SUZUKI พร้อมเปิด XL7 ต้นเดือน ก.ค.นี้ !!
หลังจากรอคอยมานานแสนนานกับ Suzuki XL7 ล่าสุดได้ข่าวมาว่าทาง ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ Suzuki XL7 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยช่วงต้นเดือน กรกฎาคม นี้อย่างแน่นอน
ภายนอกของ All New Suzuki XL7 ยกชุดของ XL6 มาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าโครเมี่ยมแนวนอน พร้อมไฟหน้า LED และ ราวหลังคา เพิ่มภาพลักษณ์พร้อมลุยด้วยชายล่างตัวถังสีดำรอบคัน หลังคา และ กระจกมองข้างตกแต่งด้วยสีดำเช่นกัน ส่วนล้อเป็นลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว
มิติตัวถัง: ยาว x กว้าง x สูง : 4,450 x 1,775 x 1,710 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารมาในโทนสีดำเพื่อเน้นความสปอร์ต พร้อมตกแต่งแดชบอร์ดด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีทั้ง ที่วางแขนในเบาะแถวหน้าและเบาะแถวสอง, แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล, หน้าจอ MID, หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และ ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าเบาะแถวสาม
ขุมพลังของ Suzuki XL7 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K15B แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี. กำลังสูงสุด 104 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
ระบบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนหน้า เป็นแบบ McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam พร้อมคอยล์สปริง ระบบห้ามล้อหน้าเป็นแบบดิสก์เบรค ส่วนล้อหลังเป็นแบบดรัมเบรค
ในด้านระบบความปลอดภัย Suzuki XL7นอกจากจะใช้โครงสร้าง Heartect ที่มีความแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา ระบบความปลอดภัยต่างๆมาให้ด้วย อาทิ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบป้องกันล้อล็อค ABS เซนเซอร์หลังช่วยจอด ระบบ immobilizer & keyless entry alarm โดยใน 2 รุ่นบนคือ Beta และ Alpha จะมีระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวมาให้ด้วย โดยโครงสร้างตัวถัง ยังได้รับการบุ ด้วยวัสดุดูดซับเสียง เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก เข้าสู่ห้องโดยสารอุปกรณ์ความปลอดภัยใน Suzuki XL7มีระบบ smart e-mirror ซึ่งเป็นกระจกมองหลังที่สามารถบันทึกภาพระหว่างการขับขี่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนั้น ยังมี ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบป้องกันรถไหลขณะจอดบนทางลาดชัน Hill Hold Control (HHC), ระบบควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Program (ESP) และ กล้องมองภาพด้านหลัง
คาดว่าในประเทศไทยจะเข้ามาทำตลาด 3 รุ่นย่อย ส่วนราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นเราต้องมารอลุ้นไปพร้อมๆกันต้นเดือนหน้านะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th