TEST DRIVE ALL NEW MITSUBISHI TRITON 2023 ขับดี แต่ กั๊กออฟชั่นไปนิด
TEST DRIVE ALL NEW MITSUBISHI TRITON 2023 ขับดี แต่ กั๊กออพชั่นไปนิด หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย กับ ALL NEW MITSUBISHI TRITON 2023 เจนเนอเรชั่นที่ 6 ที่มาพร้อมการดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน การพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่ แชสซีส์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ที่มีให้เลือก 3 เครื่องยนต์ แต่ในเมืองไทย มิตซูบิชิ ทำการขายในช่วงแรกนี้ด้วย เครื่องยนต์คลีนดีเซล Hyper Power แบบ 4 สูบ Commonrail VG Turbo Intercooler ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เท่านั้น อีกสองเครื่องยนต์กั๊กไว้ก่อนรอปล่อยตามมาเร็วๆนี้
ครั้งนี้เราได้มีโอกาศเข้าร่วมทดลองขับ ALL NEW MITSUBISHI TRITON 2023 รุ่น Double Cab Plus 2.4 ULTRA 6AT 2WD ซึ่งราคา 1,027,000 บาท และเป็นตัวท็อปสุดของรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อในปัจจุบัน (ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้จะมีการปล่อยรุ่น ATHLETE ออกมาคาดช่วงปลายปีนี้ ) และนี้คือรุ่นที่เราจะลองขับกันด้วยความที่ตัวรถราคา 1.027 ล้านบาท เราจึงคาดหวังออพชั่นต่างๆไว้ค่อนข้างเยอะ แต่ดันมากั๊กออพชั่นซะนี่ ก่อนลองขับเรามาดูกันว่ากั๊กอะไรไว้บ้าง
เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก
มีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าโดยสิ้นเชิงโดยรุ่นนี้มีความ เท่ และ บึกบึนขึ้นกว่ารุ่นก่อนเยอะมากทีเดียว มิตซูบิชิยังคงเก็บการดีไซน์แบบ ไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield)ไว้ ออกแบบกระจังหน้าและซุ้มล้อแบบสามมิติที่ดุดัน พร้อมกันชนหน้าที่ออกแบบเพื่อเน้นย้ำรูปทรงสะท้อนถึงพลังที่อัดแน่น ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวดุจสายตาเหยี่ยว ผสานกับไฟส่องสว่างหน้า แบบสามมิติ กระบะท้ายได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น แต่ดันกั๊กไม่ใส่ตัวช่วยผ่อนแรงฝาท้ายมาให้ ต้องไปซื้อเอาเองเป็นออพชั่นเสริม ไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง การดีไซน์คงบอกลำบากว่าสวยหรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องของความชอบของแต่ละคน
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบด้วยรูปทรงเหลี่ยมและใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมใส่วัสดุบุนุ่มมาให้ในหลายจุด เสริมความสะดวกสบายในการใช้งาน ตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัย จอแสดงผลมองเห็นได้ชัดเจน โดยชุดมาตรวัดและสวิตช์ควบคุมต่างๆ มองเห็นได้อย่างชัดเจนสะดวกง่ายต่อการใช้งาน แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ
พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิลิตร ได้มากถึง 4 ขวด มีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และยังมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม ส่วนจออินโฟเทนเมนต์เป็นแบบลอยตัวขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทุกรุ่น
เบาะนั่งคู่หน้านั่งสบายมากจริงๆครับ กระชับตัว และรองรับสรีระได้ดีมากขับทางไกลแบบชิลล์ๆ เลยครับ เพราะมันออกแบบให้ช่วยหนุนแผ่นหลังส่วนล่าง ขณะที่พื้นที่ช่วงไหล่มีรูปทรงเปิดกว้างเพื่อความสบายในการขยับตัว ช่วยลดความเหนื่อยเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระยะของเบาะที่ตรงกับตำแหน่งสะโพกได้รับการขยับสูงขึ้น เพื่อช่วยปรับสรีระขณะขับขี่ให้อยู่ในท่าตรงโดยยังคงความคล่องตัวสะดวกสบายตามหลักสรีระศาสตร์ นั้นเอง เบาะนั่งหุ้มหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์ และเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา
ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเท่านั้นไม่ใช่แอร์หลังนะครับเพราะไม่มีท่อแอร์มา มันจึงทำได้แค่ดูดากาศจากห้องโดยสารตอนหน้ามาเท่านั้น ซึ่งถ้าเปิดแอร์ด้านหน้าเบาด้านหลังก็จะได้แค่ลมเท่านั้นไม่มีไอเย็น เหมือนคุณเปิดพัดลมในที่อากาศร้อนๆนั้นละ คุณต้องเปิดแอร์ด้านหน้าแบบเย็นจัดเลย ระบบหมุนเวียนอากาศจึงจะดูดอากาศไอเย็นของด้านหน้าสู่ด้านหลังได้เพียงพอในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัด แต่ห้องโดยสารด้านหน้าหนาวจัดเลยนะครับ เพราะฉะนั้นผมว่าเดินท่อแอร์มาแบบค่ายคู่แข่งอื่นๆน่าจะดีกว่า
เครื่องยนต์
แม้จะมีตัวเลือกเรื่องกำลังเครื่องยนต์ที่หลากหลาย แต่ในไทย มิตซูบิชิ ยังกั๊กไว้ก่อน โดยขณะนี้ยังมีขายแค่เครื่องยนต์เดียว นั้นก็คือเครื่องยนต์คลีนดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร Hyper Power ก่อนเป็นเครื่องยนต์แรก โดยได้พัฒนาใหม่ให้มีพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับขี่
สำหรับรุ่นที่ผมทดลองขับถือว่าเป็นรุ่นที่สูงที่สุดของตัวขับเคลื่อน 2 ล้อ ในขณะนี้ คือรุ่น Double Cab Plus 2.4 ULTRA 6AT 2WD สิ่งที่ให้มาคือระบบช่วยขับขี่ Diamond Sense ที่ประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ,ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา ,ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน,ระบบแจ้งเตือนการจราจรขณะถอย ,ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ,ถุงลมนิรภัย 7 จุด และกล้องมองภาพรอบคัน และเพื่อนๆเชื่อหรือไม่ครับว่ามิตซูบิชิไม่ได้ใส่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (cruise control) มาให้ทั้งที่มีระบบรองรับอยู่แล้ว แถมไม่มี ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) มาให้
ผมมองว่ารถระดับราคา 1,027,000 บาท ซึ่งออฟชั่นเล็กน้อยพวกนี้ไม่น่าตัดทิ้งไปเลยน่าเสียดาย ถึงแม้ว่ามีแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ก็ตามแต่ก็ขอมีไว้คุยก่อนก็ยังดี ดีกว่าไม่มีให้มาเลย มันทำให้มีข้อเปรียบเทียบในยี่ห้อคู่แข่งที่ราคาระดับเดียวกันที่เค้าจัดต็มมาให้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่หายไปนั้นจะกลับมาในรุ่น ATHLETE นั้นเอง กั๊กของไว้ก่อน
สิ่งที่ว๊าว ! และยอดเยี่ยมของเจ้า MITSUBISHI TRITON 2023 คันนี้
นั้นก็คือ ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง AYC (Active Yaw Control) ซึ่งควบคุมแรงบิดด้วยเบรก ซึ่งมันเป็นระบบที่ยกมาจากรถสมรรถนะสูงอย่าง EVOLUTION เลยนะครับ และมันทำงานผสานกับไทรทัน ใหม่ ได้อย่างยอดเยี่ยมเค้าโค้งด้วยความเร็วได้แบบสบายๆนิ่ง ควบคุมง่าย
ว๊าว! อีกจุดคือ ตัวถังใหม่ เมกาเฟรม
โครงสร้างรถ เมกาเฟรม ใหม่ มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น ไม่เพียงมอบสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายมากกว่าเดิม ออล-นิว ไทรทัน ยังมีความแข็งแรงสมบุกสมบันที่เหนือชั้น พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ลองขับ TEST DRIVE ALL NEW MITSUBISHI TRITON
เรามาลองสมรรถนะของเจ้า MITSUBISHI TRITON Double Cab Plus 2.4 ULTRA 6AT 2WD กันดีกว่าครับแน่นอนระบบช่วงล่างที่มีการปรับปรุงใหม่ โครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้าซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบนได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เจ้าไทรทันคันนี้มีความนุ่มนวลในการขับขี่ สามารถดูดซัพแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวของถนนได้ดี ขับดีนั่งสบายเลยครับ นุ่มนวลกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะครับ ความคล่องตัวของเจ้าคันนี้ทำได้ดี เพราะด้วยทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี มีความคล่องตัวพอสมควร ทำให้การขับขี่ในเมืองง่ายดายมากครับ
หลุดออกมานอกเมืองขยับความเร็วขึ้น ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร Hyper Power 184 แรงม้า ของไทรทัน ใหม่ คันนี้ ถึงแม้จะไม่ได้ว๊าวอะไรนัก แต่มันก็เพียงพอต่อการใช้งาน และทำหน้าที่ได้ดีครับ ขับสนุก อัตราเร่งดี ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ได้อย่างลงตัว (แอบเสียดายน่าจะยกเกียร์ 8 สปีด จากปาเจโร่มาใช้ได้แล้ว) กดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องไปแตะที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้แบบไม่ยากเย็นนัก การเร่งแซงไม่มีปัญหาเหลือเฟือครับ
ขับด้วยความเร็วเดินทางที่ค่อนข้างสูงนิดนึงกับทางตรงยาว ระบบช่วงล่างซับแรงได้ดีตัวรถนิ่ง และนุ่มนวล ควบคุมง่าย แต่มันก็มีบางช่วงที่วิ่งผ่านถนนซีเมนต์ตัวรถมีอาการเด้ง และสะเทือนให้ได้สัมผัส การเข้าโค้งด้วยควมเร็วเนียนๆนิ่ง หนึบ ควบคุมง่าย ครับ เข้าสู่ทางดินลูกรังที่ซึ่งเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลื่น กดคันเร่งลงไปแรงๆระบบแทรคชั่นคอนโทรลทำงานได้ดีควบคุมการทำงานของล้อทั้งสี่หมุนไปอย่างสัมพันธ์กัน ทำให้ไม่ลื่นไถล และไม่เสียหลักในขณะเค้าโค้ง ขับสบายเลยครับ
สรุป
และนี้คือข้อมูล และการทดลองขับ MITSUBISHI TRITON Double Cab Plus 2.4 ULTRA 6AT 2WD ก็ต้องบอกว่ารถขับดี ขับสนุก ขับสบาย ระบบช่วงล่าง นุ่ม และหนึบพอควร ซึ่งถ้าคนที่ชอบระบบช่วงล่างแบบ นุ่ม หนึบ คงถูกใจไม่น้อย เครื่องยนต์ 184 แรงม้า ขับดี เพียงพอต่อการใช้งาน น่าเสียดายที่ยังกั๊กออพชั่นไว้ใส่ในรุ่น ATHLETE ทั้งทีรถคันนี้ราคาแตะล้านแล้วดันเลือกทีจะตัด cruise control, Lane Keeping ซึ่งน่าจะเป็นระบบพื้นฐานออกไป อย่างไรก็ตามเราต้องรอดูต่อไปในรุ่นต่างๆที่ทางมิตซูบิชิกั๊กเอาไว้ว่ามันจะเจ๋ง ว๊าวขนาดไหน สุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อต้องไปลองขับดูก่อนว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ www.mitsubishi-motors.co.th
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th