สำรวจ สเปค New Suzuki Ertiga Hybrid รถอนเกประสงค์สไตล์ครอบครัวยอดนิยม ก่อนเปิดตัวในประเทศไทย ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ย้อนกลับไปดูการทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย Suzuki ERTIGA เจนเนอร์เรชั่นแรกที่ได้เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 จากนั้นผ่านไปอีก 7 ปี Suzuki ERTIGA เจนเนอเรชั่นที่ 2 ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับ ERTIGA ให้ก้าวล้ำไปกว่าเดิม ใน พ.ศ. 2562 ชูความเป็นรถยนต์ MPV  7 ที่นั่งในราคาคุ้มค่าเริ่มต้น 655,000-695,000 บาท  

ตั้งเป้าขายกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวและในขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับกลุ่มเพื่อน มีการคาดการณ์กันว่าภายในงาน Motor Expo 2022 รอบสื่อมวลชน ที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ซูซูกิมีแผนจะเปิดตัวรถยต์รุ่นใหม่อย่าง Suzuki Ertiga Hybrid ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 

“ในช่วงสัปดาห์นี้ซูซูกิเตรียมตัวส่งเทียบเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมทดสอบรถรุ่นนี้ในไทยก่อนเปิดตัวช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน”

ก่อนหน้านี้ Suzuki เปิดตัว New Ertiga รุ่นปรับโฉมที่อินเดีย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะมีการปรับรูปลักษณ์ไม่มากนัก แต่สิ่งสำคัญในการปรับโฉมครั้งนี้คือการที่รถเอ็มพีวีรุ่นนี้มีหัวใจใหม่เป็นเทคโนโลยีไฮบริด และตอนนี้ดูเหมือนว่าทาง Suzuki กำลังนำรถเอ็มพีวีรุ่นนี้พร้อมหัวใจใหม่ลุยตลาดอาเซียนโดยเริ่มที่อินโดนีเซียก่อน

แม้จะมีคำว่าไฮบริดต่อท้ายชื่อรุ่น แต่ Suzuki Ertiga Hybrid ซึ่งเปิดตัวที่อินโดนีเซียก็ไม่ต่างจาก Ertiga ที่เปิดตัวมาก่อนหน้าที่อินเดีย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไมลด์ไฮบริดที่เรียกว่า Smart Hybrid Technology ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใหม่ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator และแบตเตอรีลิเธียมไอออน ซึ่งทำให้รถเอ็มพีวีหัวใจไฮบริดมีกำลังขับเคลื่อน 104.7 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบ/นาที

นอกจากนี้ Ertiga Hybrid ที่เพิ่งเปิดตัวในอินโดนีเซียยังมาพร้อมกับการทำงานต่างๆ อย่างระบบ Automatic Start/Stop ระบบนำพลังงานจากการเบรกมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรีลิเธียมไอออน รวมทั้งมีระบบ Torque-Assist ที่ช่วยเพิ่มกำลังในการเร่งแซง

อย่างไรก็ตาม Ertiga ที่ขายในอินโดนีเซียไม่ได้มีทางเลือกในการส่งกำลังสู่ล้อด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่แบบที่อินเดีย แต่ยังคงมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเหมือนที่มีอยู่ในรุ่นก่อนหน้า รวมทั้งมีเกียร์แมนนวล 5 สปีดเป็นทางเลือก

ด้านดีไซน์ภายนอกของ Ertiga Hybrid ได้รับการอัพเดตเหมือนกับที่อินเดียอย่างกระจังหน้าใหม่ มีคิ้วแต่งที่ฝาท้าย รวมทั้งมีล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ แต่ Ertiga Hybrid ในอินโดนีเซียมีเกรดสปอร์ตให้เลือกซึ่งมาพร้อมกับกระจังหน้าและช่องดักอากาศที่กันชนหน้าสีดำ ไฟ Daytime Running Light ที่รอบไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยดูอัลโทน ติดสเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง รวมทั้งมีสปอยเลอร์ปลายหลังคา นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์อัตโนมัติ กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยวพับอัตโนมัติ

ส่วนในห้องโดยสารของ Ertiga Hybrid ในอินโดนีเซีย เน้นการแต่งด้วยสีดำพร้อมกับมีเรือนไมล์ใหม่ มีการแสดงข้อมูล Multi-info ที่ได้รับการอัพเดตใหม่ ส่วนเกรดสปอร์ตมีการแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เดินด้ายสีแดงที่เบาะ หุ้มหนังที่พวงมาลัย และมีสมาร์ทคีย์ ขณะที่ทุกเกรดของรถมีกล้องมองภาพด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Suzuki Brezza รถเอสยูวีรุ่นใหม่ตัดชื่อ Vitara ออกลุยแดนโรตี

ทาง Suzuki ขาย Ertiga Hybrid ในอินโดนีเซียในราคาเริ่มต้น 270,300,000 ไปจนถึง 292,300,000 รูเปียห์หรือประมาณ 640,000-692,000 บาท ส่วนอีกประเทศในอาเซียนนอกจากอินโดนีเซียที่จะมี Ertiga Hybrid ไปขายอย่างแน่นอนคือฟิลิปปินส์ซึ่งจะมีการเปิดตัวออกมาในอนาคต และคาดว่าจะมีกำหนดเปิดตัวในประเทศไทย ในช่วงปลายปีนี้ New Suzuki Ertiga Hybrid ใหม่นี้จะราคาเท่าไหร่ 30 พฤศจิกายน 2565 มาลุ้นกัน

สเปค New Suzuki Ertiga Hybrid

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

ซูซูกิ อินเดีย จัดการแปลงโฉม Suzuki Ertiga รถครอบครัวยอดนิยมให้มีความหรูหรากลายเป็นพรีเมียมครอสส์โอเวอร์เพื่อออกขายภายใต้ชื่อ All New XL6 ในแดนโรตี

จัดพื้นที่ภายในห้องโดยสารใหม่เป็นแบบ 2+2+2 อัพเกรดขุมกำลังเบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบไฮบริด SHVS ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า โดยต้องตามลุ้นว่าจะมีโอกาสเข้ามาขายเมืองไทยในช่วงปรับโฉมย่อยต้นปีหน้าหรือไม่

All New XL6 อาศัยพื้นฐานของ Suzuki Ertiga ด้วยการใช้โครงสร้างตัวถัง Heartect เพิ่มความพรีเมียมด้วยการใช้ภาษาการออกแบบสไตล์ยุโรปตั้งแต่กระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยมรองรับชุดไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวพร้อมไฟแอลอีดีเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ มีการขยายขนาดกันชนหน้าให้กว้างขึ้น และใส่เส้นสายเพิ่มความดุดัน รวมทั้งติดตั้งแผ่นรองกันกระแทกสีเงิน

แต่หลายคนอาจจะผิดหวังที่ไฟท้ายเหมือนยกดีไซน์จาก Ertiga ที่ขายอยู่มาแบบไม่คิดจะดัดแปลงอะไรเลย เพียงแค่เพิ่มเส้นสายบริเวณประตูท้ายที่เพิ่มลูกเล่นมีวัสดุสีดำตรงกลางให้อารมณ์สปอร์ต และมีการติดตั้งแผ่นรองกันกระแทกมาให้เช่นกัน

ไฮไลต์สำคัญของ Maruti Suzuki XL6 คือการออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีความพรีเมียมกว่า Ertiga ด้วยการเลือกใช้โทนสีดำ และวัสดุสีเงินเพื่อให้ความหรูหรา จัดที่นั่งแบบ 3 แถวที่ถูกปรับเป็นแบบ 2+2+2 โดยเบาะนั่งแถวที่ 2