SOUPED UP GRANDPRIX 2023 ศึกความมันส์ทางตรง ปีนี้ “ดีเซลขอ” แชมป์หน้าใหม่ “เบสต์ เทอร์โบยำ & ยู แปดริ้ว” แจ้งเกิด
หลังจากที่ SOUPED UP รายการใหญ่สาย Drag ซิ่งทางตรง ระยะ 402 เมตร ได้ห่างหายไปนานถึง 3 ปี ปีนี้ กลับมาพลิกโฉมใหม่ ด้วยการพัฒนาชื่อใหม่ให้กระชับและนำสมัย คือ SOUPED UP GRANDPRIX 2023 และมีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้กระชับ สมบูรณ์ มากขึ้น ในปีนี้ ก็มีการปรับเปลี่ยนกติกาของรถแข่งใหม่ โดยเป็นรุ่น PRO ทั้งหมด และใช้ยาง Drag Radial และ Drag Slick เท่านั้น เพื่อให้รถสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้น ซึ่งก็ตรงกับ Concept ที่วางไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม…
เราเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. เป็นวัน “ตรวจสภาพรถแข่ง” โดยหลักๆ ก็จะเน้นเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งตัวรถ และชุดนักแข่ง ในวันที่ 1 ธ.ค. จะเป็นวัน “ควอลิฟาย” หรือ “คัดเลือก” ในวันนี้จะสามารถวิ่งจับเวลาได้ 2 รอบ และหาเวลาที่ดีที่สุดของแต่ละคัน เพื่อคัดเลือกเข้ารอบชิง จำนวน 6 คัน ในแต่ละรุ่น โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องผ่าน “เวลาขั้นต่ำ” หรือ Target Time ที่มีกำหนดในแต่ละรุ่น ถ้าไม่ผ่านเวลาขั้นต่ำ ก็จะไม่สามารถผ่านเข้ารอบชิงด้วยกรณีใดๆ…
วันควอลิฟาย หลายคนอาจจะคิดว่าไม่น่ามีอะไรตื่นเต้น ว่าแค่วิ่งประคองเวลาเพื่อผ่านเข้ารอบชิง แต่จริงๆ แล้ว “ลุ้นกันสุดๆ” ทุกทีมจะเกิด “การวางเกม” แม้จะคิดว่าตัวเองทำเวลาได้ดี เข้ารอบแน่นอน แต่ว่า…ถ้ายังวิ่งไม่จบ ก็มีโอกาสที่คันอื่นจะทำเวลาได้ดีกว่า และ “เขี่ยตกรอบ” ก็ได้ ในการควอลิฟายรอบ 2 จึงมีความสำคัญมากๆ เพราะมันก็มีผลต่ออันดับสตาร์ทในวันชิง ที่รถทำเวลาได้เร็วที่สุด จะสตาร์ทท้ายสุด ก็เป็นความได้เปรียบที่จะได้เห็นคันอื่นวิ่ง “ดูทรง” ก่อน โดยหลักก็เรื่อง “ผิวแทร็ค” และการ “เลือกไลน์วิ่ง” รายละเอียดพวกนี้มีผลต่อเวลาทั้งสิ้นครับ บางคันว่าจะไม่วิ่งรอบ 2 แล้ว แต่พอเห็นพวกทำเวลาดีกว่า ก็เอาออกกันมาวิ่งใหม่ สนุกดี…
ในวันที่ 2 และ 3 ธ.ค. จะเป็นรอบ Final หรือ ชิงชนะเลิศ จับเวลา 2 รอบ แต่แยกคนละวัน” พูดง่ายๆ ก็ “วันละรอบ” นั่นเอง จะได้มีเวลาเตรียมรถได้ 24 ชม. โดยเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเที่ยง ไล่รุ่นจาก PRO STREET AWD หรือ “สายขับสี่” ทั้งหลาย ไปจนถึง PRO DRAGSTER หรือ “หน้ายาว” รุ่นใหญ่สุด (ส่วนเรื่องลักษณะของตัวรถแข่งในแต่ละรุ่น เดี๋ยวขอยกไปเล่ากันในตอนหน้า) แต่ในวันสุดท้าย มี Surprise จาก “ฝนหลงฤดู” กระหน่ำอย่างหนักในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่รุ่นใหญ่อย่าง PRO TRUCK, PRO MAX, PRO DRAGSTER จะวิ่ง ก็เลยต้องใช้เวลาเคลียร์กันถึง 3 ชั่วโมง แต่ทุกคนก็ตั้งตารอรุ่นใหญ่ จนผิวสนามเริ่มแห้ง มีการเชิญนักแข่ง (Racer) พร้อมนายสนาม หรือ C.O.C : Clerk Of Course มาร่วมตรวจสอบผิวสนาม หรือ Track Inspection ร่วมกัน ก็มีมติตรงกันว่า “ขอไปต่อ” สร้างความดีใจให้กับเหล่าผู้ชมในสนาม ที่ตั้งใจเดินทางมาชมการแข่งขันจริงๆ…
บรรยากาศในการแข่งขันรอบสุดท้าย รถ PRO DRAGSTER ที่ยังไม่ได้วิ่งในรอบแรก ก็มา “วิ่งโชว์” กันก่อน เพื่อ “ปั่นแทร็คให้แห้ง” แล้วจึงจับเวลาจริง นำทีมโดย “Siam Prototype” หรือ “น้าหยาม” ขวัญใจสาย Drag และนักแข่งอื่นๆ ก็ออกมาวิ่ง Test Run กัน อาจจะไม่ได้เวลาที่ดีที่สุด แต่ก็ “ได้อารมณ์” ท้ายสุด ฟ้าก็ไม่เป็นใจ ฝนตกลงมาอีกรอบ เลยต้องยุติการแข่งขัน โดยใช้เวลาจากรอบแรกมาจัดอันดับ ทำให้แชมป์ในปีนี้ คือ “ธณพล ชูเจริญผล” หรือ เบสท์ เทอร์โบยำ ทีม “ยู แปดริ้ว อภิชาติฟาร์มไข่ไก่ – HYB by อู่ช่างวัฒน์” กับ Dragster เครื่องยนต์ ISUZU 4JJ ดีเซล ทำเวลาเร็วสุด คือ “7.020 วินาที” อีกนิดเดียวจะเห็นเลข 6 วินาที อยู่รอมร่อแล้ว !!! แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ เบสท์ เทอร์โบยำ และ Dragster เครื่องดีเซล ที่ได้ตำแหน่งแชมป์ SOUPED UP GRANDPRIX ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ รวมถึงทุกท่านที่ได้รางวัลด้วย และขอขอบคุณ “ทุกท่านที่มาร่วมงาน” นักแข่ง ทีมแข่ง ผู้ชม ทีมงานทุกส่วน ฯลฯ ที่ร่วมสนับสนุนและฝ่าฝันมาด้วยกันจนสำเร็จ…
น่าเสียดาย ที่ปีนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่ทุกคนก็ทำดีที่สุดแล้ว ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็ถือว่า “ลุ้นสนุกทุกรุ่น” โดยเฉพาะ PRO 6 ที่เป็นการเชือดเฉือนของ “สาย 6 สูบ ยาง Drag Slick” ที่แต่ละคนทำรถมาสูสีกันมาก และมีรถ NISSAN GT-R R35 ของทีมมาเลเซียมาร่วมขยี้ด้วย เรียกว่าลุ้นเบียดกันสุดๆ เป็น “รุ่นไฮไลต์” ของปีนี้เลย และทีมแข่งจากมาเลเซียมากันเยอะมาก ทั้งรุ่น PRO 4 N/A, PRO 4, PRO 4 FWD, PRO 6 ก็เป็นเรื่องน่ายินดี ที่ได้รับเสียงตอบรับจากประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ทำให้ยกระดับรายการ SOUPED UP GRANDPRIX ให้มาตรฐานสากลยิ่งขึ้น เรียกว่า “ปีหน้าเดือดแน่ๆ” ปีนี้เหมือนเป็นการ “วอร์มอัพ” กันก่อน ติดตามชมหนังสือ XO Autosport SOUPED UP GRANDPRIX 2023 Issue รวมภาพทั้งรถและบรรยากาศในงานในรูปเล่มพิเศษที่สวยงามน่าสะสมได้ เร็วๆ นี้…
รูปและข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : XO Autosport
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th