Subaru เปิดตัว Crosstrek รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 ออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาพร้อมกับรายละเอียดต่างๆ ของรถ แต่ยังไม่ระบุถึงตัวเลขกำลังขับเคลื่อนออกมา ล่าสุดรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้เริ่มทำตลาดที่ญี่ปุ่นแล้วโดยที่มีทางเลือกทั้งแบบขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้าหรือหรือทุกล้อของรถ พร้อมกับการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของรถออกมา

Subaru Crosstrek ทำตลาดในญี่ปุ่นด้วยขุมกำลังเดียวคือระบบไฮบริด e-Boxer ที่มีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไร้ระบบอัดอากาศ สร้างกำลังขับเคลื่อนออกมา 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที โดยที่มีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 13.6 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตรช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อน ส่วนการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อเป็นหน้าที่ของเกียร์ Lineartronic CVT พร้อมแมนนวลโหมด

แม้จะมีเครื่องยนต์เดียวให้ใช้ แต่ Crosstrek ที่ขายในญี่ปุ่นก็มี 2 ทางเลือกในการขับเคลื่อนให้เลือกระหว่างทุกล้อของรถหรือ 2 ล้อหน้าสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบหรือคิดว่าระบบขับเคลื่อนด้วยทุกล้อเกินความจำเป็น โดยที่มีให้เลือกทั้ง 2 ระบบขับเคลื่อนกับทั้ง 2 เกรดของรถที่ขายในหญี่ปุ่น

Crosstrek ที่ขายในญี่ปุ่นมีให้เลือกระหว่างเกรด Touring และ Limited ซึ่งเกรดหลังที่เป็นเกรดสูงสุดมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วทูโทน ไฟหน้า Full-LED มีแถบกระจังหน้า กรอบรอบไฟตัดหมอกและรูฟเรียลเป็นอลูมิเนียมแทนสีดำ แต่ทั้ง 2 เกรดของ Crosstrek มีสีให้เลือกถึง 9 สี ส่วนในห้องโดยสารของเกรดสูงสุดมาพร้อมพร้อมกับจอทัชสกรีนแนวตั้งตรงกลางขนาด 11.6 นิ้ว และมีแพกเก็จระบบช่วยขับ EyeSight ที่ถูกปรับปรุงมากขึ้นด้วยการใช้กล้องมุมกว้างใหม่ อย่างไรก็ตาม Crosstrek ทั้ง 2 เกรดมีเบาะหุ้มด้วยผ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่มีเบาะหนังเป็นออฟชันให้จ่ายเงินเพิ่ม

นอกจากรถมาตรฐานแล้วทางSubaru ยังมีแพกเก็จแต่งให้ติดตั้งกับCrosstrek ถึง 3 แพกเก็จคือ Front Face Package, Toughness Package และ Utility Package โดยแพกเก็จแรกจะเป็นการแต่งที่ด้านหน้าของรถด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่เป็นแถบแนวนอนสีดำ และติดสติกเกอร์สีดำบนฝากระโปรงหน้าหรือติดคิ้วแต่งปลายฝากระโปรงหน้า ส่วน Toughness Package จะมีคิ้วสีดำแต่งที่ไฟหน้าและไฟท้าย รวมทั้งมีคิ้วกันกระแทกที่ขอบล่างของประตู สำหรับ Utility Package จะเป็นอุปกรณ์เพื่อการใช้งานอย่างถาดปูพื้นในพื้นที่เก็บของด้านหลังรถ ไฟให้ความสว่างเมื่อเปิดฝาท้าย และแผ่นกันรอยที่ขอบพื้นที่เก็บของด้านหลังโดยมีให้เลือกระหว่างเป็นสเตนเลสสตีลหรือเรซิน

ราคาในญี่ปุ่นเริ่มต้นตั้งแต่ 2,662,000 เยนในเกรด Touring ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าไปจนถึง 3,289,000 เยนกับเกรด Limited ขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ หรือระหว่าง 686,000-848,000 บาท

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th