ถ้าเราจะพูดถึงเทรนด์การเลือกซื้อรถยนต์ของคนไทยในปัจจุบันมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากที่เคยจากที่นิยมเลือกซื้อรถยนต์ซีดาน กับกลายมานิยมรถอเนกประสงค์กันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นรถ SUV PPV หรือ MPV ทำให้ค่ายรถยนต์หลายค่ายสนใจที่จะกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดรถยนต์ประเภทนี้อยู่หลายราย และผมเชื่อว่ารถยนต์ที่กำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งน่าจะหนีไม่พ้นเจ้ารถยนต์ประเภท MPV นี่ละครับเพราะด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ง่าย รูปร่างหน้าตาดูดี ภายในกว้างขวางมีถึง 7 ที่นั่ง สมรรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่างก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เพียงพอต่อการใช้งานและตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่อย่างแท้จริง

ซึ่งในตลาด MPV นี้ก็มีผู้เล่นอยู่หลายค่ายไม่ว่าจะเป็น Toyota Sienta, Honda Mobilio , Mitsubishi Xpander เป็นต้น ซี่งจากที่มองคู่แข่งตัวคำคัญคงจะหนีไม่พ้น Mitsubishi Xpander ที่เปิดตัวมาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ดูดุดัน แปลกตา และได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุดทาง ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ MPV 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายซูซูกิออกมาเขย่าตลาดไม่ยอมให้ค่ายอื่นกินมาร์เก็ตแชร์แบบชิลล์ ชิลล์ อีกต่อไปจากที่มีกำหนดการว่าจะเปิดตัวปีที่แล้วแต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเพราะที่ประเทศผู้ผลิตอย่างอินโดนีเซียขายดีจัดจนไม่สามารถให้โควต้าประเทศไทยได้ในปีที่แล้ว จนมาถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมาก็ได้ฤกษ์งามยามดี บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ทำการเปิดตัวรถยนต์ MPV รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง All New Suzuki Ertiga 2019 ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูผู้ใหญ่ขึ้น และหรูหรามากขึ้น และขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเดิม จะเห็นได้ว่าใหญ่ขึ้นในทุกมิติ แต่ความสูงใต้ท้องรถปรับต่ำลงเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น พร้อมลั่นท้ารบ ประกาศเป้าหมายไว้ชัดเจนว่าภายในปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย Suzuki All New Ertiga 2019 ไว้ที่ 2,390 คัน

หลังจากเปิดตัวได้ไม่นานวันนี้ผมได้มีโอกาสได้บินเหินฟ้าสู่จังหวัดเชียงรายเพื่อมาเข้าร่วมการทดลองขับเจ้า Suzuki All New Ertiga 2019 กันโดยจะใช้เส้นทางท่องเที่ยวที่มีทั้งวิ่งในเมืองนอกเมือง พร้อมทดลองพละกำลังในช่วงเส้นทางภูเขา แบบใช้งานจริงไม่มีอวยดีบอกดีไม่ดีก็บอกไม่ดีครับ เดี๋ยวรู้กัน !! เมื่อเราพร้อมแล้วก่อนออกเดินทางเรามาดูข้อมูลของเจ้า Suzuki All New Ertiga 2019 กันก่อนเลยดีกว่า

ดีไซน์ภายนอก

Suzuki All New Ertiga 2019 มีการอัพเกรดแปลงโฉมใหม่จากที่เคยดูวัยรุ่นดู สปอร์ต มาในโฉมนี้กลับดูหรูหรา ไฮโซมากขึ้น กระจังหน้าโครเมี่ยมเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้า All New Ertiga 2019 ดูหรูหราขึ้นกว่าเดิมรับกับกันชนหน้าได้อย่างลงตัว  ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ดูดุดันเข้ากับเส้นสายการออกแบบด้านหน้าเสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม เส้นสายโฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถให้ความรู้สึกหรูหรา ทันสมัย สะกดสายตา สะดุดตาด้วยไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว (แหมม ! ผมว่ามันเล็กไปนี่ถ้าให้ล้อแม็ก 16 หรือ 17 นิ้ว มาเลยจะสวยงามลงตัวกว่านี้ ) อย่างว่าครับเค้าเน้นไปที่ความนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน

ดีไซน์ภายใน

ภายในของ Suzuki All New Ertiga 2019  ออกแบบให้ดูเรียบหรูใช้วัสดุคุณภาพดี และเส้นสายการออกแบบให้ความรู้สึกหรูหราแต่ที่ผมไม่ค่อยโดนใจเท่าไหรนักก็ตรงปุ่มควบคุมแอร์นี่ละมีเชยเหลือเกินถ้าปรับเปลี่ยนดีไซน์ซะหน่อยนะมันจะดูหรูหรากว่านี้ พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวาง โปร่งสบาย สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ ประตูหลังกว้างขวางขึ้นลงสะดวกสบาย

พวงมาลัย D-shape เพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้นพร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ คอนโซลลายไม้ อืมมมม ไม่โดนใจอย่างแรงมันทำให้ดูเชยครับผมว่านะ ถ้าเปลี่ยนไปเป็นสีดำเงา(เปียโนแบล๊ค)ผมว่ามันจะน่ามองกว่านี้ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start เย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่มที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น

เอาละเรามาเริ่มทดสอบเจ้า All New Suzuki ERTIGA 2019 กันเลยราเริ่มจากตัวโรงแรมที่เราพักวิ่งผ่านตัวเมืองเชียงรายการวิ่งในตัวเมืองถือว่ามีความคล่องตัวสูงมากทีเดียวครับขับง่ายดีลัดเลาะไปตามช่องว่างในขณะที่การจราจรหนาแน่นได้อย่างคล่องตัว การออกตัวจากหยุดนิ่งทำได้ดีครับไม่อืดไม่อั้น หลุดออกมาจากตัวเมืองเชียงรายมุ่งหน้าสู่สามเหลี่ยมทองคำช่วงนี้รถไม่ค่อยเยอมากเรามาลองอัตราเร่งกันหน่อยดีกว่า กดคันเร่งลงไปความเร็วขึ้นมาแบบต่อเนื่องไม่ถึงกับจื๊ดจ๊าดแต่ก็ไม่ได้อืดจนเกินไป อัตราเร่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าเจ้า All New Suzuki ERTIGA 2019 คันนี้ทำได้ดีกว่าเยอะเพราะด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 50 กิโลกรัม แถมด้วยเครื่องยนต์ใหม่ รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1,462 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุดถึง 105/6,000 (แรงม้า/รอบต่อนาที) แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ทำหน้าที่ได้อย่างหน้าพอใจเป็นรถ MPV ที่ขับสนุกทีเดียวครับ การเร่งแซงก็ไม่ต้องกังวลเพราะทำได้ดีไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยบางจังหวะอาจจะต้องคลิกดาวน์ช่วยซะหน่อย แต่เวลากดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเราจะได้ยินเสียงเครื่องดังเข้ามาในห้องโดยสารเยอะพอสมควร แต่เสียงลมไม่มีเข้ามาในห้องโดยสารนะครับเก็บเสียงภายนอกได้ดีเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเจ้า All New Suzuki ERTIGA 2019 คันนี้ขับสนุกกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะ เผลอๆผมว่ามันขับสนุกกว่าเจ้าสวิฟท์อีกนะถ้าไม่เชื่อผมต้องไปลองเองแล้วคุณจะรู้พูดเลย

ทานข้าวกลางวันเสร็จเรียบร้อยเรามุ่งหน้าสู่ไร่ชาฉุยฟงเส้นทางนี้มีภูเขาทางชันให้เราได้ลอง จะได้ตอบคำถามยอดฮิตว่ามันจะขึ้นเขาไหวหรือเปล่า ตอบเลยว่าสบาย สบาย ครับทางไม่มีปัญหาไม่ต้องกังวลขึ้นได้ไปถึงแน่นอน ถ้าชันมากๆอาจจะต้องค่อยไปหน่อยแต่ขึ้นได้แน่นอน

เจ้า All New Suzuki ERTIGA 2019  มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อความแข็งแกร่งและปลอดภัย ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง การเค้าโค้งสลับซ้าย-ขวา ต้องบอกว่าทำได้ดีเกินคาดครับ เพราะจากครั้งแรกก่อนขับผมเผื่อใจไว้ว่ามันต้องโคลงแน่นอนเพราะทรงของตัวรถ ปรากฏว่าไม่โคลงอย่างที่คิดลองเข้าโค้งด้วยความเร็วยังคงให้ความแน่น หนึบ และนุ่มนวล ผมคิดว่านะเค้าเซ็ทช่วงล่างมาให้แข็งนิดนึงจึงทำให้การเค้าโค้งได้ดีไม่มีอาการโคลงแต่ที่ยังให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลด้วยนั้นน่าจะเกิดการตัวเบาะที่หนานุ่มช่วยดูดซับแรงอีกที เบาะนั่งสบายครับคอนเฟิร์ม พวงมาลัยบอกเลยว่าน้ำหนักดี เฉียบคม คุมง่าย อันนี้ผมว่าดีกว่าคู่แข่งอย่าง Xpander  นะครับ

ปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า  ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ  รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันอันนี้ดีมากเลยครับหมดปัญหารถไหลเวลาเราจอดบนทางชันแล้วไหลลง มีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วยนะ

สรุป เจ้า All New Suzuki ERTIGA 2019  คันนี้เครื่องยนต์ที่ปรับไปเป็น 1500 ซีซี ให้สมรรถนะการขับที่ดี ขับสนุก แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ช่วงล่างนุ่มนวล แน่น หนึบ ไม่ต้องกังวลเรื่องแข็งกระด้าง และอาการโคลง อุปกรณ์ที่ให้มาเรียกได้ว่าครบครัน กับราคาค่าตัวช่วงเปิดตัว 655,000 และ 695,000 บาท ราคานี่เร้าใจมากครับท่านไหนกำลังมองหารถยนต์ MPV ไปลองขับผมบอกเลยว่าคุ้มค่าเงินแน่นอน

ราคาจำหน่ายเทียบกับคู่แข่ง 

เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th