ถึงงานไม่ได้จัดก็มีนาฬิกาที่ระลึกขาย TAG Heuer Monaco Grand Prix de Monaco Historique Limited Edition

เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเวลาของการแข่งขัน Monaco Grand Prix รายการแข่งขัน F1 ที่อยู่คู่กับปฏิทินของการแข่งขันมาช้านาน และถือเป็นสนามที่เป็น Iconic ของการแข่งขันมาโดยตลอด เพียงแต่สำหรับปีนี้ในเมื่อ F1 กำลังจะโดนยกเลิกการแข่งขันทั้งซีซั่นเพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ Monaco GP ปีนี้ต้องถูกยกเลิกตามไปแล้ว เช่นเดียวกับการจัดงานแข่งรถคลาสสิคหรือ Grand Prix de Monaco Historique ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8-10 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ถูกยกเลิกตาม

แต่สำหรับการผลิตนาฬิกาเพื่อฉลองงานนี้แล้วยังไงก็ไม่มีพลาด และทาง Tag Heuer ซึ่งมีคอลเล็กชั่นที่ตั้งชื่อตามสนามแข่งขันแล้ว ก็จัดการเปิดตัวรุ่นพิเศษออกมาในชื่อ Grand Prix de Monaco Historique Limited Edition ตามออกมาแม้ว่าในปีนี้จะไม่มีการจัดงาน

สำหรับ Grand Prix de Monaco Historique นั้นถือเป็นการแข่งขันรถแข่งโบราณที่จะแล่นไปตามสนาม Monte Carlo ที่เป็น Street Circuit ที่ใช้ถนนในเมืองในการแข่งขัน โดยทาง Tag Heuer เป็น Official Partner กับทาง Automobile Club de Monaco (ACM) ผู้จัดงานนี้ โดยในปีนี้ทางแบรนด์เปิดตัวผลผลิตต่อเนื่องจากการฉลองครบรอบ 50 ปีของคอลเล็กชั่น Monaco ที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดย Grand Prix de Monaco Historique Limited Edition จะมากับความสวยงามและความพิเศษที่ทาง Tag Heuer สร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น Monaco Chronograph

ตัวนาฬิกาทรงเหลี่ยมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร และผลิตจาก Stainless Steel ผ่านการขัดแต่งตัวเรือนอย่างสวยงาม โดยความพิเศษนอกจากการสลักสัญลักษณ์ของการแข่งขัน Grand Prix de Monaco Historique เอาไว้บนขอบฝาหลังที่เป็นแบบโปร่งใสมองเห็นกลไกแล้วก็ยังมีการแต่งหน้าปัดเป็นลวดลายในโทนสีแดง-เงินที่เป็นเอกลักษณ์ของการแข่งขัน และในตำแหน่งที่ 2 นาฬิกาก็มีรูปแข่งคลาสสิควางอยู่ด้วย

เช่นเดียวกับ Monaco Chronograph รุ่นปกติ นาฬิการุ่นนี้ใช้กลไกรหัส Caliber Heuer 02 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 Hz และสามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง โดยจะมีฟังก์ชั่นจับเวลาแบบ 2 วง และมีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร

สำหรับการผลิตจะมีเพียง 1,000 เรือน พร้อมกล่องสุดพิเศษที่ผลิตมาเพื่อคอลเล็กชั่นนี้โดยเฉพาะ ส่วนราคาอยู่ที่ 6,700 ฟรังก์สวิสส์ โดยจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคม 2020