Rolls-Royce เปิดตัว ‘Spectre’ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์-อีก 9 ปีเลิกผลิตเครื่องยนต์น้ำมัน
Rolls-Royce ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ เผยโฉม Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก โดยมีกำหนดการขายในช่วงปลายปี 2023 พร้อมประกาศแผนยุติการผลิตเครื่องยนต์น้ำมัน (Internal Combustion Engine) ภายในปี 2030 เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว
การประกาศครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้ของ Rolls-Royce Motor Cars เปิดเผยถึงยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกบนถนนกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า โดย Torsten Müller-Ötvös ประธานบริหาร Rolls-Royce Motor Cars เปิดเผยว่า “วันนี้นับเป็นอีกวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce Motor Cars นับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 1904 ซึ่งเป็นวันที่ Charles Rolls และเซอร์ Henry Royce ผู้ก่อตั้งทั้งสองท่านของเราได้พบกันครั้งแรก และตกลงที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ ‘ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก’ ด้วยการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในขณะนั้นประยุกต์ใช้กับความคิดทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งของพวกเขา”
“สองผู้บุกเบิกได้ยกระดับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในของยุคแรกที่มีเสียงดัง นั่งไม่สบาย และเป็นเพียงยานพาหนะพื้นฐาน ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ยนตรกรรมที่พวกเขารังสรรค์ขึ้นได้แนะนำให้โลกรู้จักประสบการณ์แห่งความหรูหราที่แท้จริง และทำให้ Rolls-Royce ยังคงครองตำแหน่งสุดยอดแห่งความหรูหราที่ไม่มีใครเทียบได้จวบจนปัจจุบัน อีกทั้งแบรนด์ยังคงเป็นผู้กำหนดนิยามของสุดยอดรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นเวลามากกว่าหนึ่งศตวรรษ”
“ในวันนี้ 117 ปีต่อมาผมภูมิใจที่จะประกาศว่าได้เริ่มโครงการทดสอบรถยนต์บนท้องถนนสำหรับยนตรกรรมใหม่ที่น่าทึ่งที่จะยกระดับการปฏิวัติรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั่วโลก และสร้างสรรค์สุดยอดยนตรกรรมซูเปอร์ลักชัวรี่คันแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า นี่ไม่ใช่รถยนต์ต้นแบบแต่เป็นรถยนต์จริงที่จะถูกทดสอบในที่สาธารณะ และลูกค้าของเราจะได้รับการส่งมอบรถยนต์ครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2023”
คำพยากรณ์ที่เป็นจริง
“การใช้มอเตอร์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ Rolls-Royce โดยเซอร์ Henry Royce หลงใหลในทุกสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และธุรกิจแรกของเขาภายใต้ชื่อ F.H. Royce and Company ได้ผลิตไดนาโม, มอเตอร์เครนไฟฟ้า และอุปกรณ์ติดตั้งหลอดไฟแบบเขี้ยวที่ได้จดสิทธิบัตร”
“แต่อย่างไรก็ตามกลับเป็น Charles Rolls ผู้ที่คาดการณ์อนาคตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แท้จริงในเดือนเมษายน 1900 หลังจากเขาได้สัมผัสประสบการณ์กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ชื่อว่า Columbia และได้กล่าวไว้ว่าระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
ในตอนนั้น Rolls เคยกล่าวไว้ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นปราศจากเสียงรบกวน และไม่ก่อมลพิษใดๆ ไม่มีกลิ่นควันหรือการสั่นสะเทือน และน่าจะมีประโยชน์มากเมื่อสามารถติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่สำหรับตอนนี้ผมไม่คาดหวังจะเกิดบริการรูปแบบนี้อย่างน้อยก็ในอีกหลายปีข้างหน้า”
การคาดการณ์ของ Charles Rolls เป็นเรื่องที่ถูกทบทวนมาโดยตลอดระยะเวลาของแบรนด์ในยุคที่กู๊ดวู้ด แต่เรายังไม่พอใจในเทคโนโลยีที่มีอยู่ว่าจะสามารถมอบประสบการณ์ทางยนตรกรรมในแบบฉบับของ Rolls-Royce ได้จนกระทั่งปัจจุบัน
จากนี้เป็นเวลาที่จะเปลี่ยนวิถีแห่งอนาคตของความหรูหรา
“เราเริ่มต้นบนเส้นทางสู่อนาคตใหม่อย่างกล้าหาญนี้พร้อมข้อได้เปรียบมหาศาล ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ และเหมาะสมอย่างยิ่งกับ Rolls-Royce Motor Cars มากกว่าแบรนด์รถยนต์อื่น การขับเคลื่อนที่เงียบสงบ สง่างาม และส่งแรงบิดสูงสุดเกือบภายในทันทีทำให้เกิดขุมพลังมหาศาลนี่คือสิ่งที่พวกเราที่ Rolls-Royce เรียกว่า ‘Waftability’”
“ที่ Rolls-Royce เราได้ทดลองระบบส่งกำลังไฟฟ้ามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ในปี 2011 เราได้เผยโฉม 102EX รถยนต์ Phantom ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ต่อมาในปี 2016 เราได้พัฒนายนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่น 103EX ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่มีต่ออนาคตของแบรนด์ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า”
การยึดมั่นในคำสัญญา
“ยนตรกรรมอันน่าทึ่งนี้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าได้อย่างมากในทันที ในเรื่องของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า พวกเขาคิดว่ามันเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับยนตรกรรม และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผมถูกถามมาตลอดว่า ‘เมื่อไรที่ Rolls-Royce จะผลิตยนตรกรรมพลังานไฟฟ้า’ และ ‘คุณจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกเมื่อไรกัน’ ผมตอบคำถามอย่างชัดเจนด้วยคำมั่นสัญญาว่า ‘Rolls-Royce จะเริ่มก้าวสู่วงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในทศวรรษนี้’ วันนี้ผมทำตามคำมั่นสัญญาแล้ว'”
ความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อ
“การคาดการณ์ของ Charles Rolls และคำสัญญาของผมได้นำเรามาสู่ช่วงเวลาสำคัญของแบรนด์โดย Rolls-Royce ได้เริ่มดำเนินการในภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนซึ่งวันนี้ได้กลายเป็นรูปธรรม ทีมนักออกแบบ และวิศวกรของเราทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อพาเรามาถึงจุดนี้ บัดนี้เราพร้อมที่จะเริ่มการทดสอบยนตรกรรม Rolls-Royce พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกในประวัติศาสตร์บนท้องถนน”
การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนของเราทำให้เผชิญความท้าทายในทุกรายละเอียดของยนตรกรรมก่อนที่เราจะนำเสนอให้แก่ลูกค้า Rolls-Royce ซึ่งเป็นกลุ่มคนผู้มีความพิถีพิถัน และมีความคาดหวังสูงมากที่สุดบนโลกใบนี้”
“ในการทำเช่นนี้เราได้กำหนดโปรแกรมการทดสอบรถยนต์ที่มีความท้าทายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ Rolls-Royce เราจะทำการทดสอบในระยะทางทั้งหมด 2.5 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นการจำลองการใช้งานยนตรกรรม Rolls-Royce โดยเฉลี่ยมากกว่า 400 ปี และเราจะเดินทางไปทั่วทั้งสี่มุมโลกเพื่อทดสอบยนตรกรรมใหม่นี้ให้ก้าวข้ามขีดจำกัด”
“คุณจะได้เห็นการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้บนท้องถนนทั่วโลก คอยจับตาไว้ให้ดีว่ายนตรกรรมคันนี้กำลังจะปรากฎตัว และได้รับการทดสอบในทุกสภาวะ และทุกพื้นผิวตลอดระยะการเดินทางหลายล้านกิโลเมตร ซึ่งจะเร่งผลักดันให้ Rolls-Royce ก้าวสู่อนาคตได้เร็วยิ่งขึ้น”
โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างแท้จริงของ Rolls-Royce
“ในปี 2017 เราได้เปิดตัว Phantom ทีสร้างขึ้นจากโครงสร้างตัวถัง Aluminium Architecture ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแบรนด์ เป็นโครงสร้างแบบสเปซเฟรมที่สามารถปรับขนาด และมีความยืดหยุ่นได้ดี และจะเป็นโครงสร้างของรถยนต์ Rolls-Royce ในรุ่นอื่นๆ เทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์นี้พัฒนาขึ้นโดย Rolls-Royce เพื่อ Rolls-Royce และสงวนไว้โดยเฉพาะเพื่อการใช้งานของแบรนด์เท่านั้น โดยถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างตัวถังพื้นฐานที่ไม่เพียงจะรองรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่แตกต่างกันในแต่ละโมเดลอย่างเช่น Cullinan และ Ghost แต่ยังสามารถรองรับระบบขับเคลื่อที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงของรถยนต์รุ่นอื่นๆ อีกด้วย”
“ด้วยเหตุนี้ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่กำลังเกิดขึ้นของเราจะได้รับประโยชน์มากมายจากโครงสร้างสถาปัตยกรรมของ Rolls-Royce ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่น่าถึงของรถยนต์ Rolls-Royce ที่อยู่บนท้องถนน และเมื่อปราศจากกลยุทธ์การใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน เราสามารถบูรณากรระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ากับการออกแบบโครงสร้างตัวถังได้ตั้งแต่ต้น และทำให้มั่นใจได้ว่ายนตรกรรมใหม่ที่ไม่ธรรมดานี้เป็นไปตามความคาดหวังที่สูงมากของลูกค้าของเรา”
นามใหม่: เกียรติประวัติใหม่
“เมื่อเราเริ่มต้นภารกิจที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน รถยนต์ Rolls-Royce เป็นการทำให้สิ่งที่คาดการณ์ไว้นั้นเกิดขึ้นจริง และสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาคำมั่นสัญญา และเป็นจุดเริ่มต้นอของเกียรติประวัติใหม่ของแบรนด์ ในจิตวิญญาณนั้นเราได้ตัดสินใจที่จะตั้งชื่อใหม่แก่รถยนต์รุ่นนี้ ชื่อที่มีความทรงพลัง และน่าจดจำเทียบเท่ากับยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ เช่น Phantom, Ghost และ Wraith ที่อยู่เคียงคู่เรามาตลอดหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโลกแห่งสภาวะที่ไร้ตัวตน และโลกอีกใบที่อยู่ภายในยนตรกรรม Rolls-Royce ของเรา ชื่อที่เราสงวนไว้เฉพาะสำหรับปรากฏการณ์ครั้งนี้นั่นก็คือ Spectre”
“Spectre คือชื่อที่มอบให้แก่การมีอยู่ของโลกอีกใบที่มีความหมายเช่นเดียวกับการมีพลังอันยิ่งใหญ่ และสิ่งเร้นลับ เป็นสิ่งเร้นลับแห่งดินแดงอีกที่หนึ่งที่ปรากฏกายเพียงชั่วครู่ วิญญาณที่ทำให้โลกหยุดหมุนชั่วขณะ ครอบงำพื้นที่ที่ครอบครอง และจากทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นก็จะหายวับไปเหลือไว้ซึ่งความตื่นเต้น ความมีชีวิตชีวา และความลึกลับ”
“ชื่อนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับยนตรกรรมสุดพิเศษของ Rolls-Royce ที่เรากำลังจะกล่าวถึงในวันนี้ ยนตรกรรมที่ทำให้รู้สึกได้ถึงการมีตัวตนก่อนที่จะหายวับไปในโลกที่ไม่ใช่ทุกคนสามารถเข้าถึงยกเว้นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ในฐานะที่เป็นแบรนด์อังกฤษอย่างแท้จริง เราเลือกที่จะสะกดชื่อนี้ในแบบของชาวอังกฤษ แต่อย่างก็ตามความหมายนั้นเป็นสากล”
อนาคตอันน่าทึ่ง
“ด้วยยนตรกรรมใหม่นี้เรากำหนดมาตรฐานยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับยนตรกรรมทุกรุ่นของเราภายในปี 2030 และเมื่อถึงเวลานั้น Rolls-Royce จะอำลาวงการธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน”
“Spectre คือความสมหวังที่มีอยู่จริงของการเกิดขึ้นที่เป็นไปตามคาดการณ์ของ Charles Rolls ผมทำตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ในนามของ Rolls-Royce Motor Cars นับจากนี้เราได้เริ่มต้นภารกิจอันน่าทึ่ง ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่เรายังคงขับเคลื่อนกลุ่มหญิงชายหัวก้าวหน้า และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกสู่อนาคตที่สดใส และทรงพลัง”
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Rolls-Royce Motor Cars
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th