Royal Enfield Himalayan ยอดรถจักรยานยนต์ที่พร้อมลุยในทุกภูมิประเทศ
หลายสิบปีของการเดินทางสำรวจผ่านภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดนับพันๆ กิโลเมตร การใช้ชีวิตอยู่กับรถจักรยานยนต์ และการพัฒนาเครื่องยนต์รถให้ตอบสนองต่อการใช้งานบนเทือกเขาอันสูงชัน คือจุดเริ่มต้นของ Royal Enfield Himalayan รถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ที่ดีที่สุดของแบรนด์ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพภูมิประเทศ
Royal Enfield Himalayan คือรถจักรยานยนต์ที่สร้างขึ้นเพื่อการผจญภัย และทัวร์ริ่งโดยเฉพาะ เริ่มด้วยโครงสร้างตัวถัง duplex split cradle frame ที่ทนทาน ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดย Harris Performance ตัวรถจึงมั่นคง และคล่องตัวในเวลาเดียวกัน ตามมาด้วยระบบกันสะเทือนหลัง โมโนช็อคแบบมีแขนที่ช่วยให้ผู้ขี่เดินทางได้ไกลขึ้น และขี่นุ่มในทุกสภาพภูมิประเทศ ระยะความสูงจากพื้น 220 มม. ที่พาผู้ขี่ข้ามผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างไร้กังวล เช่น หินบนเทือกเขาหิมาลัย และหินใต้แม่น้ำลำธาร และขนาดล้อที่เหมาะสมที่ช่วยให้ผู้ขี่ควบคุมรถได้ดีเมื่ออยู่บนทางขรุขระ หรือร่องต่างๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ทั้งนักขี่ที่มีประสบการณ์ และผู้ที่หลงใหลในการขี่สามารถออกผจญภัยสำรวจเส้นทางใหม่ๆ และทำได้มากขึ้นด้วยรถจักรยานยนต์เพียงคันเดียว
Royal Enfield Himalayan เป็นแอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ที่โดดเด่น และทำผลงานได้ดีในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยเฉลี่ยแล้ว 40% ของพอร์ตฟอลิโอตลาดต่างประเทศคือ Himalayan ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยปีต่อปีตั้งแต่เปิดตัวขึ้นในปี ค.ศ. 2016 Himalayan กลายเป็นรถจักรยานยนต์ อเนกประสงค์ที่เข้าถึงได้ง่าย และเหมาะสำหรับการผจญภัยในทุกมุมโลก
การเปิดตัว Himalayan รุ่นใหม่ที่ผ่านมาตรฐาน BS-VI รวมถึงมาพร้อมฟีเจอร์เฉพาะตัว และฟังก์ชันดีไซน์ทำให้มั่นใจว่าจะผู้ขี่จะชื่นชอบ และก่อให้เกิดมาตรฐานใหม่ของการผจญภัยด้วยรถจักรยานยนต์ในประเทศ ด้วยความเข้าถึงได้ง่าย, ความอเนกประสงค์, และความสามารถอันหลากหลาย Himalayan จึงเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์เพื่อการผจญภัยที่ไม่ควรมองข้าม
ความสามารถในการขี่แบบทัวร์ริ่ง รวมถึงจุดติดตั้งสัมภาระสำหรับกระเป๋าแบบแข็ง, แบบอ่อน และถังน้ำมันสำรอง คือส่วนสำคัญในการสร้าง และออกแบบ Himalayan ถังน้ำมันขนาด 15 ลิตร ช่วยให้ผู้ขี่เดินทางได้ไกลถึง 450 กม. แผงหน้าปัดที่ไม่ซับซ้อนแสดงให้เห็นถึงความเร็ว, ทิศทาง, อุณหภูมิโดยรอบ, เวลาเดินทาง, ช่วงเวลาสำหรับการนำรถเข้าตรวจเช็ก และระยะการเดินทางของทริปต่างๆ ที่พักเท้า แฮนด์บาร์ และความสูงของเบาะนั่งซึ่งออกแบบให้เข้ากับหลักสรีรศาสตร์ทำให้เวลาเดินทางไกลผู้ขี่สามารถนั่งหลังตรงได้อย่างสบายตัว เบาะนั่งสูง 800 มม. มาพร้อมสมดุลมวลที่ต่ำ
ผู้ขี่จึงวางเท้าที่พื้นเพื่อควบคุมตัวรถได้สะดวก ยาง dual-purpose ช่วยให้ยึดเกาะทางได้ดีในทุกสภาพภูมิประเทศ นอกเหนือจากการควบคุมเบรกอย่างสมบูรณ์แล้ว ดิสก์เบรกหน้า 300 มม. ดิสก์เบรกหลัง 240 มม. และระบบเบรกแบบ ABS Dual Channel ยังลดการออกแรงเบรกของผู้ขี่อีกด้วย การออกแบบที่เรียบง่ายของตัวรถ การบิดจะแบบ flat torque curve เบาะนั่งที่ไม่สูงเกินไป ช่วงล่างแบบ long suspension travel และความเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ Himalayan เป็นรถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับทั้งการผจญภัยนอกเมืองและในเมือง โดยผู้เชี่ยวชาญได้นำไปทดสอบอย่างเข้มงวดทั้งบนถนน และทางวิบากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบิน Bruntingthorpe ในสหราชอาณาจักร สนามแข่งในเมือง Sriperumbudur ประเทศอินเดีย และเทือกเขาหิมาลัย
ในตอนแรก Himalayan เป็นรถที่เปิดตัวมาเพื่อตลาดอินเดียเป็นหลัก แต่ต่อมาได้เติบโตกลายเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งที่ดีทีสุดในคลาสในประเทศและทั่วโลก สร้างมาตรฐานใหม่ของแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งที่ไม่เอ็กซ์ตรีมเกินไป และเข้าถึงได้ง่ายกว่า ช่วยให้รถจักรยานยนต์ประเภทนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้้ Himalayan ยังถูกนำไปใช้เป็นรถจักรยานยนต์คู่กายสำหรับทหารกองทัพอินเดียเพื่อขี่บนเส้นทาง Karakoram และการเดินทางไปเบสแคมป์ของยอดเอเวอเรสต์อันยิ่งใหญ่ในทิเบต
Himalayan ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายรวมถึง รางวัล Bike of the Year – Best Touring Light Weight อันทรงเกียรติ ติดต่อกัน 2 ปี ซ้อน (ค.ศ. 2021-2022) ในประเทศไทย, รางวัล C! Award ประจำปี ครั้งที่ 4: Best Adventure Tourer (400-650cc) ในประเทศฟิลิปปินส์ และ Best LAMS adventure motorcycle โดย Bikesales ในประเทศออสเตรเลีย อีกด้วย
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th