ALL-NEW MG3 VS SUZUKI SWIFT หมัดเด็ดจากฝั่งอีโคคาร์ ปะทะน้องใหม่มาแรงของกลุ่มซิตี้คาร์
ยุคนี้นับเป็นยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นกว่าเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ รถยนต์ก็นับเป็นอีกหมวดหมู่หนึ่ง ปัจจุบันมีจำหน่ายให้เลือกใช้ได้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็นเซ็กเมนต์ต่างๆ มากมาย ตั้งแต่รถเล็กสุดอย่างอีโคคาร์ ไปจนถึงกลุ่มลักชัวรีคาร์ บางเซ็กเมนต์นั้นก็มีขนาดที่ใกล้เคียง หรือมีระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน จนผู้บริโภคมักเกิดความสับสนหรือลังเลในการเลือกหาเป็นพาหนะคู่ใจอยู่บ่อยครั้ง วันนี้เราจึงนำรถ 2 รุ่น จาก 2 เซ็กเมนต์ที่ใกล้เคียงกัน แถมยังเป็นรถ 2 รุ่นที่มีราคาจำหน่ายที่เท่ากันอีก มาลองทำการเปรียบเทียบให้ดูสิว่า ระหว่างหมัดเด็ดจากเซ็กเมนต์อีโคคาร์อย่าง ซูซูกิ สวิฟท์ท์ และน้องใหม่มาแรงในเซ็กเมนต์ซิตี้คาร์อย่าง เอ็มจี3
ก่อนอื่นลองมาทำความรู้จักกับ 2 เซ็กเมนต์นี้ก็สักหน่อย เริ่มต้นกันที่เซ็กเมนต์ซิตี้คาร์กันก่อน ซึ่งบ้านเรารู้จักเซ็กเมนต์นี้มากว่ายี่สิบปี ด้วยกลุ่มรถที่มีขนาดกำลังเหมาะ ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี ทั้งในเมืองไปจนถึงนอกเมือง มาพร้อมขุมพลังในกลุ่มประมาณ 1,500 ซี.ซี. นับเป็นเซ็กเมนต์รถที่ได้รับความนิยมมากตั้งแต่เปิดตัว จากขนาดตัวรถที่กำลังเหมาะ ไปจนถึงระดับราคาจำหน่ายที่มีให้เลือกตามออปชันตั้งแต่ 5 แสน ไปจนถึง 7 แสนกว่าบาท มีรถให้เลือกที่หลากหลายเกือบทุกค่ายอย่าง โตโยต้าวีออส, ฮอนด้าซิตี้, ฮอนด้า แจ๊ซ ส่วนอีกเซ็กเมนต์ที่เรากำลังจะกล่าวถึงกับรถในกลุ่มอีโคคาร์เซ็กเมนต์น้องใหม่ ที่ถือกำเนิดขึ้นตามการสนับสนุนของภาครัฐ ที่เล็งเห็นถึงรถในกลุ่มใหม่ที่มีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้น จากเครื่องยนต์ที่เล็กลงมาอยู่แถว 1,200 ซี.ซี. และออปชันเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด จนได้รับการดูแลด้านภาษีจนทำให้มีราคาจำหน่ายที่ถูกลง ส่วนใหญ่นั้นจะมีราคาที่อยู่แถวๆ 4 แสน ไปจนถึงประมาณ 6 แสนกว่าบาท ตามแต่จะเลือกออปชันที่ติดตัวมา
ซูซูกิ สวิฟท์ท์ ที่นำมาในครั้งนี้ นับเป็นสวิฟท์ท์รุ่นล่าสุด นับได้ว่าเป็นการพัฒนาขึ้นมาสู่เจเนอเรชันที่ 3 กันแล้ว ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไป ชื่อสวิฟท์ท์นี้ เป็นที่รู้จักกันในบ้านเรามาเป็นเวลามากกว่าสิบปี กับการเปิดตัวครั้งแรกของเจเนอเรชันที่ 1 ในรูปแบบของรถแบบห้าประตู ไซซ์น่ารัก เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ประกาศตัวในกลุ่มซิตี้คาร์ จนมาถึงเจเนอเรชันที่ 2 สวิฟท์ท์ ได้เปิดตัวอีกครั้งภายใต้ข้อกำหนดในเซ็กเมนต์อีโคคาร์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ 1.25 ลิตร และรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก จนสามารถโดนใจผู้บริโภคในบ้านเราเป็นอย่างมา ดังจะเห็นได้จากยอดจำหน่ายอย่างล้นหลามในช่วงที่เปิดตัวขณะนั้น และเมื่อกาลเวลาเดินทางมาถึงวงรอบที่ สวิฟท์ท์ โฉมใหม่ จะต้องได้รับการแนะนำ บ้านเราก็ได้ยลโฉม สวิฟท์ท์ ใหม่ เจเนอเรชันที่ 3 ตามหลังบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นมาติดๆ ด้วยหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวและทันสมัยขึ้น แต่ยังคงไว้ด้วยเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของสวิฟท์ท์อย่างครบถ้วน มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกใหม่ในแบบ 1.2 ลิตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยมีให้เลือกใช้งานกันถึง 4 รุ่น แต่ในรุ่นใหม่นี้ยังไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดาเปิดตัวออกมาในขณะนี้
เอ็มจี น้องใหม่มาแรง หลังจากที่ปล่อยเหล่าขุนพลของเอ็มจีออกสู่ตลาดเมืองไทยมากมายหลายรุ่นหลากเซ็กเมนต์ ตั้งแต่รถซิตี้คาร์ ไปจนถึงรถ SUV ล่าสุดก็เพิ่งปล่อย MG ZS ออกมาตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ไปอีกหนึ่งรุ่น แต่เป้าหมายที่เราจะมาโฟกัสกันในเล่มนี้ จะเป็นเจ้าเอ็มจี3 ซิตี้คาร์คันเด่นของค่าย ที่การมาครั้งนี้ มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวและความทันสมัย ทั้งหน้าตาภายนอกดีไซน์ใหม่ ไปจนถึงความฉับไว ปราดเปรียวของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่มาเพิ่มเติมความโดดเด่นด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดลูกใหม่ ที่เข้ามารับหน้าที่ในการส่งถ่ายกำลังแทนที่เกียร์อัตโนมัติลูกเดิม ที่หลายคนไม่ค่อยถูกใจกับฟีลลิ่งที่ไม่สมูทในการทำงานสักเท่าไหร่ และด้วยความเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการเติมแต่งเข้ามาในเอ็มจี 3 จึงนับได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เป็นการไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ให้กับเจ้าเอ็มจี3 ซิตี้คาร์ดาวเด่นของค่ายคันนี้
ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวไม่แพ้กัน
หลังจากเดินสำรวจดูความแตกต่างภายนอกระหว่างทั้งสวิฟท์ท์ และเอ็มจี3 นั้น ในเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ให้ติดตัวกันมา เริ่มแรกกันที่ด้านหน้า ไฟหน้าของทั้งสวิฟท์ท์และเอ็มจี3 นั้น ให้ไฟหน้าที่มีไฟเดย์ไลน์แบบ LED พร้อมสรรพด้วยกันทั้งสองคัน สร้างความโฉบเฉี่ยวได้ไม่แพ้กัน ส่วนในด้านข้าง ทั้งคู่นั้นให้กระจกมองข้างแบบมีไฟเลี้ยวในตัวมาครบ พร้อมกับล้อแม็กขอบ 16 โอบรัดด้วยยางไซซ์ 185/55R16 ในฝั่งของสวิฟท์ท์ แตกต่างกับเอ็มจี3 อยู่เล็กน้อย ตรงที่ให้ยางที่อ้วนกว่าในไซซ์ 195/55R16 ที่โอบรัดล้อแม็กขนาด 16 นิ้วเท่ากัน พอเดินมาถึงทางด้านหลัง งานนี้สวิฟท์ท์สามารถตีคืนเรียกคะแนนกลับมาได้ ตรงชุดไฟท้ายแบบ LED ที่ให้ครบกว่าของเอ็มจี3 ที่ยังใช้แบบหลอดธรรมดาอยู่
MG3 โดดเด่นด้วยออปชันที่มากกว่า
ภายในห้องโดยสาร ในเรื่องดีไซน์ขอข้ามกันไปก่อน เพราะเรื่องของความสวยงามนั้นเป็นสไตล์เฉพาะตัว ขอบอกเพียงแค่ว่า ทั้งคู่นั้นล้วนให้สีสันที่โฉบเฉี่ยวไม่แพ้กัน อีกทั้งในเรื่องของออปชัน งานนี้ก็เป็นเรื่องจัดเต็มกันจริงๆ เริ่มต้นมา เอ็มจีก็ขึ้นนำไปก่อน ด้วยความโก้หรูของหลังคาที่มีชุดมูนรูฟมาให้ เฉือนขาดสวิฟท์ท์ไปในเรื่องของความโปร่ง โล่งสบาย และความเท่ของมูนรูฟ ระบบเครื่องเสียงมาพร้อมจอแสดงผล มีมาให้ทั้งเอ็มจี3 และสวิฟท์ แต่เอ็มจี3 ยังทิ้งหมัดเด็ดเก็บคะแนนเหนือสวิฟท์ ไปด้วยขุดกล้องมองหลังในเวลาที่เข้าเกียร์ถอย ที่มีมาให้พร้อมเซ็นเซอร์ถอยหลังอีกด้วย มั่นใจได้ในความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เอ็มจี3 จัดเต็มมาให้ ในขณะที่สวิฟท์ พลาดท่า ไม่ได้เติมความสะดวกในหัวข้อนี้มาให้ ทั้งกล้อง ทั้งเซ็นเซอร์กะระยะในเวลาถอยหลัง แต่อย่างน้อยในระบบเครื่องเสียงที่มาพร้อมจอแบบ 7 นิ้วของสวิฟท์นั้น ก็ยังให้ระบบเนวี่นำทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเสริมความสบายในการค้นหาสถานที่ที่ต้องการ และยังมีระบบรองรับ Apple CarPlay สำหรับสาวก iOS และระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์ พร้อมสวิตช์ควบคุมการรับและวางสายที่พวงมาลัย เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานขณะขับขี่ กลับมาที่ฝั่งเอ็มจี3 กันอีกนิด ที่ระบบเครื่องเสียงเป็นจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วนั้น เอ็มจียังเสริมทัพด้วยลูกเล่นระบบ i-SMART ที่ใช้การเชื่อมต่อรถเข้ากับอินเทอร์เน็ตที่สามารถควบคุมการสั่งงานได้ด้วยภาษาไทย พร้อมส่งข้อมูลของตัวรถ อาทิ น้ำมันคงเหลือ สถานะของแบตเตอรี่ เข้าสู่โทรศัพท์สมาร์ตโฟนของเรา ให้สามารถทราบข้อมูลได้ตลอดเวลา
ภายใน ALL NEW MG3
ภายใน SUZUKI SWIFT
ดิสก์เบรกชุดหลัง หนึ่งเดียวในเซ็กเมนต์
หลังจากปล่อยให้เอ็มจี3 ไล่เก็บคะแนนไปในหลายหัวข้อ ก็มาถึงที่ของสวิฟท์กันบ้าง กับหัวข้อเรื่องสมรรถนะของระบบเบรก เพราะในสวิฟท์ ใหม่ นั้น ยังโชว์ความพิเศษเหนือคู่แข่งในเซ็กเมนต์ กับการให้มาด้วยชุดดิสก์เบรกหลัง ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นแล้ว ในเรื่องของมุมมองความสปอร์ต ที่เพิ่มมาของชุดดิสก์เบรกหลังชุดนี้ ก็นับเป็นอีกจุดที่ได้ใจวัยมันส์กันอยู่เด่นชัด ให้ความมั่นใจในการหยุดยั้งความเร็วได้ดี
อย่างที่เกริ่นนำกันไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า รถใน 2 เซ็กเมนต์นี้ อันที่จริงในหลายประเทศก็นับว่าเป็นรถในประเภทเดียวกัน จะแตกต่างที่ขนาดของเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งาน เลยทำให้พื้นฐานหลายๆ อย่างนั้นเหมือนหรือใกล้เคียงกัน อย่างระบบช่วงล่างที่ติดตัวมาของทั้งสวิฟท์และเอ็มจี3 นั้น ล้วนใช้ระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชันบีมเหมือนกัน จะแตกต่างที่การเซตอัพระยะของฐานล้อซะเป็นจุดใหญ่ ซึ่งถ้ามองลงไปในรายละเอียดนั้น จะเห็นได้ว่าสวิฟท์มีระยะฐานล้อจากซ้ายไปขวาของทั้งล้อหน้าและล้อหลังที่กว้างกว่าของเอ็มจี3 อยู่พอตัว ซึ่งก็น่าที่จะได้เปรียบในการโยนเข้าออกโค้งที่นิ่งแน่นกว่า ในขณะที่เอ็มจี3 นั้น กลับมาได้เปรียบสวิฟท์ในเรื่องของระยะความยาวของฐานล้อหน้าถึงหลัง ที่ยาวกว่าประมาณ 7 เซนติเมตร ช่วยเติมความนิ่งในเวลาที่ใช้ความเร็ว และยังแถมมาด้วยระยะของห้องโดยสารที่เพิ่มได้อีกนิดจากระยะที่เพิ่มมา
เครื่องใหม่มีดีที่ประหยัด
สวิฟท์ ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุด K12M ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DUALJET ใช้หัวฉีดคู่ในการจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ช่วยให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จนสามารถทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองได้มากกว่า 23 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคคาร์เฟส 2 ในการขับขี่ใช้งานนั้น สวิฟท์ยังมีโหมดช่วยดับเครื่องยนต์ในเวลารถติด IDLING STOP ที่จะเปิดทำงานในทันทีที่สตาร์ตเครื่องยนต์ สามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้ได้จากการกดปุ่มออฟที่คอนโซลหน้า แต่จะไม่สามารถปิดระบบเลยทีเดียว เพราะในทันทีที่เราดับเครื่องไปแล้วกลับมาสตาร์ตใหม่ ระบบก็จะกลับมาเริ่มต้นทำงานให้ใหม่ในทันที กำลังของเครื่องยนต์ทั้ง 83 แรงม้า ถูกส่งผ่านเข้าสู่ชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่มีดีในเรื่องของความนุ่มนวลและต่อเนื่อง อันเป็นผลที่ทำให้การใช้งานในเมืองของสวิฟท์นั้น สามารถให้ความประหยัดที่มากถึง 15.08 กม./ลิตร อีกทั้งในการเดินทางที่ความเร็วคงที่ 80 กม./ชม. จะเห็นได้ว่าเกียร์ CVT ลูกนี้จะใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียงแต่ 1,500 รอบ/นาที นับได้ว่าต่ำมากสำหรับการเดินทาง
เกียร์ใหม่ หัวใจสำคัญของความสนุก
อย่างที่นำเสนอกันไปตั้งแต่แรกแล้วว่า ในการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ของเอ็มจี3 ไฮไลต์อีกจุดนอกเหนือจากเรื่องของหน้าตานั้น ก็คือระบบส่งกำลังชุดใหม่ เพราะการรวมพลังกันระหว่างเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DVVT ที่สามารถสร้างแรงม้าให้ใช้งานได้มากถึง 112 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที นับได้ว่าทำงานเข้าขากันดีกับชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ที่เปลี่ยนเข้ามา สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับได้อย่างรวดเร็วทันใจ ให้ความสนุก ความมันส์ได้มากขึ้น นับเป็นสีสันที่แตกต่างกับชุดเกียร์ลูกเก่าอย่างเด่นชัด แต่ด้วยความสนุก การตอบสนองที่ทันอกทันใจที่เพิ่มมาของเอ็มจี3 ใหม่คันนี้ ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของการทดสอบการใช้งานในเมืองที่ตัวเลขนั้นออกมาที่ 10.87 กม./ลิตร ซึ่งก็มาจากเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่าสวิฟท์ถึง 300 ซี.ซี. ไปจนถึงการเซตอัปอัตราทดของเกียร์ ดังจะดูได้จากความเร็วเดินทางที่ 80 กม./ชม. รอบเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งมากกว่าที่สวิฟท์ใช้ถึง 500 รอบ เลยทีเดียว
ด้วยราคาจำหน่ายที่เท่ากัน (629,000 บาท) ทั้งซูซูกิ สวิฟท์ และเอ็มจี3 ทำให้คู่นี้โคจรมาพบกันได้ทั้งที่อยู่ในคนละเซ็กเมนต์ อย่างที่ได้กล่าวไปตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่าทั้งคู่ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อย่างในเรื่องของสมรรถนะ หากเน้นในเรื่องของพละกำลังและความสนุกกันแล้ว รถเครื่องยนต์ใหญ่กว่าอย่างเอ็มจี3 ย่อมได้เปรียบอย่างเด่นชัด แต่ถ้ามองหารถใช้งานที่เน้นความประหยัด งานนี้รถเครื่องเล็กอย่างสวิฟท์ ก็พลิกกลับมามีคะแนนที่เหนือกว่าอย่างโดดเด่น นี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ความแตกต่างของทั้งคู่ สุดท้ายนี้ การจะเลิกคบหาคันใดเป็นพาหนะคู่กายนั้น ก็ยังคงเป็นภาระหน้าที่การตัดสินใจของคุณอยู่ดี เพราะทั้งซูซูกิ สวิฟท์ และเอ็มจี3 นั้น ต่างมีความโดดเด่นในทางของตัวเอง
SUZUKI SWIFT
ความเร็วเดินทาง (กม./ชม.) | รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที) |
80 | 1,500 |
100 | 1,800 |
ALL NEW MG3
ความเร็วเดินทาง (กม./ชม.) | รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที) |
80 | 2,000 |
100 | 2,500 |
ข้อมูลทางเทคนิค
ยี่ห้อและรุ่นรถ SUZUKI SWIFT
ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี ประเทศไทย รุ่นปี 2018
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว
ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 1,197
กระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 73.0 x 71.5
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที) 83/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที) 11.0/4,400
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร) 37
ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัติ CVT
ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง แบบทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริง
ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก/ดิสก์เบรก
มิติ กว้าง x ยาว x สูง (มม.) 1,735 x 3,840 x 1,495
ฐานล้อยาว (มม.) 2,450
ความกว้างของล้อหน้า (มม.) 1,520
ความกว้างของล้อหลัง (มม.) 1,525
น้ำหนัก (กก.) 910
ล้อ อัลลอย ขนาด 16”
ยาง 185/55R16
อัตราความสิ้นเปลือง (กม./ลิตร)
ในเมือง 15.08
ราคาจำหน่าย (บาท) 629,000
ข้อมูลทางเทคนิค
ยี่ห้อและรุ่นรถ MG3
ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี ประเทศไทย รุ่นปี 2018
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH
ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 1,498
กระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 75.0 x 84.8
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที) 112/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที) 15.29/4,500
ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร) 45
ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมแมนวลโหมด
ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วย
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง แบบทอร์ชันบีม
ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก / ดรัมเบรก
มิติ กว้าง x ยาว x สูง (มม.) 1,729 x 4,055 x 1,516
ฐานล้อยาว (มม.) 2,520
ความกว้างของล้อหน้า (มม.) 1,496
ความกว้างของล้อหลัง (มม.) 1,483
น้ำหนักรถ (กก.) 1,190
ล้อ อัลลอย ขนาด 16”
ยาง 195/55R16
อัตราความสิ้นเปลือง (กม./ลิตร)
ในเมือง 10.87
ราคาจำหน่าย (บาท) 629,000
เรื่อง : กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์
ภาพ : พิศวัส พงศ์พุฒิโสภณ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th