นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ที่ผ่านมา จำนวนการเข้าชมงานของผู้บริโภคสุดคึกคัก สร้างบรรยากาศของการซื้อ-ขายระหว่างผู้บริโภคและผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ซูซูกิภายในงานครั้งนี้พุ่งสูงทะลุเป้า โดยมียอดจองรวมอยู่ที่ 2,652 คัน  ซึ่ง SUZUKI SWIFT แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ ยังคงได้รับกระแสความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเป็นรุ่นที่มียอดจองสูงที่สุด

ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่อแบรนด์รถยนต์ซูซูกิ ด้วยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี การออกแบบรูปลักษณ์ทั้งภายนอกภายในที่โดนใจคนไทย และมีเทคโนโลยีอันสมัย ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มอบความไว้วางใจและเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งความเชื่อมั่นที่มีให้แก่เรานั้น เป็นแรงผลักดันให้การดำเนินธุรกิจเติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ในช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับในปีนี้บริษัท ได้นำรถยนต์ทุกรุ่นในเครือเข้าร่วมจัดแสดงในงานครั้งนี้ และด้วยกระแสตอบรับจากลูกค้าอันเกินคาดหมายทำให้ซูซูกิมียอดจองรถยนต์จำนวนทั้งสิ้น 2,652 คัน  เพิ่มสูงขึ้นกว่า 115% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

โดยยอดการจองในแต่ละรุ่นแบ่งเป็นดังนี้

• SUZUKI SWIFT แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ยอดนิยม จำนวน 1,136 คัน
• SUZUKI XL7 สปอร์ตครอสโอเวอร์ จำนวน 572 คัน
• SUZUKI ERTIGA รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง จำนวน 227 คัน
• SUZUKI CIAZ ซีดานอีโคคาร์ จำนวน 218 คัน
• SUZUKI CELERIO อีโคคาร์คุณภาพเกินตัว จำนวน 362 คัน
• SUZUKI CARRY กระบะบรรทุกอเนกประสงค์ จำนวน 137 คัน

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ทั่วโลกต่างเผชิญกับโรคโควิด-19 แต่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกลับมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมีการแข่งขันที่สูงมากในตลาดรถยนต์ช่วงท้ายปี แต่การมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ทั้งด้านดีไซน์ที่งดงาม สมรรถนะเป็นเลิศ ความประหยัด และความปลอดภัยสูงสุด ผนึกเข้ากับความเชื่อมั่นในงานบริการที่ซูซูกิมอบให้ทั้งก่อนและหลังการขาย  มีส่วนช่วยสร้างยอดจองได้เหนือความคาดหมายในครั้งนี้

ซูซูกิ คาดหวังว่ายอดขายในช่วงงานมหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ รวมถึงยอดขายจากทั่วประเทศจะทำให้ยอดขายรวมของรถยนต์ซูซูกิในปีนี้จะกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ซูซูกิได้เตรียมความพร้อมของโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน จำนวน 128 ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวของสมาชิกครอบครัวซูซูกิที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต  พร้อมยกระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้เพิ่มสูงขึ้นด้วย อะไหล่แท้ราคามาตรฐาน พร้อมด้วยบริการจากพนักงานและช่างผู้ชำนาญงานที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานของซูซูกิ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่เป็นสมาชิกในครอบครัวซูซูกิอยู่เสมอ

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th