ประสบการณ์หนึ่งที่บรรดาเจ้าของรถมือใหม่หรือที่มีประสบการณ์การขับยังไม่มากนัก หรือแม้แต่ผู้ใช้รถบางคนที่ขับรถมานานแล้วมักจะพบเจอก็คือการขับรถไปเฉี่ยวชนสิ่งต่างๆ

สำหรับรถที่ถูกน้ำท่วม หากทำประกันชั้น 1 หรือประกันที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติไว้ด้วย หากน้ำลดแล้วหรือสามารถเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่น้ำท่วมได้

สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้รถมักต้องลุ้นในช่วงฤดูฝนก็คือหลังฝนตกหนักๆ แล้วจะมีน้ำท่วมขังสูงเนื่องจากมีน้ำที่รอการระบายมากหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัญหาน้ำท่วมสูงจนทำให้จราจรติดขัดเนื่องจากต้องค่อยๆ ขับตามกันบนถนนจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับบางพื้นที่ในประเทศไทยที่มักได้รับลูกหลงจากพายุใหญ่ที่เคลื่อนผ่าน

แม้ปกติแล้วรถยนต์ทุกคันจะต้องทำพ.ร.บ. หรือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามเนื่องจากการทำพ.ร.บ. จะมีการคุ้มครองเฉพาะแค่บุคคลเท่านั้น

มีคำถามบ่อยครั้งจากผู้ใช้รถว่า ถ้าเราขับรถอยู่แล้วเจอวัตถุลอยขึ้นมากระกระแทกกระจกรถเราแตกหรือได้รับความเสียหาย แบบนี้จะเคลมกับบริษัทประกันภัยได้ไหม? ถ้าเคลมได้ต้องจ่ายค่าอะไรรึเปล่า เพื่อคลายข้อสงสัยเรามาหาคำตอบกัน

ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าเกือบทุกท่านมีรถยนต์ส่วนตัว แล้วรถยนต์ที่ท่านรักส่วนมากจะเป็นป้ายแดงใหม่เอี่ยมซะด้วย แน่นอนเพื่อปกป้องรถยนต์ที่คุณรัก เพราะอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นได้เสมอ ถึงแม้เราจะขับรถยนต์อย่างระมัดระวังแล้วก็ตาม ประกันภัยรถยนต์จึงสำคัญมาก

ประกันรถยนต์ในท้องตลาดมีหลากหลายแผนให้เลือกใช้ แล้วเราจะเลือกใช้แผนประกันรถยนต์อะไรให้พอเหมาะพอดีกับเรา ไม่คุ้มครองมากเกินไปเพื่อไม่ให้ฟุ่มเฟือย และคุ้มครองไม่น้อยเกินไปเพื่อให้เราอุ่นใจ แผนประกันแต่ละแผนที่เหมาะกับคนแต่ละแบบ

รถปีที่ 2 แล้วประกันที่ได้แถมมาตอนซื้อรถหมดแล้ว นายหน้ามารุมขายประกันเราแล้ว แล้วเราควรต่อประกันชั้น 1 ไหม? ตอบได้เลยว่า ไม่เสมอไป! บางคนอาจจะไม่ได้มีความจำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันเยอะเท่าชั้น 1 ถ้าคุณขับรถเก่งหรือใช้รถน้อยบางทีชั้น 2 ก็เพียงพอแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าความคุ้มครองของประกันประเภทไหนเหมาะกับคุณ