ลองขับ ALL NEW SUZUKI XL7 ช่วงล่างนุ่มนวล อัตราเร่งดี ต่างจาก ERTIGA ชัดเจน
หลังจากากรเปิดตัวอย่างเปลี่ยนทางการในประเทศไทยได้ไม่นานสำหรับรถ SUV 7 ที่นั่งน้องใหม่อย่าง ALL NEW SUZUKI XL7 ผมเชื่อว่าหลายท่านคงพอทราบข้อมูลเบื้องต้นของรถยนต์รุ่นนี้กันบ้างแล้ว ครั้งนี้เราได้โอกาศเข้าร่วมการทดสอบสมรรถนะของ ALL NEW SUZUKI XL7 บนถนนจริง ใช้งานจริงบนเส้นทาง กรุงเทพ – เขาใหญ่ ซึ่งตลอดเส้นทางมีถนนให้ได้ทดสอบหลากหลายรูปแบบ ทั้งขึ้น-ลง เขา ถนน 4เลน และเลนสวนที่ต้องเร่งแซงรถช้า อีกทั้งมีถนนที่กำลังก่อสร้างหลุมบ่อเพียบ งานนี้เอาให้รู้ไปเลยว่าช่วงล่าง อัตราเร่ง แตกต่างจาก ERTIGA ขนาดไหนและดีกว่าคู่แข่งหรือไม่
ก่อนเริ่มทดสอบขอทำความเข้าใจใหม่ซะก่อนว่า ALL NEW SUZUKI XL7 ไม่ใช่การนำเอา SUZUKI ERTIGA มายกสูงเหมือนที่คู่แข่งทำ ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นแบบนั้นจริงอยู่ ALL NEW SUZUKI XL7 ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ SUZUKI ERTIGA แต่ ALL NEW SUZUKI XL7 นั้นมีความแตกต่างกับ SUZUKI ERTIGA อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น การดีไซน์ทั้งภายนอก และภายใน เครื่องยนต์จริงอยู่ว่าเครื่องลูกเดียวกันแต่ทางซูซูกิมีการปรับจูนกล่อง ECU ใหม่ อีกทั้งระบบช่วงล่างที่มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน ที่สำคัญ ALL NEW SUZUKI XL7 ยังนำแพลตฟอร์ม HEARTECT โครงสร้างตัวถังแบบไร้รอยต่อนำหนักเบา มาช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และ ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับดีไซน์ภายนอกตัวรถให้ความสปอร์ตแบบพรีเมี่ยม ซึ่งคาแรคเตอร์ของ ALL NEW SUZUKI XL7 จะออกแนววัยรุ่นเพิ่งสร้างครอบครัว รักในการเดินทางท่องเที่ยวแบบลุย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย ขอบรถสไตล์ครอสโอเวอร์ ส่วน SUZUKI ERTIGA จะออกแนวผู้ใหญ่ มีครอบครัวมีลูกร่วมดินทางด้วย เน้นไปที่ความสะดวกสบายเป็นหลักนั้นเอง
กลับมาที่รูปลักษณ์ภายนอกของ ALL NEW SUZUKI XL7 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำผสมโครเมียมให้ความรู้สึกมาดเข้มและดุดัน ลงตัวด้วยไฟหน้า LED ที่ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงิน ดุดันเข้มขึ้นด้วยซุ้มล้อสีดำพร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว อีกทั้งราวหลังคาเพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น และไฟท้าย LED พร้อมกับไฟเบรกแนวตั้ง (Light guides)
ภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่นๆ ทั้งยังเชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor) เพิ่มมิติและความสุนทรีย์ให้กับเสียงเพลง พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay, Android Auto ต้องบอกว่าจอชุดนี้นำมาติดตั้งในประเทศไทย แถมไม่มีการตัดภาพให้เสียอรรถรสเมื่อเข้าเกียร์ D ด้วยดีงาม !! ไม่ต้องไปเสียเวลาปลดล็อดออกเองให้วุ่นวาย มีช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติบริเวณห้องโดยสารด้านหน้า ระบบปรับอากาศด้านหลังสำหรับที่นั่งแถวสองและแถวสามเพื่อความเย็นสบายอย่างทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร ช่องวางแก้ว 8 ตำแหน่ง พร้อมช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลางเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มให้เย็นสดชื่นตลอดการเดินทาง
เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง แถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เข้า-ออกจากแถวที่สามได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เบาะนั่งแถวที่สามปรับพับแยกเบาะแบบ 50:50 สามารถปรับพับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape ปรับระดับสูง-ต่ำได้ แต่ปรับเข้าออกไม่ได้ ระบบ Keyless Push Start และระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท
เอาละเรามาลองขับ ALL NEW SUZUKI XL7 กันดีกว่าว่าจะต่างจาก SUZUKI ERTIGA หรือไม่ เครื่องยนต์บล็อคเดียวกันเลย K15B เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ต้องบอกก่อนครับถึงแม้จะเครื่องยนต์เดียวกันกับ SUZUKI ERTIGA แต่มีการปรับจูนใหม่รวมถึงเกียร์ ให้มีสามารถรองรับขนาด และน้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้น กดคันเร่งลงไป เฮ้ย !! ต้องบอกเลยว่า อัตราเร่งดีกว่า SUZUKI ERTIGA แถมเผลอๆผมว่าดีกว่าคู่แข่งอย่าง MITSUBISHI XPANDER CROSS ด้วยซ้ำ ช่วงออกตัวทำได้ดีกระชับกระเฉงขึ้นอย่างชัดเจน ช่วงกลางที่ความเร็ว 60-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังคงให้การตอบสนองได้ดีขับสนุก ความเร็วไหลขึ้นอย่างต่อเนื่องจนไปถึงความเร็วที่ประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรอบปลายเกียร์ 4 ที่ความเร็วเกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไปแล้วอาจขึ้นหนืดๆหน่อย ปกติครับอัตราเร่งขนาดนี้ผมถือว่า ALL NEW SUZUKI XL7 ทำได้ดีทีเดียวกับรถยนต์ที่เป็นรถครอบครัว 7 ที่นั่ง อัตรเร่งมันคงจะไม่จื๊ดจ๊าดเหมือนรถยนต์ซีดาน หรือรถสปอร์ตแน่นอน ต้องทำความเข้าใจด้วยความเค้าปรับเซ็ทจูนเครื่องยนต์มาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัวเป็นหลักซึ่งไม่ได้เอาไว้ซิ่ง
การเร่งแซงสบายครับหายห่วง บางจังหวะจะต้องมีการคลื๊กดาวน์ช่วย และประเมินความเร็วกะจังหวะในการเร่งแซงให้ดีก่อนที่จะแซง ส่วนการขับขึ้น-ลงเขา บอกเลยว่าขึ้นได้สบายไม่ต้องเป็นห่วงพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน
ระบบช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังเป็น Torsion Beam พร้อมคอยล์สปริง ซึ่งมีการปรับแต่งโช็คอัพใหม่ พร้อมค่าเคของสปริง และเสริมเหล็กกันโคลงให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ต้องบอกเลยว่าปรับเซ็ทมาดีทีเดียวครับ สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวของถนนได้มีนุ่มนวลกว่า SUZUKI ERTIGA อย่างชัดเจน วิ่งทางตรงยาวๆตัวรถไม่มีอาการโคลงให้ได้สัมผัส ขึ้นคอสะพานลองไม่แตะเบรกโอ้วดีงามดูดซับแรงได้ดี ตอนลงอาจจะมีเด้งแถมเล็กน้อยถือว่าเซ็ตช่วงล่างได้ดี มาลองเข้าโค้งด้วยความเร็วอาการโคลงมีให้สัมผัสเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าขับเค้าโค้งปกติความเร็วพอประมาณบอกเลยว่านิ่งไม่โคลงควบคุมง่าย นอกจากทีมีการปรับเซ็ทโช็คอัพ และสปริงใหม่แล้ว ยังมีการปรับจุดเล็กๆน้อยๆอีกเป็นร้อยจุด จึงทำให้ได้ช่วงล่างที่ดีขึ้นอย่างสัมผัสได้ แน่นอนรถน้ำหนักตัวมากขึ้นเบรกเป็นเรื่องสำคัญระบบเบรกแบบหน้าดิสก์-หลังดรัม เหมือนเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนหม้อลมเบรกให้ใหญ่ขึ้น หยุดนิ่งสนิทแบบนุ่มนวลแน่นอน
ระบบความปลอดภัยครบครัน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX กล้องมองภาพขณะถอยจอดเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง กุญแจ Immobilizer ระบบสัญญาณกันขโมย
สรุป โดยรวมถือว่า ALL NEW SUZUKI XL7 เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจาก SUZUKI ERTIGA เครื่องยนต์มีการปรับจูนให้กระฉับกระเฉงขึ้นขับสนุกขึ้น ช่วงล่างปรับใหม่ให้ความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ภายในดีไซน์สวยกว้างขวางนั่งสบาย โดดเด่นที่หน้าจอสัมผัส 10 นิ้ว ดู Netfix ขณะรถวิ่งได้ด้วย Digital Sound Processor เสียงกระหึ่มปรับแต่งได้ตามใจ ระบบความปลอดภัยครบครัน กับราคาที่แสนดีงามสบายกระเป๋า ราคาจำหน่าย ALL NEW SUZUKI XL7 อยู่ที่ 779,000 บาท (เพิ่มจาก Ertiga รุ่น GX อยู่ที่ 54,000 บาท) น่าใช้มากคุ้มมาก สุดท้ายไม่ต้องเชื่อผม ไปลองขับด้วยตัวเองแล้วคุณจะรู้ว่ามันสามารถตอบโจยท์การใช้งานคุณได้ขนาดไหน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th