Suzuki Ciaz ปรับตรงไหน เปลี่ยนอย่างไร
จริงๆ แล้วข่าวนี้เกิดขึ้นในประเทศอินเดียที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่แห่งหนึ่งของ Suzuki ซึ่งที่นั่นมีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ Suzuki Ciaz ออกสู่ตลาด ซึ่งความสดใหม่ไม่ได้มีแค่หน้าตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องยนต์อีกด้วย คราวนี้เราก็เลยจับมาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างกัน ส่วนบ้านเราจะมาในแบบหน้าตาอย่างนี้เลยหรือไม่ ต้องมารอดูกันต่อไป
ภายนอก : สำหรับรูปลักษณ์ด้านหน้ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนด้วยไฟหน้าแบบ LED Projector และ Daytime Running Light ส่วนกระจังหน้าและกันชนหน้าได้รับการออกแบบใหม่หมด ขณะที่ด้านท้ายปรับแค่ในส่วนของรายละเอียดภายในโคมไฟด้วยการหันมาใช้หลอดแบบ LED และมีการติดตั้งไฟตัดหมอกด้านท้ายบนกันชนส่วนล้อแม็กมาตรฐานเป็นไซส์ 15 นิ้ว แต่มีล้อ 16 นิ้วเป็นอุปกรณ์เสริม โดยขนาดตัวถังไม่เปลี่ยนแปลงมากับความยาว 4,490 มิลลิเมตร กว้าง 1,730 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 510 ลิตร
ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าหลังยังเหมือนเดิม คือ ด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท และทอร์ชันบีมที่ด้านหลัง
เครื่องยนต์ : อันนี้คงเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะว่า Ciaz ในบ้านเราถูกจัดวางให้อยู่ในพิกัดของกลุ่ม Eco Car ซึ่งมีข้อกำหนดในการกำหนดของเครื่องยนต์ ค่าความประหยัดน้ำมัน และระดับการคายมลพิษในไอเสีย ดังนั้นบ้านเรามีขายเพียงรุ่นเดียวคือ เบนซิน 1,200 ซีซีในรหัส K12B 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 12.1 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติ CVT ส่วนในสเป็กอินเดียนั้น Ciaz ถูกวางให้เป็นรถยนต์ที่มีระดับตลาดสูงขึ้น เครื่องยนต์จึงแตกต่างกัน แต่ในรุ่นปรับโฉมที่อินเดีย ก็มีความเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ด้วย
ในรุ่นใหม่นี้เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซิน K15 ที่ได้รับการติดตั้งระบบ Smart Hybrid ผลิตกำลังออกมาได้ 103 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.06 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 13 และ 6% ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบแรงม้าและแรงบิดจากเครื่องยนต์ 1,400 ซีซีบล็อกเดิม พร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนมาด้วย โดยระบบจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนิ่งอยู่กับที่ และเปลี่ยนพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเบรกหรือการถอนคันเร่งให้เป็นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ซึ่งจะทำงานร่วมกันระหว่างแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนกับแบตเตอรี่ติดอยู่ในรถยนต์ ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซล 1,300 ซีซีก็มีระบบนี้ด้วยเช่นกัน มีกำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 27.8 กก.-ม. ที่ 1,750 รอบ/นาที สามารถเลือกส่งกำลังได้ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ
ภายใน : ในแง่ของรายละเอียดหลัก คือ แผงหน้าปัดนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนแต่อย่างใด ดังนั้นความสดใหม่ที่ผู้ขับขี่จะได้รับจึงไปตกอยู่กับเรื่องของการตกแต่งด้วยวัสดุใหม่ๆ ทั้งบนหน้าปัดและแผงด้านข้างประตู ขณะที่มาตรวัดมีการขยายขนาดของช่องหน้าจอดิจิตอลตรงกลางให้ใหญ่ขึ้น พวงมาลัยแม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบและรูปทรง แต่ก็มีการเพิ่มปุ่มสำหรับควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถเอาไว้บนก้านทั้งฝั่งซ้ายและขวา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th