Stellantis เปิดตัวแพลตฟอร์ม STLA Medium ใหม่ใช้กับรถไฟฟ้าซี-เซ็กเมนต์และดี-เซ็กเมนต์
Stellantis ซึ่งมีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากมายทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่าง Dodge, Fiat, RAM, Jeep, Citroen, Peugeot, Maserati และ Opel เปิดตัวแพลตฟอร์ม STLA Medium ใหม่สำหรับใช้กับรถไฟฟ้า รถครอสโอเวอร์ และรถเอสยูวีซี-เซ็กเมนต์และดี-เซ็กเมนต์ โดยเป็นแพลตฟอร์มแรกใน 4 แพลตฟอร์มรถไฟฟ้า BEV ที่ประกาศออกมาตั้งแต่ปี 2021
ทางStellantis ให้รายละเอียดของแพลตฟอร์มSTLA Medium ใหม่ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสถาปัตยกรรมโลกและจะมีการผลิตช่วงปลายปีนี้ในยุโรปว่า เป็นแพลตฟอร์ม BEV-by-Design ที่มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อใช้กับรถที่มีความหลากหลายรูปแบบ โดยรถที่มีพื้นฐานบนแพลตฟอร์มนี้จะสามารถมีความยาวได้ระหว่าง 4,300-4,900 มม. และมีฐานล้อยาว 2,700-2,900 มม. รวมทั้งยังสามารถมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นได้มากกว่า 220 มม. เพื่อความสามารถในการลุยออฟโรด
นอกจากนี้รถบรแพลตฟอร์ม STLA Medium ยังสามารถมีการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือทุกล้อของรถได้ ในขณะที่กำลังขับเคลื่อนของรถจะอยู่ระหว่าง 215 แรงม้าถึง 382 แรงม้า
แพลตฟอร์มใหม่จะติดตั้งแบตเตอรีที่มีความจุให้ใช้งานถึง 98 kWh โดยที่รถบนแพลตฟอร์มนี้จะมีทั้งรุ่นแบตเตอรีมาตรฐานและแบตเตอรี Performance ซึ่งกับรุ่นมาตรฐานจะให้ระยะการเดินทางมากกว่า 500 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ในขณะที่รุ่น Performance จะมีระยะการเดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
แพลตฟอร์ม STLA Medium ใช้สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 400-โวลต์ ซึ่งทางผู้ผลิตให้ความมั่นใจว่าจะให้ความประหยัดพลังงาน มีระยะเวลาในการชาร์จ และการเชื่อมต่อดีที่สุดในระดับเดียวกัน โดยรถบนแพลตฟอร์มนี้จะสามารถชาร์จไฟจาก 20 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลา 27 นาที ด้วยความสามารถในการชาร์จไฟ 2.4 kWh ต่อนาที ขณะที่อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 14 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร
ทาง Stellantis ยังบอกว่าแบตเตอรีซิงเกิลเลเยอร์ความจุสูงที่ใช้กับแพลตฟอร์มจะช่วยให้รถมีพื้นที่ห้องโดยสารมากที่สุดพร้อมกับมีการเดินทางและขับขี่ที่ดีขึ้นด้วยการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ รวมทั้งชิ้นส่วนของแพลตฟอร์มอย่างระบบความเย็นและความอุ่นของห้องโดยสาร ระบบพวงมาลัย ระบบช่วยเบรก และระบบขับเคลื่อนถูกออกแบบเพื่อให้มีการใช้พลังงานน้อยที่สุด ซึ่งจากสิ่งนี้ร่วมกับการเพิ่มการใช้วัสดุน้ำหนักเบาและมีความทนทานจะทำให้รถมีทั้งระยะการเดินทางดีที่สุดพร้อมกับให้ความสบายในการเดินทาง และสมรรถนะในการขับขี่
อีกรายละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ที่ถูกเปิดเผยออกมาคือ มีการออกแบบด้วยความคิดให้อัพเกรดได้ในอนาคต เช่นเดียวกับที่สถาปัตยกรรม STLA Brian Architecture, STLA SmartCockpit และแพลตฟอร์ม STLA AutoDrive สามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ Over-the-air และเพิ่มฮาร์ดแวร์ได้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th