หลังจากข่าวอุบัติเหตุซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายในรถ Tesla Model S ทางตอนเหนือของเมืองฮุสตัน ซึ่งนำมาสู่การสอบสวน เพราะเชื่อว่ารถได้มีการขับเคลื่อนโดยที่ไม่มีผู้อยู่ในเบาะผู้ขับ ทาง Consumer Reports

บรรดาชาวอเมริกันที่กำลังจะซื้อรถโดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยคงดูข้อมูลล่าสุดจาก IIHS หรือสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงที่ออกมาล่าสุดได้

รถยนต์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยการทำงานต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับรถถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่ยังมีประสบการณ์น้อยหรือเริ่มขับรถได้ไม่นาน

แม้ Rolls-Royce เพิ่งเปิดตัว Ghost รุ่นใหม่ออกมาเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่รอช้าที่จะเพิ่มทางเลือกที่มีความสบายมากขึ้นสำหรับผู้เดินทางโดยนั่งที่เบาะหลัง ด้วยการยืดระยะฐานล้อของ Ghost ให้ยาวขึ้นออกมาเป็นทางเลือกในชื่อ Ghost Extended และพร้อมจะขายหลังจากเปิดตัวไม่นานส่วนการส่งมอบมอบจะมีขึ้นก่อนสิ้นปีนี้

ปัจจุบันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะเห็นบรรดาบริษัทรถยนต์ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีในการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ และคู่หูล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างวงการยานยนต์กับวงการเทคโนโลยีก็คือความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถยนต์หรู Mercedes-Benz กับ NVIDIA

Jaguar ได้ทำการอัพเดตเพิ่มเทคโนโลยีทั้งเพื่อความบันเทิงและความปลอดภัยห้กับรถเอสยูวีไฟฟ้า I-Pace สำหรับรุ่นที่จะเริ่มขายในปีนี้ พร้อมกับเสริมออฟชั่นเพื่อเพิ่มความหรูให้กับภายนอกของรถ

ในขณะที่ความนิยมรถเอสยูวียังคงมีอยู่ต่อเนื่องจนทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างเพิ่มรถครอสโอเวอร์และเอสยูวีออกมาเป็นทางเลือกแทบจะทุกเซ็กเม้นต์ แต่การศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนถนน Insurance Institute for Highway Safety หรือ IIHS กลับพบว่าพาหนะในการเดินทางประเภทนี้ได้คร่าชีวิตคนเดินถนนมากกว่ารถยนต์นั่งประเภทอื่น

จุดเด่นหนึ่งของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ถูกยกขึ้นมานอกเหนือไปจากความสบายของผู้เดินทางก็คือ จะทำให้อุบัติเหตุและการเสียชีวิตจากการจราจรลดลงหรือเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามความหวังด้านความปลอดภัยที่สวยหรูนี้ต้องพังทลายลง

                Auto Stop & Go หรือที่เรียกว่า ระบบตัดและเริ่มการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ ซึ่งในทางทฤษฎีและเหตุผลหลัก คือความประหยัด และลดมลพิษ แต่รู้หรือไม่ว่าระบบ Auto Stop & Go ทำงานอย่างไร…

Tesla เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ใหม่ที่พุ่งแรงสร้างชื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเพราะคำพูดและการทวีตที่สร้างประเด็นในข่าวของอีลอน มัสก์ซีอีโอบริษัทเท่านั้น แต่ยังมาจากการที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอนาคตของวงการยานยนต์จากการที่ทำแต่รถไฟฟ้าออกมาขาย