การแต่งรถก็จะเริ่มกันจาก “เปลี่ยนล้อและยาง” เป็นเรื่องปฐมบทของทุกคน ถามว่าล้อและยางเดิมติดรถจากโรงงานไม่ดีหรืออย่างไร ??? ทำไมถึงต้องดิ้นรถเปลี่ยนกัน เราจะเห็นเป็นปกติ ที่รถใหม่ป้ายแดงออกจากโชว์รูมหมาดๆ พวกเลี้ยวเข้าร้านเปลี่ยนล้อซิ่งๆ กับยาง (แนว) สปอร์ต กันแล้ว เรียกว่าร้านยางตาเป็นมันเพราะยางติดรถยังใหม่ซิงๆ อยู่เลย (ได้ราคาแน่นอน) แต่ว่า ยางแนวสปอร์ตมันก็มีอยู่หลายแบบ หลายลวดลาย ซึ่งผู้ผลิตก็จะทำออกมาเพื่อ “ดึงดูด (ตังค์) ลูกค้า” ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะซื้อเพราะ “ความสวยงาม” เป็นหลัก ...

ดอกยางรถยนต์เนื้อยางนิ่ม น่าจะมีการยึดเกาะถนนที่ดี เพราะจะมีเฟืองยางนิ่มๆ ขนาดจิ๋วฝังลงไปบนพื้นมาก และเมื่อยางถูกหมุน เฟืองเหล่านั้นก็จะช่วยผลักให้ตัวรถยนต์เคลื่อนที่ การยึดเกาะก็จะดี และตัวเฟืองยางก็จะหลุดออกไปบ้าง จึงสึกหรอเร็ว หรือถ้าดอกยางรถยนต์เนื้อยางนิ่มเกินไป เมื่อล้อเริ่มหมุนเฟืองนิ่มก็จะล้ม ไม่สามารถช่วยผลักรถยนต์ให้เคลื่อนที่ไปได้ ถ้ายางเนื้อแข็ง ก็จะมีเฟืองลงไปฝังในพื้นถนนได้น้อย การยึดเกาะไม่ค่อยดี แต่ทนทาน ถ้ายัง งง ให้นึกเปรียบเทียบกับหลายวัสดุที่มีความแข็งต่างกันว่าจะมีผลต่อแรงเสียดทานอย่างไร เช่น นำหล็กแผ่นเรียบ, ไม้, ยาง และรองเท้าฟองน้ำ ถูกับถนน จะชัดเจนว่า เหล็กซึ่งแข็งที่สุดจะลื่นที่สุด ...

คงเคยได้ยินผ่านๆ ตา ได้อ่านผ่านๆ หู กันมาบ้าง กับคำโฆษณายางสปอร์ตบางแบรนด์ บางรุ่น ที่ใช้คำว่า Asymmetric หรือ “เอ – ซิม – เม – ทริค” โดยมีดอกยางแนวใหม่ ที่จะเป็นลวดลายทางๆ ที่ในหนึ่งเส้น จะมีลวดลายหลายแบบ และถ้าแบ่งหน้ายางเส้นเดียวกันนี้เป็นสองฝั่ง “ดอกยางจะไม่เหมือนกัน” ซึ่งคำว่า Asymmetric แปลว่า ...

             ในเรื่องของชิ้นส่วนที่อยู่บนยางรถยนต์เชื่อว่าหลายคนอาจจะทราบกันมาย้างแล้ว ทั้งดอกยาง แก้มยาง  หรือขอบยาง แต่สำหรับคำว่า ‘สะพานยาง’ ละ ? เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคย และอาจจะยังไม่เคยทราบด้วยว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบนี้กัน