Subaru Outback เริ่มลุยยุโรป
แม้ว่า Subaru จะเปิดตัว Outback ออกมาตั้งแต่ปี 2019 แต่ดูเหมือนว่านอกจากตลาดอเมริกาเหนือแล้ว ตลาดอื่นๆ รวมทั้งญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อ Legacy Outback เพิ่งจะเริ่มมีโอกาสได้สัมผัสรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้กันในปีนี้เอง โดยหนึ่งในนั้นคือยุโรปที่เพิ่งมีการเปิดตัวออกมา และจะเริ่มส่งรถไปตามดีลเลอร์ในเดือนเมษายนนี้
Subaru Outback ที่มารับหน้าที่รถครอสโอเวอร์แวกอนระดับเรือธงของแบรนด์ในตลาดยุโรปมีเฉพาะขุมกำลังเดียวทำตลาด คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบ 2.5 ลิตร หายใจเอง โดยจับคู่กับเกียร์ Lineartronic CVT ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนทุกล้อของรถ ซึ่งทาง Subaru ระบุว่าเครื่องยนต์ใน Outback ใหม่มีการออกแบบชิ้นส่วนใหม่ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เกียร์ CVT ที่ใช้มีการขยายอัตราทดเกียร์มากขึ้นจนเทียบเท่ากับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
อย่างไรก็ตามทาง Subaru ในยุโรปไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องกำลังของเครื่องยนต์ไว้ ซึ่งตัวเลขไม่น่าแตกต่างจากเครื่องยนต์เดียวกันที่ใช้ในอเมริกาเหนือที่มีกำลัง 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 238 นิวตัน-เมตร รวมทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของรถยังมีการทำงาน Torque Vectoring เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้การควบคุมและการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นด้วย
Outback รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 อยู่บนแพลตฟอร์ม Global Platform ล่าสุดของ Subaru ที่ใช้เหล็อกกล้าที่มีความทนต่อแรงดึงมากขึ้นร่วมกับตัวรถที่มีน้ำหนักเบาลง พร้อมกับมีการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากเจนเนอเรชั่นที่แล้ว โดยทนต่อการบิดตัวเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ และสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์
Outback ที่ขายในยุโรปยังมาพร้อมกับ X-Mode ใหม่สำหรับการใช้บนเส้นทางออฟโรดคือ Snow/Dirt และ Snow/Mud ในขณะที่ใต้ท้องรถมีความสูงจากพื้น 213 มม. ส่วนมุมไต่อยู่ที่ 19.7 องศา มุมจากอยู่ที่ 22.6 องศา และมีมุม Break-over 21 องศา
แน่นอนว่า Outback เจนเนอรเชั่น 6 สำหรับตลาดยุโรปมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยขับ EyeSight เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งใช้กล้องคู่ที่ทำให้มีมุมมองกว้างขึ้นเกือบ 2 เท่าจากเจนเนอเรชั่นที่แล้ว รวมทั้งใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับภาพใหม่สำหรับ 11 การทำงานช่วยผู้ขับรถอย่างเช่นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอแดปทีฟพร้อมช่วยให้รถอยู่กลางเลน ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนพร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย และและระบบป้องกันรถเบี่ยงออกนอกเลน
นอกจากนี้ Outback สเปกยุโรปยังมาพร้อมกับจอระบบ Infotainment แนวตั้งขนาด 11.6 นิ้วซึ่งมีการออกแบบอินเตอร์เฟชใหม่ พร้อมมี Apple CarPlay และ Android Auto เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมไปถึงมีกล้องตรวจจับใบหน้าติดตั้งภายในห้องโดยสาร เพื่อการจำแนกบุคคลที่อยู่ในเบาะผู้ขับ สำหรับการปรับตำแหน่งเบาะ กระจกมองข้าง และระบบปรับอากาศที่ใช้เสมอให้อัตโนมัติ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th