Orlando เอสยูวีใหม่จากเชฟโรเลต เตรียมเปิดตัวในเมืองไทย?
ใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ไซส์เล็ก อดใจรออีกนิด หลังจากมีกระแสข่าววงในว่า Chevrolet แบรนด์รถสัญชาติอเมริกัน เตรียมจะเปิดเอสยูวีรุ่นใหม่ในประเทศไทย ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น Orlando เอสยูวีขนาด 7 ที่นั่ง ที่ประเดิมขายในแดนมังกร เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ตามข้อมูลที่ทีมงาน Grand Prix Online สืบทราบมาในเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคมนี้ เชฟโรเลต ประเทศไทย มีแผนจะเปิดโมเดลใหม่แทน Captiva ซึ่งไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลในช่วงหลังนับตั้งแต่ที่ General Motors บริษัทแม่ของพวกเขาประกาศจะมุ่งมั่นกับการขายรถกระบะ และเอสยูวีขนาดกลางเท่านั้นสำหรับประเทศไทย
Chevrolet Orlando เอสยูวี 7 ที่นั่ง เปิดตัวขายในประเทศจีน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
รายละเอียดเท่าที่หลุดออกมาคอมแพ็กต์ครอสส์โอเวอร์ใหม่ของ Chevrolet จะไม่ใช่รุ่น Blazer อย่างแน่นอน และโอกาสที่จะเป็น Equinox คอมแพ็กต์ครอสส์โอเวอร์ที่เพิ่งเข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 3 คงจะเป็นไปได้ยาก หลังจากยอดขายที่ออสเตรเลีย (ภายใต้แบรนด์ Holden) เลวร้ายอย่างหนักขายได้ 3,621 คันใน 9 เดือนแรกของปี 2018 ทำให้พวกเขาสั่งยุติการขายเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับนำ Acadia เอสยูวีขนาดกลางของ GMC แบรนด์ในเครือเข้ามาทำตลาดแทน
ในขณะที่กระแสข่าวลือแถบอาเซียนโฟกัสไปที่ Baojun 530 รถอเนกประสงค์จากเป็นแบรนด์ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง General Motors กับ SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน หลังจากมีการนำไปแปะชื่อ New Chevrolet Captiva เปิดตัวขายในงานโบโกต้า มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศโคลอมเบีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แถมมีตัวเลือกทั้งเบนซิน และดีเซลเหมือนกับ Captiva ที่ขายในเมืองไทยอีกด้วย
New Chevrolet Captiva ที่ขายในแถบอเมริกาใต้
แต่จากข้อมูลที่ Grand Prix Online ได้มารถรุ่นนี้จะมีราคาแสนปลายๆ จนถึงล้านต้นๆ ทำให้หากจะนำชื่อ Captiva มาใช้เหมือนเดิม พร้อมใส่เครื่องระดับเบนซิน 1.8 ลิตรหรือดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร คงจะทำราคาอย่างที่พวกเขาต้องการไม่ได้ ทำให้ตัวเลือกอีกโมเดลอย่าง Chevrolet Orlando ที่เพิ่งขายในจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว โดดเด่นขึ้นมาทันที
ด้วยการที่เป็นรถขนาดซับคอมแพ็กต์ครอสส์โอเวอร์ที่รองรับผู้โดยสารได้แบบ 5+2 ที่นั่ง แถมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบใหม่ Ecotec Dual-jet 1.3L มีกำลังสูงถึง 160 แรงม้า และแรงบิด 230 นิวตันเมตร รวมทั้งติดตั้ง Start/Stop ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเป็นมาตรฐานจะทำให้มีอัตราประหยัดน้ำมัน 6.7 ลิตร/100 กม. หรือคิดแบบที่คนไทยคุ้นเคยก็จะอยู่ราว 15 กม./ลิตร
ที่สำคัญราคาของ Chevrolet Orlando ที่มีตัวเลือก 4 รุ่นย่อยในประเทศจีน เริ่มต้นที่ 119,900 หยวน (ราว 6 แสนบาท) และรุ่นท็อป 154,900 หยวน (ราว 7.7 แสนบาท) ทำให้ดูจะลงตัวกับข้อมูลที่เรามีอยู่ และอีกเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนมาจากการที่โมเดลนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรถต้นแบบ FNR-X ที่เผยโฉมเมื่อปี 2017 และเชฟโรเลต เคยส่งข่าวภาษาไทยมาให้สื่อมวลชน ทำให้หากไม่ใช่โมเดลที่พวกเขาจะนำมาขายคงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาแปลส่งมาอย่างแน่นอน
Chevrolet FNR-X คอนเซ็ปต์คาร์ที่เป็นต้นแบบของ Orlando
อย่างไรก็ตามตัวเลือกของ Chevrolet มีมากมายจนยากจะฟันธงลงไปว่าพวกเขาจะนำโมเดลใหม่รุ่นไหนเข้ามาขายในบ้านเรา คงต้องอดใจรออีกนิดเพราะกำหนดการเปิดตัวจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมีนาคม เพื่อหวังกอบโกยยอดขายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย. นี้
(คลิก) ชมภาพของ Chevrolet Orlando รุ่นพิเศษ Redline ที่ขายในประเทศจีน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: General Motors (ภาพ)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th