Tesla ทำการอัปเดตให้กับ Model 3 Performance ทั้งในด้านดีไซน์ ห้องโดยสาร รวมทั้งยังเพิ่มสมรรถนะของรถ พร้อมกับระบุว่านี่คือรถที่ใช้ทั้งความสามารถทางวิศวกรรมและการผลิตล่าสุดของบริษัท จนทำให้เป็นรถสมรรถนะสูงสมบูรณ์แบบสำหรับการขับใช้งานแต่ละวัน

Tesla Model 3 Performance ใหม่ถูกระบุว่าใช้ชุดขับเคลื่อนสมรรถนะสูงใหม่ที่ปรับปรุงการให้กำลังต่อเนื่องดีขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมีแรงบิดเพิ่ม 16 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การสิ้นเปลืองพลังงานลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อของรถโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่มีกำลัง 510 แรงม้า แรงบิด 741 นิวตัน-เมตร ทำให้ใช้เวลา 2.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ในขณะที่ความเร็วสูงสุดของรถถูกระบุว่าอยู่ที่ 262 กม./ชม. และสามารถเดินทางได้ 476 กิโลเมตรเมื่อชาร์จแบตเตอรีเต็มความจุ

นอกจากในส่วนของระบบขับเคลื่อนแล้ว ทางผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากอเมริกายังบอกว่ารถรุ่นใหม่ของตนถูกสร้างให้มีแชสซีส์สมรรถนะสูงขึ้น โดยใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยเฉพาะที่ลดน้ำหนักลงและทนต่อการบิดตัวสูงขึ้น รวมไปถึงใช้แดมเปอร์อแดปทีฟใหม่ที่สามารถปรับได้ 3 โหมดแบบเรียลไทม์ระหว่าง Standard, Sport และ Track  พร้อมใช้สปริงเหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ และจุดยึดช่วงล่างด้านบนที่มีความทนทานมากขึ้น

ผู้ผลิตอ้างว่าจากความเปลี่ยนแปลงส่งผลให้รถมอบประสบการณ์การขับที่คาดการได้ง่ายขึ้น มีความแม่นยำมากขึ้น และยังมีการปรับตั้งการควบคุมเสถียรภาพของรถเพื่อให้ผู้ขับมีอิสระในการใช้รถถึงขีดจำกัดมากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงในด้านสมรรถนะของรถยังรวมไปถึงการแบ่งแรงบิดโดยเน้นล้อหลังมากขึ้น ใช้ผ้าเบรก Track-ready และใช้ล้อขนาด 20 นิ้วพร้อมยางสมรรถนะสูง Pirelli P Zero 4 ที่เป็น Tesla-specific มีแรงต้านการหมุนน้อยลงและให้ความสบายในการเดินทางมากขึ้น

ส่วนการปรับรูปลักษณ์ของรถมีกันชนที่มีความสปอร์ตมากขึ้น Splitter หน้าใหม่ รวมไปถึงมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังและ Diffuser ใหม่ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้แอโรไดนามิกของรถดีขึ้น ลดแรงต้านของรถลง 5 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับลดการยกตัวของรถลง 36 เปอร์เซ็นต์

ส่วนห้องโดยสารของรถมีเบาะสปอร์ตใหม่ปรับปรุงในส่วนปีกข้างของเบาะให้มีความลึกมากขึ้น ปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ปรับความอุ่นและระบายอากาศได้ รวมทั้งห้องโดยสารยังเงียบขึ้นและมีความสบายมากขึ้นจากการใช้กระจกป้องกันเสียงร่วมกับปรับปรุงการซีลต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการแต่งห้องโดยสาร และสร้างความเพลิดเพลินด้วยระบบเสียงลำโพง 17 ตำแหน่ง ส่วนจอ Infotainment ของรถมีขนาด 15.4 นิ้ว และมีจอขนาด 8 นิ้วสำหรับผู้โดยสารที่เบาะหลัง

ทาง Teslaเริ่มรับออร์เดอร์รถรุ่นใหม่แล้วส่วนการส่งมอบรถจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ขณะที่ราคารถเริ่มต้น 52,990 ดอลลาร์

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th