัว พร้อมประสิทธิภาพเหนือระดับเพื่อการขับขี่อย่างเต็มขุมพลัง และการตกแต่งภายในแบบพิเศษ ดูลึกลับน่าค้นหา ทั้งหมดนี้คือนิยามใหม่แห่งความหรูหราจาก Rolls Royce
เปิดทุกความท้าทาย
Black Badge ยนตรกรรมสำหรับผู้รักความท้าทาย รวมถึงผู้มีความคิดนอกกรอบ และผู้รักความเสี่ยง สำหรับผู้คนเหล่านี้ มหานครยามราตรีคือโอกาสแห่งการประกาศตัวตน ที่ซึ่งมุมอันมืดมิดจะปรากฏต่อสายตาอันเฉียบคมของผู้มีจิตใจอาจหาญ ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้เมื่อเปิดใจรับความท้าทาย
สะกดทุกสายตา
ทรงพลัง สมรรถนะ สง่างาม Wraith Black Badge ที่สุดแห่งยนตรกรรม Coupé ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์โมเดิร์น ฝากระโปรงยาวและห้องโดยสารด้านหลังกว้าง ให้ภาพลักษณ์อันสง่างามและทรงพลัง พร้อมรูปทรงแนวเส้นโค้งที่โลดแล่นยามราตรีได้อย่างไม่สะดุด
Spirit of Ecstasy โครเมี่ยมสีดำเป็นประกายที่ทอดเงาอยู่เหนือกระจังหน้าอันทรงพลัง นิยามใหม่แห่งเฉดสีดำสนิท พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยช่องลม คิ้วฝากระโปรงหลัง และท่อไอเสียคู่ชุบโครเมี่ยมสีดำ และที่ขาดไม่ได้ นั่นคือตรา Rolls Royce สีดำ: หัวใจของผู้รักความท้าทาย
Wraith Black Badge ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยพื้นผิวสีดำไล่ระดับและล้อทรงพลังขนาด 21 นิ้ว โดดเด่นด้วยขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดพิเศษที่พัฒนาขึ้นสำหรับ Black Badge โดยเฉพาะ ออกแบบภายใต้แรงบันดาลใจจากซูเปอร์คาร์ของอิตาลีในยุค 1960
ความมั่นใจจากภายใน
Interior งานตบแต่งภายในภาพลักษณ์มีจุดเริ่มต้นจากภายใน จุดประกายแห่งความมั่นใจไปกับการตกแต่งลายเกือกม้าและเบาะหนังทรงโค้งภายใน Wraith Black Badge ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ในยนตรกรรมสุดพิเศษนี้ ให้ราตรีนี้ไม่มีที่สิ้นสุด เนรมิตห้องโดยสารให้หรูหราด้วยนิยามใหม่แห่งความมืด ตื่นตาตื่นใจกับแผงคอนโซลหน้าไฟเบอร์ที่รังสรรค์ขึ้นจากการร้อยเรียงเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมเข้าด้วยกันอย่างประณีตบรรจง นวัตกรรมแห่งวัสดุที่ใช้กับพื้นผิวเครื่องบินสเตลท์นี้จะเปล่งประกายโดดเด่นท่ามกลางห้องโดยสารอันมืดมิด เปิดทุกประสาทสัมผัสพร้อมยกระดับความเร้าใจแห่งการขับขี่
แผงหน้าปัดประกอบด้วยนาฬิกา Black Badge ดีไซน์ใหม่ล่าสุด แต่งแต้มสีส้มที่ปลายเข็มเพื่อให้ตัดกันพองามกับการตกแต่งภายในส่วนอื่นๆ เสริมจิตวิญญาณและแรงปรารถนาในการก้าวข้ามขีดจำกัดของ Black Badge ด้วยโลโก้ Infinity บนหน้าปัดนาฬิกา พร้อมเดินฝีเข็มอย่างบรรจงบนเบาะหนังสุดหรูของ Wraith ในโทนสีดำและสีฟ้าโคบอลต์
ปลดปล่อยขุมพลัง
ด้วยขุมพลังเหนือชั้นถึง 624 bhp (465 กิโลวัตต์) ทำให้ Wraith เป็นยนตรกรรมRolls Royce ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ยนตรกรรมที่ได้จึงทรงพลังเหนือระดับขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยแรงบิดที่เพิ่มขึ้นถึง 870 นิวตันเมตร สัมผัสได้ถึงประสบการณ์ใหม่แห่งความเร้าใจเมื่อโลดแล่นบนท้องถนน
ในการสร้างสรรค์ Wraith Black Badge ทีมวิศวกรประจำสำนักงานใหญ่ของ Rolls Royce ได้มุ่งมั่นค้นหาหนทางเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งสมรรถนะ ด้วยการนำเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.6 ลิตร มาผสานเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อให้ได้แรงบิดสูงเป็นพิเศษ ตอบสนองอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี Intuitive Throttle Response ที่ช่วยให้ลากเกียร์ได้นานขึ้นและเร่งเครื่องได้เร็วขึ้น
ด้วยระบบบังคับเลี้ยวและระบบเบรกที่ตอบสนองได้อย่างเหนือชั้น จึงควบคุมและสัมผัสท้องถนนได้ดังใจ และแม้ความเร็วจะเพิ่มขึ้น Wraith Black Badge ก็ยังคงความนุ่มนวลราวพรมวิเศษตามแบบฉบับของ Rolls Royce พร้อมระบบกันสะเทือนอัจฉริยะที่ช่วยลดแรงกระแทกบนทุกพื้นผิว
Wraith Black Badge อัดแน่นด้วยที่สุดแห่งเทคโนโลยีเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็น Satellite Aided Transmission ที่สามารถเลือกเกียร์ให้เหมาะกับสภาพถนนข้างหน้าได้อัตโนมัติ และไฟหน้า LED อัตโนมัติรุ่นใหม่เพื่อทัศนวิสัยที่ชัดเจนขณะขับรถท่ามกลางความมืด ใช้ได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น (ได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น
รังสรรค์เพื่อความสมบูรณ์แบบ
เวลากว่าสี่ร้อยชั่วโมง มือกว่าหกสิบคู่ เพื่อเป้าหมายเดียว: นั่นคือการสร้างสรรค์ Wraith Black Badge ให้สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่คืนวันที่ใช้ในการสร้างสรรค์โทนสีดำสนิทที่มีเฉพาะในยนตรกรรม Rolls Royce จนถึงเดือนปีที่ใช้ในการพัฒนาล้ออันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของ Black Badge ทุกองค์ประกอบของรถหรูรุ่นนี้ล้วนเป็นดอกผลแห่งงานฝีมือระดับโลก
ล้อรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาในการพัฒนามากกว่าสี่ปีนี้มีความแตกต่างกับล้อรุ่นก่อนหน้านี้ของ Rolls Royce อย่างสิ้นเชิง ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียม 3D คุณภาพระดับอากาศยานที่ยึดด้วยไทเทเนียมความแข็งแกร่งสูงแบบเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ ผลที่ได้คือล้อที่ทั้งแข็งแรงและน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ ซี่ล้อสีดำ Jet Black ตัดกับขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์อย่างเด่นชัด สำหรับขอบล้อสร้างขึ้นจากผืนคาร์บอนไฟเบอร์ 22 ชั้นที่วางทับกันในสามทิศทาง จากนั้นจึงพับซ้อนกันให้ได้ 44 ชั้นเพื่อความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่งผลให้ได้ขอบล้อในแต่ละชั้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แม้แต่การตกแต่งภายในก็ใส่ใจทุกรายละเอียด ห้องโดยสารของ Black Badge มีจุดเด่นอยู่ที่แผงคอนโซลหน้าไฟเบอร์ วัสดุนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบให้สะกดทุกสายตา รังสรรค์ขึ้นจากการร้อยเรียงเส้นใยอะลูมิเนียมขนาด 0.014 มม. คุณภาพระดับอากาศยานเข้ากับคาร์บอนไฟเบอร์อย่างประณีต ตามด้วยการเคลือบแลคเกอร์ 6 ชั้น ทิ้งไว้ให้แข็งตัวเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยการขัดเงาด้วยมือเพื่อให้ได้ความแวววาวราวกระจก
Product Specification,
เป็นเครื่อง V 12 ขนาด 6.6 ลิตร และมีการปรับจูน การควบคุมของเกียร์ให้ดีขึ้น ทำให้แรงบิดเพิ่มขึ้น จากเดิม 800 นิวตันเมตร เป็น 870 นิวตันเมตร อัตราแรงเร่ง 0-100 กิโลเมตร จาก 4.4 เป็น 4.3 วินาที ให้แรงม้าถึง 624 bhp (465 กิโลวัตต์) ทำให้ผลลัพธ์สมรรถนะมีประสิทธิภาพและนิ่มนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th