ด้วยการที่ยุโรปเป็นตลาดที่มีความนิยมรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล จึงทำให้ทั้งผู้ผลิตรถยนต์เจ้าถิ่นและต่างแดนต้องมีทางเลือกของเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถยนต์ที่ทำตลาดในภูมิภาคนี้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจเปลี่ยนไปในอนาคต จากปัจจัยต่างๆ โดยผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ส่งรถเข้าไปขายในยุโรปอย่าง Honda ได้วางแผนที่จะถอดเครื่องยนต์ดีเซลออกจากรถยนต์รุ่นต่างๆ ของตนทั้งหมดในยุโรป

ปีที่แล้วทาง Audi ส่ง Q8 มาเป็นทางเลือกของเอสยูวีคูเป้หรูขนาดฟูลไซส์โดยมี 3 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือเครื่องยนต์ดีเซล 45 TDI และ 50 TDI รวมทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 55 TFSI 340 แรงม้าเป็นทางเลือกของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงสุด

การดูแลรักษาด้วยการทำความสะอาดหัวฉีดเชื้อเพลิง เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้รถ ที่ต้องการลดการสะสมของสิ่งสกปรกในหัวฉีด ลดเขม่าในกระบอกสูบ ช่วยให้การจ่ายเชื้อเพลิงเป็นฝอยละออง เผาไหม้ได้สมบูรณ์ เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มกำลัง ลดการเกิดควันดำ ขับขี่ใช้งานได้เต็มสมรรถนะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม…

แม้จะมีบางประเทศหรือบางเมืองที่มีการห้ามใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบางรุ่นจากระดับของไอเสียที่ปล่อยออกมาจากรถเหล่านั้น แต่ทาง Audi

เครื่องยนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะที่จำเป็นต้องใช้พละกำลังมหาศาล เพื่อบรรทุกและลากจูง เรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์จึงเข้ามามีส่วนตัดสินสมรรถนะของรถรุ่นนั้นๆ อย่างในเชฟโรเลต โคโลราโด ที่มีขุมพลังดีเซล ดูราแม็กซ์ เป็นอีกหนึ่งขุมพลังที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสมรรถนะที่ไม่แพ้ใคร

รถกระบะ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “รถปิกอัพ” ได้ก้าวข้ามการเป็นรถที่ใช้เพียงเพื่อการทำงานหรือบรรทุกของ มาเป็นรถอเนกประสงค์ที่หลายคนซื้อมาทั้งเพื่อใช้งานบรรทุกและใช้โดยสารท่องเที่ยวไปเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากเรื่องของความอึดที่ขึ้นชื่อ ไม่ต้องการการบำรุงรักษาที่มากเท่าเครื่องยนต์เบนซิน จึงทำให้มีผู้ขับขี่ที่นิยมหันมาใช้รถปิกอัพกันมากขึ้น