เลือก Car Seat ยังไง ให้เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี หลังกฏหมายจ่อเตรียมปรับ 2,000 หากฝ่าฝืน

เรื่องบางเรื่อง ที่หลายคนอาจจะมองข้าม โดยเฉพาะ “เรื่องใกล้ตัว” นี่แหละ ในการขับรถ ต้องอาศัยความ “ละเอียด” ถึงจะเรียกว่า “ขับเป็น” นุ่มนวล ปลอดภัย ไม่ใช่แค่ “ขับได้” ให้รถเคลื่อนที่ไปได้เฉยๆ เท่านั้น ดังนั้น เรื่องเทคนิคการขับรถ จึงมีส่วนสำคัญที่เราอยากจะมอบให้แฟนๆ ทุกท่าน ทุกวัย ทุกเพศ นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

ช่วงนี้ก็เหมือน “ปลายฝน” เข้ามาทุกที ในช่วงที่เขียนงานนี้อยู่ ก็จะมีฝนตกหนาแน่น และมีข่าว “น้ำท่วม” ออกมาหลอกหลอนอีกนะ ความทรงจำในปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ก็ยังไม่มีใครลืม แต่ในเมื่อมีข่าวมาแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ควรจะต้อง “เตรียมตัว” หาทางหนีทีไล่ไว้บ้าง รถคันหนึ่งก็เป็นทรัพย์สินของเรา ยังไงก็ควรทราบวิธีเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้บ้างจะเป็นการดีมากๆ ครับ…

คงเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเป็นกระแสครึกโครมตอนน้ำท่วมปี 2554 ที่มีคนหัวการค้า ผลิต “ถุงคลุมรถกันน้ำ” ใบบะเร่อ ที่ขับรถขึ้นไปทับกลางถุง แล้วก็ตลบขึ้นผูกอย่างกับห่อข้าวแน่ะ ซึ่งหลายคนก็แห่กันซื้อจนของขาดตลาด พวกพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ใจขึ้นราคากันอย่างมหาโหด เพราะรู้ว่ายังไงคนก็ยอมซื้อเพื่อปกป้องรถยนต์ที่มีราคาแพงกว่ามาก แต่ว่า…เหรียญมีสองด้านเสมอ

หลังจากที่เราขับรถลุยน้ำ และผ่านพ้นมาได้แล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปล่อยปละละเลยได้เสียทีเดียวนะ เพราะมันมีขั้นตอนต่อมา ที่ผมจะแนะนำให้ทำเพื่อ “เซฟรถและตัวคุณ” เอง บางสิ่งก็เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ถ้าประมาทก็เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน…

เอาละครับ หลังจากที่ EP1 อยู่ในฉาก “ประเมินสถานการณ์” ตอนนี้เรามาเปิดฉาก “เข้าพระเข้านาง” กันบ้าง หากเราประเมินแล้วว่า “ลุย !!!” แน่นอนแล้ว มันก็จะมีขั้นตอนการขับลุยน้ำท่วมอย่างไร ให้รอดปลอดภัย หรือ เกิดผลเสียกับความเสี่ยงน้อยสุด ไม่เถียงว่าจะรู้ไปทำไม ไอ้ขับลุยดุ่ยๆ ไปล่ะก็ได้ถ้าตราบใดที่รถไม่ดับ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราลุยแบบ “มีชั้นเชิง” อย่างน้อยก็ดีกว่าไปแบบวัดดวงถูกไหม ???

ครั้งก่อนหน้า ก็ว่ากันถึงเรื่องการขับรถลุยแอ่งน้ำ อันนั้นเด็กๆ เพราะมันแว๊บเดียว แต่ก็ “เสียว” ได้ ถ้าไม่ระวังหรือขาดทักษะ ตอนนี้ กำลังเข้าสู่ช่วง “ปลายฝน” ก็อาจจะเจอกับพายุฝนกระหน่ำส่งเอาเสียดื้อๆ ก็มีโอกาสสูงที่เมืองฟ้าอมรรัตนโกสินทร์อย่างบ้านเฮาก็จะกลายร่างเป็น “อ่าวกรุงเทพ” จนแทบจะเปลี่ยนยานพาหนะเป็น “เจ็ตสกี” หรือ “หางยาวซิ่ง”

หน้าฝนนี้ สิ่งที่เราจะได้เจออยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ “แอ่งน้ำ” ที่ขังอยู่ตามริมทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า พอฝนตกหนักๆ น้ำก็เลยไปขังกองตรงนั้นเป็นแอ่งขึ้นมา จะ “แมวนอน” หรือ “ควายนอน” ก็แล้วแต่ความลึก พอรถวิ่งผ่านมา ลงแอ่งทีก็ “น้ำกระจาย” ถ้าคนรุ่นใหญ่เขาก็ว่าเหมือนโดดลงอ่างรัชดา (ไปตีความหมายเอาเองเด้อ) แต่สิ่งที่ตามมา ก็คือ “รถมีอาการเสียหลัก” จากการ “เหิรน้ำ” หรือ Hydroplaning (ไฮโดรเพลนนิ่ง) ...

เชื่อเลยว่า หลายคนก็มองเพียงว่า “เบรก” ทำหน้าที่เพียงแค่ “ชะลอหรือหยุดรถได้เท่านั้น” เอาเป็นว่า เบรกๆ ไปเถอะ รถมันหยุดไม่ไปชนตูดใครก็เอาแล้ว แต่เอาจริงๆ “การใช้เบรกที่ถูกต้อง” นั้นสำคัญมากๆ เพราะมันขึ้นอยู่กับ “ความปลอดภัยโดยตรง” คนส่วนใหญ่เบรกหยุดได้จริง แต่คนที่จะหยุดอย่าง “แม่นยำ” และ “นุ่มนวล” ใช้เบรกได้สมบูรณ์แบบ นั้น มันต้องมีเทคนิคกันหน่อย…

การเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่บนท้องถนน เกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ คือความประมาท ซึ่งความประมาทที่เกิดขึ้นส้วนเกิดจากพฤติกรรมที่เรามองว่าไม่สำคัญ หรือคาดไม่ถึงว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นทำให้เราเสียสมาธิในการขับรถ