ลองใช้จริง “ตาเทพ! EyeSight” กับ 6 ฟังก์ชั่นที่สุดของความปลอดภัยจาก Subaru
หากคุณเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลหรือเจอสภาพรถติดในเมืองหลวงที่ทำให้เครียดและเมื่อยไปทั้งตัว เพราะต้องให้ความสนใจอยู่กับการขับขี่ตลอดเวลา ซึ่งหลายครั้งทำให้เกิดความเพลียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พอได้ลองใช้งานเทคโนโลยี EyeSight ที่ติดตั้งอยู่ใน Subaru นั่นทำให้การขับรถในทุกช่วงเวลามีความสุข สะดวกสบาย และปลอดภัยสุดๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ! วันนี้มาทำความรู้จักกับ “ตาเทพ EyeSight” ที่ว่านี้ไปด้วยกัน
กล้องแบบสเตอริโอ ติดตั้งอยู่ที่กระจกหน้าทำหน้าที่เสมือนดวงตาให้กับรถ
สำหรับเทคโนโลยี EyeSight มีชื่อเต็มว่า EyeSight Advanced Driver Assist เป็นระบบสนับสนุนการขับขี่ที่ช่วยให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยนวัตกรรม EyeSight ที่ใช้กล้องแบบสเตอริโอเพื่อตรวจจับยานพาหนะอื่นที่อยู่รอบข้าง สิ่งกีดขวาง เลนการจราจร ตลอดจนวัตถุอื่นๆ ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม EyeSight Advanced Driver Assist จะบังคับเบรกหรือลดคันเร่งเพื่อลดความเสี่ยงในการชนนั่นเอง
โดย EyeSight Advanced Driver Assist มี 6 ฟังก์ชั่นหลักที่ทำงาน คือ
1.ระบบเบรคอัตโนมัติ (Pre-Collision Braking**) ระบบเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและไฟบนหน้าปัดรถ หากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองต่อคำเตือน ระบบจะใช้เบรกโดยอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ หรือเพื่อป้องกันการชนหากเป็นไปได้
2.ระบบไปและหยุดอัตโนมัติตามคันหน้า (Adaptive Cruise Control) นอกเหนือจากการรักษาความเร็วของรถตามที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ ระบบ Adaptive Cruise Control ยังสามารถปรับความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้า โดยอาศัยการตรวจจับระยะห่างและความแตกต่างของความเร็ว ระบบจะปรับเครื่องยนต์ เกียร์และเบรค เพื่อให้ความเร็วของรถสอดคล้องกับสภาพการจราจร
3.ระบบจัดการกำลังเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Pre-Collision Throttle Management) เมื่อเทคโนโลยี EyeSight Advanced Driver Assist ตรวจจับอุปสรรคที่อยู่ในเส้นทางของยานพาหนะ แต่ผู้ขับขี่ไม่หลีกเลี่ยง ระบบ Pre-Collision Throttle Management จะส่งเสียงเตือนสั้นๆ หลายครั้ง และจะเปิดไฟกระพริบ ก่อนที่จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า
4.ระบบเตือนอัตโนมัติเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning) เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็ว 50 กม. ต่อชั่วโมงขึ้นไป และเริ่มเคลื่อนไปอยู่ที่ขอบเลน ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ก่อนที่จะออกจากเลน ระบบจะเตือนเมื่อผู้ขับขี่ไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเท่านั้น หากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวระบบจะไม่ทำการแจ้งเตือน
5.ระบบเตือนอัตโนมัติเมื่อขับรถส่าย (Lane Sway Warning) ระบบเตือน Lane Sway จะช่วยเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงเตือนและไฟกระพริบที่หน้าปัดเมื่อรถเริ่มขับส่ายไปมา โดยระบบจะทำงานที่ความเร็ว 60 กม. ต่อชั่วโมงขึ้นไป
6.ระบบเตือนอัตโนมัติดเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert) เมื่อรถหยุด และ EyeSight Advanced Driver Assist ตรวจจับได้ว่าการจราจรเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง ระบบ Lead Vehicle Start Alert จะเตือนด้วยเสียงและไฟกระพริบ ให้ผู้ขับขี่เตรียมพร้อมออกรถ
*EyeSight เป็นระบบช่วยขับขี่ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในบางสภาวะการการขับขี่
** ระบบเบรคอัตโนมัติ (Pre-Collision Braking System) อาจมีข้อจำกัดในบางสภาวะการขับขี่ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถและวัตถุ ความสูงของวัตถุ และเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสำหรับการทำงานของระบบ EyeSight
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของซูบารุในปัจจุบัน ที่ประกอบด้วย
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ (Boxer Engine): เครื่องยนต์บ็อกเซอร์คือขุมพลังขับเคลื่อนของรถยนต์ทุกรุ่นของซูบารุมามากว่า 50 ปี และมีชื่อเสียงด้านความสมดุลอันเป็นเลิศ ความนุ่มนวล และการจ่ายกำลังไฟฟ้าที่เหนือกว่า เครื่องยนต์สูบนอนนี้ ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง การควบคุมรถมีสมดุลมากขึ้น ช่วยลดการเอียงตัวของรถขณะเข้าโค้ง เพื่อให้การทรงตัวเสถียรมากขึ้นในถนนทุกสภาพ
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive): หัวใจของ ซูบารุ คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่ตอบสนองการหักพวงมาลัยด้วยความแม่นยำสูงเมื่อเข้ามุม โดยยังสามารถรักษาความเสถียรของตัวรถเมื่อขับด้วยความเร็วสูง แม้ในสภาวะการจราจรที่ไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถมานานหลายทศวรรษ
เทคโนโลยี Subaru Global Platform: เทคโนโลยี Subaru Global Platform คือการปรับโฉมครั้งใหม่ของนวัตกรรมยานยนต์ซูบารุ ที่ช่วยยกระดับสมรรถนะของรถยนต์ ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ แพลตฟอร์มใหม่ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับทั้งเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ไฮบริด เครื่องยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก และรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่ใช้แหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ เป็นการวางรากฐานระยะยาวสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคตของซูบารุ
ทั้งหมดนี้ทำให้รถยนต์ของ Subaru ทุกรุ่นมีเอกลักษณ์ของความสมดุล สมรรถนะ และระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่เหมือนกัน ช่วยให้การขับขี่เต็มไปด้วยความสนุกและปลอดภัยไปพร้อมๆ กันนั่นเอง
ในส่วนของการลองใช้งาน ต้องยอมรับว่า Subaru คิดมาค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด รวมถึงความ “ง่าย” ในการใช้งาน ด้วยการกดที่ปุ่มสัญลักษณ์ Cruise Control ที่พวงมาลัยเพื่อเปิดระบบ กดปุ่มปรับระยะความห่างจากรถคันหน้า และดันสวิตซ์ขึ้นลงเพื่อปรับระดับความเร็ว ที่ปุ่มทั้งหมดอยู่บนพื้นที่เดียวกันที่ใช้เพียงนิ้วโป้งขวาในการปรับเท่านั้นเอง
การแสดงผลกราฟฟิคที่จอเหนือคอนโซลกลาง
การแสดงผลหน้าจอ TFT ที่มาตรวัดความเร็ว
เมื่อเปิดระบบใช้งาน EyeSight Advanced Driver Assist เริ่มทำงานจะเห็นว่าหน้าจอ TFT ที่กลางมาตรวัดความเร็วจะแสดงผลทั้งสัญลักษณ์และกราฟฟิค ควบคู่ไปกับที่จอแสดงผลที่ด้านบนของกลางแดชบอร์ด ซึ่งจะตรวจจับวัตถุด้านหน้า และเมื่อมีวัตถุด้านหน้า จะเห็นกราฟฟิคจับภาพรถพร้อมเป้าสี่เหลี่ยมเกิดขึ้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าตอนนี้รถกำลังจับวัตถุด้านหน้าอยู่ เมื่อวัตถุด้านหน้าลดระยะห่างเข้ามาใกล้ตัวรถ รถจะชะลอความเร็วให้สัมพันธ์กับความเร็ว ทำให้การเบรกและการชะลอความเร็วที่เกิดขึ้นมีความนุ่มนวล แต่หากมีวัตถุแทรกเข้ามากะทันหันรถจะเบรกแรงขึ้นและรักษาระยะห่างเอาไว้ และเมื่อวัตถุด้านหน้าเคลื่อนที่ห่างออกไป รถจะเร่งความเร็วขึ้นมาถึงระดับที่ตั้งเอาไว้ รวมทั้งรักษาระยะห่างเอาไว้เช่นเดิม ซึ่งถือว่าในการใช้งานจริง ผู้ขับขี่สามารถพักขาจากคันเร่งและเบรก เพียงจับพวงมาลัยตามเส้นทางเอาไว้เท่านั้น
มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากค่ายอื่นนั่นคือ EyeSight Advanced Driver Assist สามารถทำงานได้ตั้งแต่ความเร็ว 0 กม./ชม. เป็นต้นไป หากรถคันหน้าหยุดนิ่ง ระบบจะเบรกให้รถหยุดให้อัตโนมัติด้วยเช่นเดียวกัน และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ เพียงใช้นิ้วดันปุ่มREST/+ เท่านั้น ระบบจะกลับมาทำงานในทันทีโดยที่ไม่ต้องกดคันเร่งในอย่างใด ซึ่งหากตั้งระยะเอาไว้ใกล้ที่สุด เมื่อรถหยุดจะมีระยะห่างจากคันหน้าราวๆ 2 เมตร จุดนี้ต้องทำความคุ้นเคยกับระยะห่างกันสักหน่อย แต่ไว้ใจได้ว่าห่างอย่างปลอดภัยแน่นอน
โดยรวมถือว่า EyeSight Advanced Driver Assist เป็นระบบที่ถือว่ามีความเสถียรและปลอดภัยกับการใช้งานมาก การตรวจจับวัตถุด้วยกล้องแบบสเตอริโอให้ผลเหมือนการมองเห็นด้วยสายตา ทำให้มีความแม่นยำกว่าระบบคลื่นสัญญาณที่ส่งออกไปแล้วส่งสัญญาณกลับมา สิ่งสำคัญคือ แม้ว่าระบบจะมีความแม่นยำสูง แต่การควบคุมรถเป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่เป็นหลัก หากเกิดกรณีที่มีรถจักรยานยนต์หรือรถจักรยานแทรกมาทางด้านซ้ายที่เป็นจุดอับสายตาแล้วแซงขึ้นด้านหน้า โดยปกติผู้ขับขี่จะเห็นก่อน ฉะนั้น ควรที่จะหยุดรถด้วยตัวเองก่อนที่ระบบจะทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น หากทำได้จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ขับขี่และ เทคโนโลยี EyeSight Advanced Driver Assist ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง
อยากให้ได้ลอง..แล้วจะรู้ว่า เทคโนโลยี EyeSight Advanced Driver Assist ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ Subaru ทุกรุ่น แม่นยำ ปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจจริงๆ
เรื่อง/ภาพ : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th