TEST DRIVE ALL NEW MAZDA CX-30 รถ SUV สำหรับพ่อบ้านขาซิ่ง
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยกับ All-New Mazda CX-30 ครอสส์โอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mazda ที่มาพร้อมขุมกำลัง Skayactiv-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E85 โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย และเริ่มต้นในราคา 9.89 แสนบาท น่าสนใจใช่มั้ยละครับ วันนี้ทาง Grandprix online ได้มีโอกาศเข้าร่วมการทดสอบเจ้า All-New Mazda CX-30 คันนี้บนเส้นทางแบบใช้งานจริงจากพิษณุโลก – ขอนแก่นระยะทางรวม 340 กิโลเมตร ที่มีเส้นทางทั้งในเมือง นอกเมือง วิ่งขึ้น-ลงเขา ทางตรงยาว ครบรสแน่นอนครับงานนี้ แต่ก่อนที่เราจะไปทดลองขับกันเรามาทำความรู้จักกับ All-New Mazda CX-30 กันหน่อยดีกว่าครับ
All-New Mazda CX-30 หลายท่านสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ CX-4 เพราะมี CX-3 CX-5 CX-8 แล้วเหตูผลก็คือมาสด้า CX-4 มาสด้าได้ใช้ชื่อรุ่นนี้ไปแล้วที่ประเทศจีน เพื่อกันความสับสนเลยตกลงใช้ชื่อมาสด้า CX-30 นั้นเอง All-New Mazda CX-30 มาพร้อมกับความแตกต่างที่ชัดเจนหากเทียบกับรุ่น CX-3 เพราะมันมีขนาดใหญ่กว่า โดย All-New Mazda CX-30ใช้พื้นฐานของรุ่น Mazda 3 ส่วน CX-3 ใช้พื้นฐานของ Mazda 2 ครับ ทีเด็ดของAll-New Mazda CX-30ยังไม่หมดแค่นี้เพราะ ความแรง และเทคโนโลยี ที่จัดเต็มมาให้ และหากเอาไปเทียบกับคู่แข่ง ก็จะพบว่าขนาดมันกิน C-HR ของ Toyota และเทคโนโลยีก็ล้ำกว่า HR-V ของ Honda อีกด้วย การมาของ ALL New Mazda CX-30 นี้เหมือนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างทำให้มาสด้ามีรถยนต์SUV ให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายขนาดให้ตรงความต้องการและตอบโจยท์ของลูกค้ามาที่สุด เรียกได้ว่ามาสด้าเป็นเจ้าพ่อรถยนต์SUV อย่างแท้จริง
All New Mazda CX-30 รูปลักษณ์ภายนอกสวยบาดใจ
ต้องยอมรับเลยครับว่าการดีไซน์ของมาสด้าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมสวยงามกว่าค่ายคู่แข่ง โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบใคร โดยถ้ามองจากด้านหน้าแบบผ่านๆหน้าตาเจ้า ALL New Mazda CX-30จะคล้ายกับAll New Mazda 3 อย่างกับฝาแฝด เน้นความเรียบหรูด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More กระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้งสีดำเปียนโนแบล็คซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของมาสด้า โลโก้มาสด้าขนาดใหญ่ที่ซ่อนเรดาร์ไว้ภายใน ไฟหน้า Projector แบบ LED ทรงเรียวสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Signature รับกับกันชนหน้าแบบทูโทนพร้อมไฟหรี่และไฟเลี้ยวที่ด้านล่างได้อย่างลงตัว เดินขอบคิ้วสีดำรอบคันทำให้รถดูแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ผมว่าไอ้คิ้วสีดำรอบคันนี่มันใหญ่ไปหน่อยครับเล็กลงกว่านี้นิดนึงน่าจะสวยกว่านี้ ถ้ามองด้านข้างจะเห็นได้ว่าเจ้า All New Mazda CX-30คันนี้ จะไม่มีเส้นสายเหมือนรถยนต์ทั่วไป มันจะโค้งมนเป็นหนึ่งเดียวทั้งคัน นั้นมันทำให้เวลาเมื่อแสงตกกระทบกับตัวรถทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของแสงเงา เปรียบสเหมือนชิ้นงานศิลปะ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/55 R18 ในรุ่น S และ SP และขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/65 R16 ในรุ่น C ด้านท้ายคล้าย CX-3 ไฟท้าย LED Signature วงกลมดีไซน์เดียวกับ Mazda 3 และหลังคาซันรูฟ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม หรูหราด้วย ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ตารางเปรียบเทียบ Mazda CX-30, CX-3, CX-5 (หน่วยเป็นมิลลิเมตร)
ตารางเปรียบเทียบ | CX-30 | CX-3 | CX-5 |
ความยาวรวม | 4,395 | 4,275 | 4,550 |
ความกว้างรวม | 1,795 | 1,765 | 1,840 |
ความสูงรวม (ถึงหลังคารถ) | 1,540 | 1,535 | 1,680 |
ระยะฐานล้อ | 2,655 | 2,570 | 2,700 |
ระยะจากล้อหน้าถึงกันชนหน้า | 915 | 910 | 950 |
ระยะจากล้อหลังถึงกันชนหลัง | 825 | 795 | 900 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น | 175 | 160 | 193 |
เมื่อเทียบกับ CX-3 รุ่นเดิม พบว่า All-New Mazda CX-30รุ่นใหม่ ยาวขึ้น 120 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร เตี้ยลง 10 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 85 มิลลิเมตร และ ระยะ Ground Clearance เพิ่มอีก 15 มิลลิเมตร
All New Mazda CX-30ภายในสไตล์สปอร์ต เน้นความเรียบหรู
ดีไซน์โดยยึดผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ออกแบบการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับลักษณะและสรีระของผู้ขับดูเรียบหรูมีระดับด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เหนือคู่แข่ง แผงคอนโซลหน้าออกแบบเน้นไปแนวสปอร์ตสีทูโทน และใชวัสดุบุนุ่ม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านเหมือนAll New Mazda3 เสริมความสปอร์ต เบาะคู่หน้านั่งสบายกระชับตัว เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ส่วนการเชื่อมต่อการสื่อสารมีระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน พร้อมระบบเสียงจาก Bose ลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
เอาละเดี๋ยวมันจะยืดยาวจนเกินไปเราเริ่มทดลองขับกันดีกว่าครับอย่างที่บอกไปข้างต้นเส้นทางในวันนี้ครบทุกรสชาติ และขับแบบใช้งานจริง โดยช่วงแรกที่ออกจากตัวเมืองพิษณุโลกรถค่อนข้างเยอะความคล่องตัวของ All New Mazda CX-30มีความคล่องตัวสูงครับสามารถลัดเลาะตามช่องว่างได้อย่างสบาย หลุดออกมามีทางตรงยาวๆเรามาลองอัตราเร่งของเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. DOHC แบบ 4 สูบ Dual S-VT Electronic Direct Injection กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งตอนออกตัวทำได้ดีทีเดียวครับ ช่วงกลางถึงปลายทำได้อย่างต่อเนื่องและลื่นไหล ใช้เวลาไม่นานความเร็วไปแตะ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เครื่องยนต์ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV ได้อย่างลงตัวสมูทมากครับ การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายมาก แต่บางจังหวะอาจจะต้องใช้การคลิ๊กดาวน์ช่วยหน่อยก็เท่านั้น มาถึงทางขึ้นลงเขาสบายไปได้แบบกำลังเหลือๆแต่บางช่วงที่ต้องเร่งแซงบนทางชันอาจจะต้องเค้นเครื่องซะหน่อย แต่ผมใช้แพดเดิ้ลชิพช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำวิ่งแซงดีขึ้นเยอะเลยครับ เจ้าAll New Mazda CX-30มีโหมดSport ให้ด้วยนะลองเปลี่ยนเป็นโหมดสปอร์ตอัตราเร่งและรอบเครื่องยนต์กระฉับกระเฉงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขับสนุกมากขึ้น แถมรองรับน้ำมันสูงสุด E85 ด้วยนะ และไม่น่าเชื่อครับเจ้าAll New Mazda CX-30คันนี้มีเครื่องยนต์ที่แรงและใหญ่กว่าคู่แข่ง แต่มันสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้เท่ากับคู่แข่งเลยคือประมาณ 15 กิโลเมตรต่อลิตร (อันนี้ไม่ได้ลองเองนะครับเป็นตัวเลขเครมมาจากโรงงาน)
ระบบช่วงล่างแบบเดียวกับ All New Mazda3 แต่มีการอัพเกรดใหม่ให้เข้ากับน้ำหนักและขนาดของตัวรถ ให้ความนุ่มนวล นิ่ง ควมคุมง่ายเมื่อวิ่งทางตรงยาวด้วยความเร็ว ดูดซับแรงซั่นสะเทือนการพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้ดี การเค้าโค้งด้วยความเร็วให้ความมั่นใจรถนิ่งไม่มีอาการโคลงให้ได้สัมผัส แถมเจ้าระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม ทำให้เราควบคุมรถได้ง่ายขึ้นเพราะมันทำให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ แถมเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น
3 รุ่นย่อยต่างกันอย่างไร
ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมเครืองยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร น่าเสียดายที่ยังไม่มีตัวเครื่องยนต์ดีเซลมาให้เลือกในตอนนี้
- รุ่น 2.0 C มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครัน อาทิเช่น ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED, ล้ออัลลอย 16”, หน้าจอ Center Display ขนาด 8.8” ที่รองรับระบบ Apple CarPlay, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่อง แอร์ด้านหลัง, ถุงลมนิรภัย 7 ตําแหน่ง, ระบบ ABSM และระบบ RCTA
- รุ่น 2.0 S เพิมความสปอร์ตด้วยดีไซน์ทีโดดเด่นมากขึน และอุปกรณ์มาตรฐานด้านความสะดวกสบายและ ความปลอดภัยเพิ่มเติมทีเหนือกว่า เช่น ล้ออัลลอย 18” ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขีเวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบธรรมดา, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุด และกล้องมองหลัง
- รุ่น 2.0 SP เพิ่มความพรีเมี่ยมมากยิ่งขึนด้วยดีไซน์ที่หรูหรา เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ เช่น ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขีเวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature, หลังคาซันรูฟแบบไฟฟา, ระบบเสียง BOSE รอบทิศทางพร้อมลําโพง 12 ตําแหน่ง, ระบบ ควบคุมการเปลียนเกียร์ทีพวงมาลัย และระบบความปลอดภัย i-Activsense ทีมากถึง 12 ระบบ เหนือกว่า รถในระดับเดียวกัน
All-new Mazda cx-30มอบความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุมากถึง 12 ระบบ
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
อีกทั้งยังปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
สรุปเลยละกันนะครับ เรื่องการดีไซน์ผมบอกเลยว่าสุดยอดโดดเด่น มีเอกลักษณ์ สวยงามกว่าคู่แข่ง ภายในเรียบหรูดูดีมีสไตล์ ใช้วัสดุคุณภาพดีกว่าคู่แข่งเช่นกัน แต่ภายในถ้าคนที่เน้นอยากได้รถครอบครัวจ๋าๆคงไม่ชอบ เพราะAll New Mazda CX-30ยังติดภาพลักษณ์สปอร์ตอยู่เยอะทำให้ภายในดูแคบกว่าคู่แข่ง แต่ถ้าคุณเป็นครอบครัวเล็กที่ชอบรถแนวสปอร์ต รถขับสนุก แต่ต้องการขนของ และขับลุยได้เล็กน้อยคันนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน เครื่องยนต์ถือว่าเป็นจุดได้เปรียบของ All New Mazda CX-30เพราะมีความจุใหญ่ที่สุด แรงสุด ในเซ็กเม้นท์เดียวกัน แต่ยังคงให้ความประหยัดน้ำมันเท่ากับคู่แข่ง ระบบความปลอดภัยต่างที่ให้มาจัดหนักจัดเต็มแบบไม่อั้นถึง 12 ระบบ คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล และแน่นหนึบทำให้เพิ่มอรรถรสในการขับได้อีกระดับ ผมว่าเจ้า ALL-NEW MAZDA CX-30คุ้มค่าเงินที่เสียไปแน่นอนครับ
ราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA CX-30
ALL-NEW MAZDA CX-30 | รุ่น 2.0 C | 989,000 บาท |
ALL-NEW MAZDA CX-30 | รุ่น 2.0 S | 1,099,000 บาท |
ALL-NEW MAZDA CX-30 | รุ่น 2.0 SP | 1,199,000 บาท |
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th