TAPA 2025 ประกาศความพร้อม งานแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก 3-5 เม.ย.นี้ ที่ไบเทค บางนา

TAPA 2025 งานแสดงสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก โอกาสครั้งสำคัญเพื่อความสำเร็จแห่งธุรกิจ ประกาศความพร้อมการจัดงาน โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2568 ณ Hall EH101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสมาคมในอุตสาหกรรมชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์เตรียมจัดงานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง 2568 หรือ TAPA 2025 โอกาสที่พลาดไม่ได้สำหรับนักธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อจับคู่เจรจาการค้า ต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจ เรียนรู้ และอัปเดตเทรนด์ใหม่ผ่านเวทีเสวนาสุดเข้มข้น
นางสาวณฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ถึง 15,491.40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 543,640.51 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.15 ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ โดยตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย”
“สินค้าชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ของไทยนั้นมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก สามารถแข่งขันได้ในเวทีนานาชาติ เนื่องจากเรามีห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งยาวนานมากว่า 50 ปี ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ สามารถผลิตชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ได้ทุกชิ้นส่วน”
งานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง หรืองาน TAPA จัดขึ้นต่อเนื่องมากว่า 2 ทศวรรษเพื่อเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง ต่อผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้ค้าปลีก รวมถึงนักธุรกิจจากทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรและต่อยอดธุรกิจในระดับสากล รวมทั้งเป็นเวทีเจรจาการค้าและเปิดตัวสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ
โดยภายในงานรวบรวมสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง จากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติมาร่วมจัดแสดงอย่างครบวงจร จนได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก หรือ World Auto Parts Sourcing Hub
งานแสดงสินค้า TAPA 2025 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Sustainable for the Future แสดงทิศทางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งของโลก ที่จะพัฒนาขึ้น โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่ โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 500 รายจากทั่วทุกมุมโลก ในคูหาแสดงสินค้ามากกว่า 1,000 คูหา บนพื้นที่จัดงานกว่า 20,000 ตารางเมตร
ภายในงานยังมี Highlight Zone ประกอบด้วย โซนสัมมนาและเสวนา เรียนรู้ และอัปเดตเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านเวทีเสวนาสุดเข้มข้นที่รวมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับแนวหน้ามาให้ความรู้แบบเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุด แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ถาม-ตอบ และแลกเปลี่ยนมุมมองกับวิทยากรโดยตรง และโซนจัดแสดงสินค้าไฮไลต์ พบกับสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูงจากผู้ผลิตชั้นนำ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจอุตสาหกรรมนี้ โซนนี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
ทางด้าน นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) กล่าวว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยต้องบูรณาการกลยุทธ์ ESG และพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์เชิงนิเวศให้สอดคล้องกับแนวโน้มโลก ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต้องใช้แนวทาง Multiple Track โดยรักษาสมดุลระหว่างเครื่องยนต์สันดาปที่สะอาด (Clean (CE) และยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) นโยบายนี้จะทำให้ไทยเป็น “Last Man Standing” ในการผลิตรถยนต์ ICE พร้อมสร้างความยังยืนและความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ขณะที่ นายภาณุวัฒน์ มาลสุขุม เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทนไทย (TAPAA) กล่าวว่า ในปี 2568 คาดว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ประเภท Aftermarket จะยังคงเติบโตได้ โดยมีแนวโน้มที่ดีจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า และการเพิ่มขึ้นของความต้องการซ่อมบำรุงยานยนต์ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยเสียงที่อาจเกิดขึ้น จากความขัดแย้งต่างๆ เพื่อปรับตัวและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจ
นายชนินทร์ ขาวจันทร์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (THAI SUBCON) กล่าวว่า การผลิตยานยนต์ในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญ และมีระบบห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งในระดับภูมิภาคอาเซียนไปจนถึงระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่และการประกอบยานยนต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศ ไทยเรามีฐานผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่และขนาดกลางจำนวนมาก ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ รวมถึงการลงทุนจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้งรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศหลากหลายค่าย อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยเสริมสร้างความมั่นคง และความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้
ในขณะที่ นายศักดิ์ศิริ วิกรมธรรมกุล นายกสมาคมผู้ค้าอะไหล่วรจักร (WASA) กล่าวว่า ย่านวรจักรเป็นแหล่งรวมของสินค้าประเภทอะไหล่รถยนต์, มอเตอร์ไซค์, อะไหล่เครื่องจักร ที่มีความหลากหลายเป็นแหล่งที่ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งสามารถหาสินค้าหรืออะไหล่ในราคาที่เหมาะสมได้ ในแง่ของการกระจายสินค้า ย่านวรจักรไม่ได้มีการขายเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าอะไหลไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายการขนส่งที่สามารถส่งสินค้าไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
พบกันในงาน TAPA 2025 ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2568 โดยวันที่ 5 เมษายนจะเป็นวันจำหน่ายปลีก ณ Hall EH 101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาคลิก www.thailandautopartsfair.com
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: TAPA 2025
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th