Test Drive Honda e:N1 บนถนนไทย รถยนต์ไฟฟ้าขับสนุก แต่ไม่มีขาย
Test Drive Honda e:N1 บนถนนไทย รถยนต์ไฟฟ้าขับสนุก แต่ไม่มีขาย หลังจากฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้เปิดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของทางฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งได้นำมาอวดโฉมในงาน บางกอกมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ด้วย แต่เดี๋ยวก่อนทางฮอนด้าแจ้งว่า รถยนต์ e:N1 คันนี้ไม่ได้มีไว้จำหน่ายให้จับจองเป็นเจ้าของ แต่มีไว้ให้เช่าขับเพียงอย่างเดียว ทำเอาหลายคนที่รอคอยจับจองเป็นเจ้าของผิดหวังกันไป
ล่าสุดเราได้เข้าร่วมการทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าของทางฮอนด้าคันนี้ เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันเป็นอย่างไรขับดีแค่ไหน และมันคุ้มค่าที่จะต้องจ่ายค่าเช่าที่มีราคาค่อนข้างสูงหรือไม่ เรามาติดตามไปพร้อมกันครับ
การออกแบบภายนอก
Honda e:N1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100 % มาในสไตล์รถอเนกประสงค์ SUV ขนาดเล็ก ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e:N Architecture F ไม่ใช่แพลตฟอร์มร่วมกับ HR-V แต่อย่างใด ถึงแม้หน้าตา รูปทรงภายนอก จะนอกคล้าย HR-V ก็ตาม แต่มันสามารถใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้แค่ 20% เท่านั้น เช่น กระจก และขอบยาง ต่างๆ นอกนั้นใช้อะไรร่วมกับ HR-V ไม่ได้เลย ตัวรถมีการดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ไม่ได้ดีไซน์หวือหวาเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายจีนนะครับ การดีไซน์ผมว่ามันบอกไม่ได้ว่าแบบไหนสวยกว่ากัน มันอยู่ที่ว่าใครชอบสไตล์ไหนมากกว่า
ไฟหน้าและไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ, ไฟท้าย LED Light Strip สี Smoke, ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential, ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ, กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ และกระจกด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง, กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำพร้อมระบบไล่ฝ้า และล้อขนาด 18 นิ้ว ช่องชาร์จไฟของ Honda e:N1 ถูกติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้ารถ พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จ จริงอยู่ครับว่าการวางตำแหน่งช่องชาร์จไว้ด้านหน้าแบบนี้มันสะดวกสบายต่อการใช้งาน แต่ๆถ้ามันเกิดอุบัติเหตุขับไปชนบริเวณหน้ารถ แทนที่จะเสียเงินแค่เปลี่ยนกันชน ชุดไฟหน้า นี่ต้องมาเสียเงินค่าช่องชาร์จด้วยซึ่งอะไหล่ราคาไม่ถูกแน่นอน นั้นคือเหตุผลที่หลายๆค่ายย้ายจุดชาร์จไปไว้ด้านข้างแทน
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบเรียบง่าย ดูดีกว่า HR-V ติดตั้งหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว แนวตั้งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน และมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ติดตั้งระบบเกียร์แบบปุ่ม พร้อมสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวาอิสระ ระบบ Air Diffusion System ช่วยเป่าลมหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่องแอร์หลัง และไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารสีฟ้า (Blue Ambient Light) ไม่มี Panoramic Roof และฝาท้ายไฟฟ้า ต้องบอกแบบนี้ครับในเรื่องฟรังชั่น ออฟชั่น และวัสดุ ต่างๆที่ให้มาสู้รถไฟฟ้าจากจีนไม่ได้เลย
การทดลองขับบนถนนไทย Test Drive Honda e:N1
เจ้าคันนี้ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Motor กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 68.8 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มาตรฐาน NEDC การทดลองขับครั้งนี้เป็นการทดลองแบบสั้นๆขับจากย่านบางชัน ไปเขื่อนขุนด่านปราการชล ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร เราเริ่มออกเดินรถในช่วงเช้าค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร และต้องมีการเร่งแซงรถบรรทุกช้าด้านหน้าอยู่เป็นระยะ เพราะเจ้า google map ดันหวังดีพาเราหนีรถติดวิ่งเข้าผ่านกลางหนองจอกซะนี่ ความคล่องตัวไม่ต้องพูดถึงทำได้ดี ลัดเลาะตามช่องว่างสบาย ทัศนวิสัยดี ขับง่าย อัตราเร่งต้องบอกว่ามันขับดีมากจริงๆครับ ช่วงออกตัวถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆจากจีน จะกระชากพุ่งออกไปเลย แต่เจ้า e:N1 คันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ เพราะเมื่อคุณกดคันเร่งลงไป อัตราเร่งเพิ่มขึ้นแบบนุ่มนวลไม่กระชาก ฟิลลิ่งคล้ายๆรถน้ำมัน แต่ดันขึ้นไม่หยุดแบบนวลๆและต่อเนื่อง นี้ขนาดในโหมดของ Econ นะครับ ยังขับได้สนุกขนาดนี้ ถนนเริ่มใหญ่ขึ้น และรถเริ่มน้อยลงเลยลองปรับไปโหมด Normal ดูว่ามันจะเป็นอย่างไร กดคันเร่งลงไปมันออกตัวได้เร็วขึ้นดุดันขึ้นแบบรู้สึกได้ เลยไปต่อที่โหมด Sport สมชื่อเลยครับกดคันเร่งปุ๊บดันออกแบบนวลๆแต่รวดเร็ว และต่อเนื่อง ขับสนุกมากจริงๆครับ ผมว่ามันขับได้แล้วฟิลลิ่งกว่ารถไฟฟ้าจีนที่กดและกระชากหลังติดเบาะเสียอีก ความเร็วสูงสุดฮอนด้าบอกว่าวิ่งได้ 160 กม./ชม. แต่ผมกดคันเร่งเพลินความเร็วไหลไปแตะที่ 168 กม./ชม. ได้เฉยแบบสบายๆแรงเหลือๆแต่ล็อคเอาไว้เพื่อความปลอดภัย
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ e:N1 คันนี้ขับดี ขับสนุก นั้นก็ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ ที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัว การดูดซับแรงสั่นสะเทือนทำได้ดี วิ่งด้วยความเร็วสูงตัวรถยังคงนิ่งและควบคุมง่าย เค้าโค้งด้วยความเร็วทำได้อย่างมั่นใจนิ่งดีครับ แต่ในบางจังหวะจะสัมผัสได้ถึงอาการกระเด้งกระด้างเล็กๆ ซึ่งถ้าคนที่ชอบระบบช่วงล่างของรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่เน้นปรับเซ็ทมาเน้นหนักไปเพื่อความนุ่มนวล จนบางครั้งบางคันนุ่มจนย้วย ก็อาจจะไม่ชอบช่วงล่างของเจ้า e:N1 คันนี้ครับ
ขับกลับมาถึงกรุงเทพโดยไม่ไฟฟ้าเหลืออยู่อีกประมาณ 26% ระยะทางที่วิ่งได้เหลืออีกประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งผมทำได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 5.0 Km/kWh ซึ่งที่เครมไว้ว่าชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 500 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC ซึ่งแน่นอนมันวิ่งได้ไม่ถึงแน่นอนน่าจะได้วิ่งจริงได้ประมาณ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ก็เก่งแล้วครับ
เรื่องระบบความปลอดภัยต้องบอกเลยว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ได้สุดเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนครับ สู้กันไม่ได้เลย แถมรอบนี้ยังกลืนน้ำลายตัวเองติดตั้ง blind sport มาให้ หลังจากวิศวกรฮอนด้าบอกระบบนี้ไม่จำเป็นเพราะมี lane watch อยู่แล้ว แต่คันนี้ตัด lane watch ทิ้งหันไปซบอก blind sport ซะงั้น และยังคงไร้เงากล้อง 360 องศาเหมือนเดิม หลักๆที่เจ้าคันนี้มีมาให้เช่น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ,ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ,ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ , ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ,ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ , Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow ,ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ,ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI) ,ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM) ,เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (หน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด)
สรุป
เจ้า Honda e:N1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100 % คันแรกของทางฮอนด้า ซึ่งถ้ามองจากรูปทรงภายนอก การออกแบบภายใน และออฟชั่น ฟรังชั่น ต่างๆ ยังสู้คู่แข่งจากประเทศจีนไม่ได้ แต่ถ้ามองเรื่องการขับขี่ และความปลอดภัย ผมว่า e:N1 เหนือกว่าครับ ขับสนุกและกลมกล่อมกว่า
ถามว่าจะทำให้แรงเหมือนรถจีนได้หรือไม่ผมเชื่อว่า ฮอนด้าทำได้ครับ แต่เค้าเน้นไปที่ความปลอดภัย และขับสนุก ซะมากกว่า ไม่แรงพร่ำเพรื่อ แต่สุดท้ายถึงแม้จะดีแค่ไหนแต่ก็คงทำราคาลงมาสู้กับรถจากจีนไม่ได้อยู่ดี เจ้ารถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของฮอนด้าคันนี้ เลยไม่มีขาย เช่าใช้ผ่านบริษัทรถเช่าชั้นนำ ไม่เปิดขายบุคคลทั่วไป กับราคาแรงเอาเรื่องเริ่มต้น 29,000 บาท/เดือน ท่านไหนอยากลองก็ไปเช่าขับกันได้นะครับ
บริษัทรถเช่าชั้นนำ ที่เปิดให้เช่า Honda e:N1
- บริ ษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จํากัด (มหาชน)
- บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลิสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จํากัด
- บริษัท ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชัน จํากัด
- บริษั ท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จํากัด
- บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล จํากัด
- บ ริษัท ไพร์ม คาร์เร้นท์ จํากัด
- บริษั ท ภัทรลีสซิ่ง จํากัด (มหาชน)
- บริ ษัท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล จํากัด
- บ ริษัท เวิดด์คลาส เรนท์ อะ คาร์ จํากัด
- บริษัท เวิลด์เบสท์ คอร์ปอเรชัน จํากัด
- บริ ษัท เอแอลดี เอ็มเอซซี โมบิลิตี้ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
- บ ริษัท ช.พัฒนาคาร์เรนท์ จํากัด
- รายละเอียด และ เงื่อนไขการเช่า เป็นไปตามที่บริษัทรถเช่ากําหนด
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th