มีมหากาพย์เรื่อง “ยาง” กันไปแล้ว” ก็ต้องมีเรื่องของ “ล้อ” กันบ้าง เพราะมันเป็นของคู่กัน เรื่อง “ล้อๆ” ที่ไม่ “ล้อเล่น” อาจจะดูแล้วเป็นเรื่องง่ายๆ หลายคนอาจจะคิดว่า ใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว ล้อก็คือล้อ แต่เราจะขอนำเสนอในส่วนที่ “ลึกซึ้ง” ลงไปอีก เพราะ ล้อรถยนต์ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเน้นเรื่องความสวยงามเป็นหลัก แต่แท้จริงแล้ว

เส้นทางความสำเร็จของ Ford ตลอดระยะเวลา 25 ปีในประเทศไทย คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่ารถกระบะ Ranger มีส่วนสำคัญมาตลอดนับตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกออกจากสายการผลิตของโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (AAT) ในจังหวัดระยอง เมื่อเดือนพฤษภาคม 1998   

ต่อมาครับ ก็ยังคงเป็นเรื่องของ “ความเข้าใจผิดๆ” ที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆ บนแก้มยาง จากเรื่องก่อนหน้า ที่เราเหลากันถึง “เทรดแวร์” กันไปแล้ว เหมือนจะจบ แต่ยังไม่จบ เพราะข้างๆ กันนั้น ดันมีคำว่า “Traction AA” ป๊ะอยู่ด้วย โอ้โหๆๆๆๆๆๆๆๆ ตาโตเท่าไข่เป็ด เพราะเข้าใจว่า “แทร็คชั่น” คือ “การยึดเกาะ” ก็ไม่ผิดนะครับ แต่เห็น AA ...

มาถึงเรื่องต่อมา กับคำว่า “เทรดแวร์” (Tread wear) พร้อมตัวเลข 3 หลัก ที่ติดอยู่ข้างแก้มยางเช่นกัน แต่ก่อนก็ไม่มีใครสนใจกันหรอกครับ แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เริ่มมีกระแสการแข่งขัน Drag racing ในรุ่นที่ใช้ “ยางเรเดียลสปอร์ต” หรือ “ยางซิ่ง วิ่งถนนได้” ทั่วไป ซึ่งยางจะมีหลายแบรนด์หลายรุ่นมากมาย ตามผู้ผลิตหลายเจ้าที่พยายามทำราคาให้ถูก เพื่อให้ “วัยรุ่นซื้อได้ง่าย”

เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการรับรู้และสามารถทำให้เกิดอันตรายในการขับรถได้ จนทำให้ทุกประเทศล้วนแต่มีกฎหมายจำกัดจำนวนแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับรถ

คงเคยได้ยินผ่านๆ ตา ได้อ่านผ่านๆ หู กันมาบ้าง กับคำโฆษณายางสปอร์ตบางแบรนด์ บางรุ่น ที่ใช้คำว่า Asymmetric หรือ “เอ – ซิม – เม – ทริค” โดยมีดอกยางแนวใหม่ ที่จะเป็นลวดลายทางๆ ที่ในหนึ่งเส้น จะมีลวดลายหลายแบบ และถ้าแบ่งหน้ายางเส้นเดียวกันนี้เป็นสองฝั่ง “ดอกยางจะไม่เหมือนกัน” ซึ่งคำว่า Asymmetric แปลว่า ...

มันเอากันถึงขนาดนี้แล้วรึ ??? เรียกว่าเรื่อง “ยาง” นี่ มันก็ไม่น่าจะไปแก้ไขปลอมแปลงอะไรได้นะ ถ้า “ล้อ” ก็ยังพอซ่อมกลมร่องรอยหลอก Dag ได้ แต่ตอนนี้ “ยางยังโกงได้” เอากะมันสิ เนื่องจากว่า ตอนนี้มีเรื่องของ “การโกงปีผลิตยาง” ขึ้น เพื่อเอายางเก่ามาตีปีผลิตใหม่ ซึ่งที่แก้มยาง ก็จะมีการ “ปั๊ม” เป็นรอยบุ๋ม หรือ “เป็นตัวนูน” ขึ้นมา ...

หลายท่านคงสงสัยว่าไอ้หัวฉีดของรถยนต์นี่เวลาใช้ไปนานๆและมันต้องล้างด้วยหรอ และจะล้างทำไม

หลังจากสิ้นสุดยุค 90’s ที่รุ่งเรืองสุดๆ ของวงการรถยนต์ ที่เหมือนกับ “เป็นมิตรและสร้างความทรงจำ ความสนุก ให้กับเจ้าของรถมากที่สุด” แม้ว่ารถมันอาจจะไม่ได้ “ไฮเทค” มากมาย แต่มีบางสิ่งที่ “สื่อสารตรง” ถ้าเป็น “สายขับ” จะรู้ดีว่ามันมีเสน่ห์ แต่เราก็ต้านทานเวลาไม่ได้ ทุกสิ่งอย่างย่อมเปลี่ยนไป ตั้งแต่ยุค 2000 หรือ “มิลเลนเนียม” การออกแบบทุกสิ่งอย่างก็ “ฉีก” ไปจากเดิม

มาถึงยุครุ่งเรืองของ “ทุกสิ่งอย่าง” รวมถึง “รถยนต์” ทุกค่าย ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ดี ทำให้ตอนนั้นมีรถรุ่นระดับตำนานออกมามากมาย ถ้าพูดถึง CIVIC อันโด่งดังที่สุด ก็ต้องยุค 90’s นี้เอง ที่สร้างชื่อเสียงระเบิดระเบ้อ และตัวรถก็ยังมีการพัฒนาจากยุค 80’s อย่างมาก รวมถึง “มอเตอร์สปอร์ต” ก็รุ่งเรืองตามไปด้วย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ผลิตรถรุ่น “สมรรถนะสูงพิเศษ” ออกมา