BEST HATCHBACK UNDER 1,300 c.c.
SUZUKI SWIFT GLX-Navi CVT

หากย้อนมองกลับไปในยุคสมัยที่ Eco Car ก้าวสู่เมืองไทยเป็นครั้งแรก “ความกลัว” คือ สิ่งที่ถาโถมสู่จิตใจ
ผู้ใช้รถชาวไทย ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา…แต่ด้วยเป้าหมายที่กำหนดได้กลายเป็น “กรอบ” ที่บังคับให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ไปพร้อมๆ กับสร้างความ “เชื่อมั่น” ให้กับผู้บริโภคชาวไทย

และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ SUZUKI “ตีโจทย์” ครั้งใหม่ โดยนำร่องด้วย SUZUKI SWIFT ยนตรกรรมที่ “ครบครัน” ในการตอบโจทย์ทุกองค์ประกอบ ด้วยสไตล์ของยนตรกรรม Hatchback ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี นับตั้งแต่ย่างก้าวแรกในพิกัด 1.5 ลิตร สู่การ Downsizing เครื่องยนต์ภายใต้ “มาตรฐาน” แห่ง Eco Car ที่ต่อยอดจนกลายเป็นกระแส “Swifter” อันโด่งดัง นับแต่เจเนอเรชันแรก จนมาถึงปัจจุบัน กับ ALL NEW SUZUKI SWIFT เจเนอเรชันที่ 3 ด้วยการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Innovation Fun & Sporty” โดยนำเสนอตัวตนผ่านสโลแกน “We Standout … สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง” ที่มาพร้อมการยกระดับเต็มขั้น ตั้งแต่มิติตัวถังที่ปรับขนาดให้มีความใหญ่ขึ้น จากความยาว 3,840 มม. ความกว้าง 1,735 มม. ความสูง 1,495 มม.

ตามด้วยการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อยกระดับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศให้ก้าวไปอีกขั้น เช่นเดียวกับการเพิ่มอารมณ์ความสปอร์ต ด้วยรายเอียดต่างๆ เช่น กระจังหน้าสีดำดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง อันลงตัวกับชุดโคมไฟหน้าแบบ LED Projector ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light และไฟตัดหมอกคู่หน้า

รวมถึงความโดดเด่นที่เกิดขึ้นในมุมมองด้านข้าง ซึ่งประกอบด้วย ใช้เสา Pillar โทนสีดำ ซึ่งมีการออกแบบมือจับเปิดประตูคู่หลังอย่างแนบเนียนในบริเวณเสา C-Pillar ตามด้วยการใช้กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อม
ไฟเลี้ยวในตัว ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55R16 ตลอดจนความเฉียบคมของดีไซน์
ไฟท้าย LED รูปทรง C-Shape และไฟเบรกดวงที่ 3

ในขณะที่ภายในห้องโดยสารยังรักษามาตรฐานอารมณ์ความสปอร์ตด้วยโทนสีดำ รับกับงานออกแบบเบาะนั่ง และฐานเกียร์หุ้มหนัง พวงมาลัยสปอร์ตทรง D-Shape แบบ 3 ก้านหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชัน ไปจนถึงชุดมาตรวัดแบบสปอร์ตโทนสีแดง ที่มากับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอ LCD ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Keyless Push Start กุญแจรีโมท Keyless Entry พร้อมระบบนิรภัย Immobilizer และระบบเปิด-ปิด ประตูอัจฉริยะ

พร้อมด้วยการติดตั้งระบบความบันเทิง Suzuki Smart Connect ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบเครื่องเสียง MP3, WMA, SD Card, USB และ AUX และระบบนำทาง Navigator ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth พร้อม Apple CarPlay

การอัปเกรด ALL NEW SUZUKI SWIFT เจเนอเรชันที่ 3 ไม่ได้มีเพียงแค่ดีไซน์ และออปชันอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการยกระดับ “สมรรถนะ” เต็มพิกัด ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด คือ แพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า “HEARTEC” ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น แต่กลับมีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเจเนอเรชันที่แล้วถึง 30 กก. ที่มาพร้อมโครงสร้างมิติตัวถังใหม่ที่ชื่อ “TECT” พัฒนาควบคู่ไปกับเรื่องของระบบ NVH ในการสร้างความนุ่มนวล ลดแรงเสียดทาน ไปจนถึงเสียงรบกวนจากภายนอกให้ดีขึ้น

โดยยังรวมไปถึงเรื่องของระบบช่วงล่างที่มีการปรับปรุงขึ้นใหม่ จากพื้นฐานแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริงในด้านหน้า และแบบทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริงในด้านหลัง เพื่อสร้างอรรถรสการขับขี่ที่ “เหนือชั้น” ไปอีกขั้น ด้วยการประสานงานอันยอดเยี่ยมจากระบบพวงมาลัยแบบ แร็ค แอนด์ พิเนียน ในการสื่อสารความสปอร์ตอันเฉียบคม และกระชับฉับไวในการบังคับควบคุม เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับขี่

ส่วนเทคโนโลยีสำคัญต่อมาที่ถูกติดตั้งลงในเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ล่าสุด รหัส K12M พิกัด 1.2 มีชื่อว่า “Dual Jet” หรือ “หัวฉีดแบบคู่” ที่สามารถฉีดจ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างละเอียด เพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่หมดจดสมบูรณ์แบบ ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่สามารถนำเอาไอเสียหมุนเวียนกลับมาเผาไหม้ใหม่ และการติดตั้ง Idling Stop มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และทั้งหมดเพื่อให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และการประหยัดน้ำมันสูงสุด พร้อมทั้งมอบ “สมรรถนะ” ที่น่าประทับใจ ในเรี่ยวแรงสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที โดยมีเกียร์อัตโนมัติ CVT ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อหน้า

และส่วนสุดท้ายที่ทำให้ SUZUKI SWIFT GLX-Navi CVT มัดใจคณะกรรมการได้อย่างอยู่หมัดก็คือ “ระบบความปลอดภัย” ที่ยกระดับมาตรฐาน Eco Car ไปอีกระดับ ตั้งแต่ โครงสร้างตัวถังนิรภัยอันแข็งแกร่ง ซึ่งมาพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง ตามด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย SRS 6 ตำแหน่ง ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับระดับสูง-ต่ำ แบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ โดยมีด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด

ในขณะที่การเสริมความมั่นใจในการขับขี่เป็นหน้าที่ของระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control

และจากรายละเอียดของ SUZUKI SWIFT GLX-Navi CVT ที่เต็มไปด้วย “ความเหนือชั้น” และ “ครบเครื่อง” ด้วยความสมบูรณ์แบบรอบด้านอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจ เมื่อคณะกรรมการมีมติตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า SUZUKI SWIFT GLX-Navi CVT คือยนตรกรรมที่ “เหมาะสม” ที่สุดกับรางวัล BEST HATCHBACK UNDER 1,300 c.c. จากงาน Thailand Car of The Year 2019 อย่างแน่นอนที่สุด

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th