สำหรับปี 2022 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดรถยนต์เมืองไทยมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาก มีรถโมเดลใหม่เปิดตัวหลายรุ่น รวมทั้งรถในกลุ่ม EV ที่สร้างความฮือฮาและสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ทำเอารถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปต้องมองค้อนกันเลย นั่นทำให้เห็นว่าเทรนด์ของปีนี้ รถยนต์พลังงานทางเลือกมาแรงจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น รูปแบบความจำเป็นในการใช้งานมีความแตกต่างกัน ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ครั้งนี้ทีมงาน Grandprix Online รวบรวมรถเด่นแห่งปี 2022 มาให้ดูกัน

EQS 500 4MATIC AMG Premium

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินหน้าสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว หลังจากชิมลางด้วย The New EQS 450+ AMG Premium ไปก่อนหน้านี้ ซึ่ง EQS 500 4MATIC AMG Premium ค่าตัว 7,900,000 บาท รุ่นประกอบในประเทศไทย มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 449 แรงม้า แรงบิด 828 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที ขับได้ไกลสุด 702 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ภายในห้องโดยสารล้ำหน้าสุดๆ โดดเด่นด้วยจอ MBUX Hyperscreen ขนาด 56 นิ้ว ยาวตลอดแนวคอนโซล หรู ล้ำ พรีเมียมสุดๆ

BMW i7

นี่คือความหรูหรา สง่างาม และสะดวกสบายระดับ Luxury สมกับค่าตัวเริ่มต้น 7,599,000 บาท ซึ่ง New BMW i7 เป็นรถยนต์ซีดานพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลัง 544 แรงม้า แรงบิด 745 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า xDrive และ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.7 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งได้ 625 กิโลเมตร มีชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ Iconic Glow สุดหรูหราด้วยไฟ LED 22 ดวง ส่องผ่านคริสตัลจากด้านหลัง ภายในโดดเด่นด้วยฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย ติดตั้งหน้าจอกลาง BMW Curved Display ขนาด 14.9 นิ้ว ส่วนที่เบาะนั่งด้านหลังติดตั้งจอแสดงผลดิจิทับแบบโค้ง Theatre Screen สุดว้าว ขนาด 31.3 นิ้ว ภูมิฐานและสง่างามจริงๆ

BYD ATTO3

รถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงกว่าใคร ด้วยยอดจองรวมถึง 10,000 คัน แถมยังทยอยส่งมอบล๊อตแรกกันไปแล้ว BYD ATTO3 น้องใหม่แบรนด์จีนรุ่นนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะ BYD มีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ในยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนานและสร้างชื่อด้วยเทคโนโลยี Blade Battery ที่ให้ประสิทธิภาพด้านพลังงาน อายุการใช้งานและการระบายความร้อนได้ดีกว่า ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในตลาดตอนนี้

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 150 กิโลวัตต์ แรงบิด 310 นิวตันเมตร ความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งได้ไกล 417 กิโลเมตร มีการออกแบบภายในที่หวือหวาโดดเด่น เต็มไปด้วยดีไซน์ที่แปลก แตกต่างไปจากรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ใครที่ชอบรถที่เต็มไปด้วยสไตล์การออกแบบที่มีลูกเล่นไปทั้งคันต้องถูกใจแน่นอน

Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย ในราคา 5.39-6.89 แสนบาท มีทางเลือก 4 รุ่นย่อย พร้อมชุดแต่งที่บ่งบอกสไตล์ของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจน สร้างสถิติความแรงด้านยอดขายด้วยตัวเลขการจอง 5,500 คัน ใน 1 สัปดาห์ 10,000 คัน ใน 14 วัน และตอนนี้ยอดจองทะลุ 20,000 คัน ไปแล้ว รวมทั้งรถรุ่นนี้ยังคว้ารางวัล Thailand Car of The Year 2022 จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ไปครองได้อีก ถือว่าเป็นรถที่ครองใจผู้ใช้รถแบบปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

แม้ว่าจะยังใช้ขุมพลัง 1.2 ลิตร เช่นเดิม แต่ด้วยการพลิกโฉมการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน นั่นทำให้ Toyota Yaris ATIV มีความโดดเด่นมากขึ้น ขนาดตัวถังที่ใหญ่เกือบเท่า C-Segment ความหรูหราที่เทียบเคียงรุ่นพี่อย่าง Altis และ Camry รวมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบที่สุดในคลาส นั่นทำให้ Toyota Yaris ATIV เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฮไลท์ของปีนี้

Nissan Kicks e-Power

เปิดตัวสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของการใช้พลังงานลูกผสมที่แรกๆ อาจจะทำให้หลายคนสับสน แต่สุดท้ายตัวของ Kicks e-Power สามารถทำให้เกิดความเข้าใจในการใช้งานที่ถูกต้อง ส่งผลให้เกิดยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งการเติบโตนี้มาจากการพูดปากต่อปากของผู้ใช้งานจริง โดยในรุ่นแรกยอดขายอาจจะไม่ค่อยเดินเร็วเท่าไหร่ แต่พอมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 กลับได้รับการตอบรับที่ดีกว่าเดิมค่อนข้างมาก มีตัวเลือก 4 รุ่นย่อย พร้อมตัวแต่ง AUTECH มีราคาอยู่ระหว่าง 759,000 – 949,000 บาท ถือว่าถ้าใครอยากลองประสบการณ์การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ ยังคงเติมน้ำมันได้ตามปกติ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานมากๆ

โดยระบบ e-Power เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้รวมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าไว้เป็นยูนิตเดียวกัน ทำให้ส่วนของ Inverter มีขนาดเล็กลง 40% น้ำหนักลดลง 30% และเพิ่มความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมากขึ้นเป็น 2.06 kWh มี 4 โมดูล 96 เซล ช่วยให้เครื่องยนต์มีการทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าน้อยครั้งลง ลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากการสตาร์ทของเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมันมีอัตราอยู่ที่ 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร ในขณะที่อัตราประหยัดน้ำมันสำหรับการขับขี่ในเมืองอยู่ 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ขับสนุก อัตราเร่งดี เฟี้ยวฟ้าวได้ใจ

MG4 Electric

เอ็มจี ค่ายรถเชื้อชาติอังกฤษ ถือสัญชาติจีน ที่บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อนใคร มาถึงวันนี้ถือว่าสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ลุยตลาดพลังงานทางเลือกตั้งแต่ MG ZS EV, MG HS PHEV และล่าสุดกับ MG4 Electric รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว สุดล้ำ กับราคาที่น่าเป็นเจ้าของรุ่น D ราคา 869,000 บาท และ รุ่น X ราคา 969,000 บาท เปิดรับจองในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา

MG4 Electric พัฒนาขึ้นมาบน Nebula Pure Electric Platform ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลัง 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 51 kWh ขับได้ไกล 425 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมระบบ KERS ปรับได้ 4 ระดับ และแบบแปรผันตามการขับขี่ได้อีกด้วย

Next Gen Ford Everest

รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ปรับลุคให้ดูทันสมัย ดุดัน ไม่เกรงใจใคร พร้อมลุยในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยีความสะดวกและความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกและเป็นรถที่พร้อมท้าทายในทุกอุปสรรค รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัสที่กลางคอนโซลขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้ว ตามแต่ละรุ่นย่อย เบาะนั่งปรับพับได้ราบเรียบ มีโหมดการขับขี่ติดตั้งมาให้เลือกใช้ได้ครบตามสภาพเส้นทาง

ขุมพลังดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีตัวเลือก 4 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 1,334,000 – 1,854,000 บาท มีตัวเลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ กลายเป็นรถที่สายแคมป์ชื่นชอบ เพราะเอาไปติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย ใครที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต้องลอง Next Gen Ford Everest

Honda HR-V e:HEV

สำหรับฮอนด้าในยุคใหม่ หันไปให้ความสนใจกับเทคโนโลยีขุมพลัง Full Hybrid มากขึ้น เห็นได้จากรถโมเดลใหม่หลายรุ่นใช้ชื่อลงท้ายว่า e:HEV กันหมด เพราะด้วยสมรรถนะและความประหยัดที่ตอบโจทย์การใช้งาน ล่าสุดกับการปรับลุคใหม่ของ HR-V e:HEV ที่โดนใจกล่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิม เป็นรถเอสยูวีขนาดกลางที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและเดินทางท่องเที่ยวทางไกล มีการออกแบบรูปลักษณ์ให้มีความทันสมัย ภายในห้องโดยสารเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย มาพร้อมกับ Honda Connect และ Honda Sensing

ขุมพลังเบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร เสริมพละกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว รวมแรงม้าสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันมากถึง 25.6 ก.ม./ลิตร มีโหมดการขับ 3 โหมด คือ EV Drive, Hybrid Drive และ Engine Drive ให้เลือกใช้งานได้ตามสถานการณ์ ค่าตัวเริ่มต้น 979,000 – 1,179,000 บาท

จะเห็นได้ว่ารถเด่นปี 2022 ที่นำมาเขียนถึงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นขุมพลัง Hybrid และ EV ซึ่งไม่แปลก เพราะเทรนด์ความสนใจรถยนต์ปีนี้ยาวไปถึงปีหน้ายังคงเป็นรถในกลุ่มนี้ รวมทั้งต้องติดตามดูว่ารถในกลุ่ม EV จะสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทยได้มากขนาดไหน ที่แน่ๆ ปีหน้ารถยนต์ไฟฟ้าเตรียมเปิดตัวอีกหลายรุ่นแน่นอน

เรื่อง: พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th