Hyundai Palisade เอสยูวีที่ครบเครื่อง ความอเนกประสงค์รอบด้าน หล่อ หรู ร้าย ตัวจริง!
นานมากแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกับอารมณ์ในการขับรถที่ให้ความรู้สึกสนุกและสะดวกสบายแบบนี้ ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะคุ้ยเคยกับแบรนด์ฮุนไดด้วยรถในแบบรถตู้อย่าง H1 ที่กลายเป็นภาพจำของฮุนไดไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีรถในหลายโมเดลทั้งซีดาน และเอสยูวี จำได้ว่าครั้งล่าสุดได้ขับเอสยูวีของฮุนไดคือ Tucson ประมาณปี 2016 ต้องยอมรับว่าเรื่องของสมรรถนะ รวมทั้งช่วงล่างถือว่าไม่แพ้ใครในตลาดตอนนั้นเลย ครั้งนี้ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย จัดหนักด้วยการนำรุ่นใหญ่อย่าง “Palisade” (แพลิเสด) เข้ามาจำหน่าย ยอมรับเลยว่า Palisade ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
สำหรับ Hyundai Palisade เป็นรถในกลุ่ม D-SUV ที่มีทั้งความพรีเมียม หรูหรา สะดวกสบาย เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ห้องโดยสารกว้าง มีเบาะนั่งแบบ 3 แถว เบาะแถว 2 ยังเป็นแบบ Captain Seat อีกด้วย และด้วยการที่ตัวถังใหญ่ระดับนี้ ดูคาแรคเตอร์แล้วต้องถือว่านี่เป็นรถระดับเจ้าพ่อในซีรีส์เกาหลีกันเลยทีเดียว
ส่วนสเปคของ Palisade ใช้โครงสร้าง Monocoque Structure มีการลดน้ำหนักเครื่องยนต์ ลดแรงสั่นสะเทือน แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถัง ขุมพลังถือว่าจัดจ้านพอตัว เพราะเป็นขุมพลังดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร พละกำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที ส่งต่อพละกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Paddle Shift โดยในรุ่น Prestige เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนรุ่น Exclusive เป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ขนาดถังน้ำมัน 71 ลิตร
แต่สำหรับไฮไลท์ของ Hyundai PALISADE ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่และขุมพลังที่จัดจ้านเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของพื้นที่ห้องโดยสารที่ผสานความหรูหราเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย ติดตั้งเบาะ 3 แถว พร้อม Captain Seat เบาะแถวที่ 1 และแถวที่ 2 สามารถปรับอุณหภูมิได้ทั้งอุ่นและเย็น เป็นเบาะที่ออกแบบให้เหมาะกับการขับรถทางไกลโดยเฉพาะ
ที่ชุดคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Supervision Cluster 12.3 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง Infinity Premium Sound System 12 จุ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพิ่มฟังก์ชันที่ทันสมัยอย่างกระจกมองหลังแบบไร้ขอบพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ และเบาะผู้ขับขี่มีระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่งเอาไว้ด้วย
ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย มาพร้อมระบบ Hyundai SmartSense™ เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ประกอบด้วย ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision-avoidance Assist (FCA), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop and Go, ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist (LFA), ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-spot View Monitor (BVM) และเพื่อเสริมการปกป้องเพิ่มเติมยังมีระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist (RCCA) และระบบถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วย คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย ซึ่งทำให้ Hyundai PALISADE เป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ที่ปลอดภัยรอบคัน รองรับการใช้งานทั้งสายลุยและสายชิลในวันสบายๆ
ส่วนราคาค่าตัวอาจจะรู้สึกว่าสูงไปสักหน่อย แต่หากดูจากในตลาดแล้ว รถเอสยูวีระดับ D-SUV แบบนี้หาแล้วไม่มี และถ้าเป็นรถนำเข้า ราคาทะลุหลัก 3 ล้านบาท แต่ Hyundai Palisade มีราคาในรุ่น Prestige (4WD) ที่ 2,499,000 บาท และรุ่น Exclusive (2WD) ที่ 2,299,000 บาท เท่านั้น มีสีตัวถังให้เลือก 2 สี คือ Pearl White และ Space Black จะเป็นทีมขาวหรือทีมดำ ในส่วนของราคาถือว่าเป็นเรทที่รับได้เมื่อดูจากสเปคทุกอย่างที่ให้มา
ในด้านการทดลองขับ ครั้งนี้เป็นเส้นทางจากกรุงเทพ สู่จังหวัดนครนายก เส้นทางไม่ได้สมบุกสมบัน เป็นเส้นทางท่องเที่ยวธรรมดา สัมผัสแรกเมื่อได้เข้าไปนั่งในห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับ ยอมรับเลยว่าทัศนวิสัยในการขับดีมาก กระจกบังลมหน้าบานกว้างและใหญ่ เบาะปรับไฟฟ้านั่งสบาย พวงมาลัยวงใหญ่ที่จับกระชับมือ และให้ความรู้สึกทันสมัยด้วยเกียร์ที่เป็นการกดปุ่ม สะดวกสบาย ไม่มีคันเกียร์ยื่นขึ้นมาให้รู้สึกเกะกะ มีปุ่มปรับโหมดการขับแบบหมุน หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงที่คมชัดมาก
เริ่มออกเดินทางจาก H-Space วิภาวดี ขับด้วยโหมด comfort (มีโหมดการขับให้ 4 โหมด คือ Comfort, eco, sport และ smart) ในช่วงเวลาที่รถเยอะมาก ตัวถังรถที่ใหญ่ดูเทอะทะพอสมควร แต่ด้วยพวงมาลัยที่เบากำลังดีทำให้รถมีความคล่องตัวสูง จังหวะการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ถ้าค่อยเป็นค่อยไปถือว่าไม่ได้อืด แต่พอต้องการอัตราเร่งอย่างการรีบเปลี่ยนเลนในช่วงรถติดถือว่าทำได้ทันใจพอสมควร กลายเป็นรถไซส์ใหญ่ที่มีความคล่องตัวมากในสภาพรถติดแบบนี้
ขยับขึ้นมาใช้ความเร็วบนทางยกระดับดอนเมือง จุดนี้ทำได้น่าประทับใจในเรื่องของอัตราเร่งที่ตั้งแต่ออกตัวมีความกระฉับกระเฉง การเติมน้ำหนักคันเร่งเพื่อเร่งแซงทันใจมาก เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างน้อย ถือว่าเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดีเกินคาด จะเริ่มได้ยินเสียงลมเข้ามาที่เสา A ในช่วงความเร็ว 130 กม./ชม. ขึ้นไป แต่ถ้านั่งเบาะแถวสองจะได้ยินเสียงลมที่ผ่านซุ้มล้อหลังเข้ามาอยู่บ้างนิดหน่อย ถ้าเก็บเสียงในช่วงซุ้มล้อให้เงียบขึ้นจะดีมาก แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงของการทำความเร็ว ตัวรถนิ่งมาก ด้วยน้ำหนักตัวถัง 2.5 ตัน ทำให้ลมปะทะด้านข้างที่เกิดขึ้นบนทางยกระดับไม่ค่อยมีผลกับตัวรถสักเท่าไหร่ ช่วงล่างปรับจูนให้เน้นความนุ่มนวล ซึ่งจุดนี้ทำได้ดี มีความนุ่มนวล และเกาะถนน สไตล์นุ่ม นิ่ง หนึบ สัมพันธ์กับพวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี มีความแม่นยำสูง ทำให้มีความมั่นใจขึ้นมากเมื่อต้องการใช้ความเร็ว จะมีรู้สึกต้องปรับปรุงอยู่บ้างในช่วงการทำความเร็วสูงเกิน 130 กม./ชม. (เป็นช่วงของการลองอัตราเร่งแซง) ที่จะมีอาการท้ายลอยๆ นิดหน่อย เหมือนท้ายเบา (อาจจะเพราะไม่ได้มีสัมภาระด้านท้าย และไม่มีผู้โดยสารนั่งในเบาะหลังแถวที่สาม) แต่ถ้าทำความเร็วในช่วง 80-120 กม./ชม. ถือว่าช่วงล่างขับได้สบายๆ ไม่มีผลอะไร และเป็นช่วงความเร็วที่ทำให้รถมีเสถียรภาพมากที่สุด
ส่วนเบาะนั่งคนขับถือว่านั่งสบาย ปรับไฟฟ้าได้ เหมาะกับการขับทางไกล ตัวเบาะมีขนาดใหญ่ เบาะไม่สะสมความร้อน เวลาจอดตากแดดนานๆ แต่ความสบายนั้นยังไม่เท่ากับเบาะ Captain Seat ที่เบาะแถวสอง ที่สบายสุดๆ มีช่องแอร์ตอนหลังเย็นฉ่ำ ปรับนั่งเอน นอนหลับได้สบาย แบบที่ว่าจะเผลอหลับได้แบบไม่รู้ตัว จุดนี้ต้องชื่นชมมาก รวมทั้งการออกแบบห้องโดยสารให้มีพื้นที่กว้าง และปลอดโปร่ง ทำให้ไม่มีความรู้สึกอึดอัด เบาะยังมีรางสไลด์ปรับได้เพิ่มเติมอีก ทำให้พื้นที่ของเบาะแถวสองปรับใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้น
ถึงจะเป็นรถที่พละกำลังเหลือเฟือ ขับสบาย ช่วงล่างดี อัตราสิ้นเปลืองไม่ได้ประหยัดมาก อยู่ระดับกลางๆ แต่ถือว่าไม่น่าเกลียด จะอยู่ที่ประมาณ 11-14 กม./ลิตร (เป็นการขับออกนอกเมืองเป็นส่วนใหญ่) ส่วนข้อมูลใน eco sticker แจ้งเอาไว้ว่าขับในเมือง 8.9 ลิตร/ 100 กม. หรือ 11 กม./ลิตร ส่วนนอกเมือง 6.3 ลิตร/ 100 กม. หรือ 15 กม./ลิตร ถือว่าตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองค่อนข้างใกล้เคียงกัน
ในภาพรวมกับการขับแบบ One Day Trip ระยะทางไปกลับร่วม 200 กม. พอจะพูดได้ว่า Hyundai PALISADE เป็นเอสยูวีไซส์ใหญ่ ที่มีความคล่องตัวสูง อัตราเร่งจัดจ้าน แรงบิดเร้าใจสไตล์เครื่องยนต์ดีเซล ช่วงล่างออกแนวนุ่มหนึบ ไม่กระด้าง มีไฮไลท์ที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย มีเบาะแบบ Captain Seat ที่นั่งได้สบายสุดๆ เหมาะกับการนำไปใช้เป็นรถแบบวีไอพี หรือใช้งานแบบครอบครัว โดยเฉพาะการเดินทางไกลจะตอบโจทย์การใช้งานมากๆ ส่วนราคาค่าตัวที่อยู่ระดับ 2,299,000 – 2,499,000 บาท ถ้าต้องเทียบกับรถในพิกัดเดียวกัน จะมีแต่รถนำเข้าซึ่งราคาทะลุไปหลัก 3 ล้านบาท กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เรื่องของราคารุ่นนี้ค่อนข้างได้เปรียบ แทบจะไม่มีคู่แข่งเลยสำหรับกลุ่มนี้ เพราะว่า Hyundai PALISADE เป็นเอสยูวีแท้ๆ โครงสร้างตัวถังแบบ Monocoque ซึ่งต่างจากเอสยูวีที่เป็นพีพีวีในตลาดตอนนี้ที่ทุกคันเป็นแชสซีส์มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ นั่นทำให้สไตล์การขับใช้งานมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก
ถ้าอยากขับเอสยูวีแท้ๆ เครื่องยนต์ดีเซล ขับสนุก นั่งสบาย Hyundai PALISADE ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในตอนนี้ มีความอเนกประสงค์ในการใช้งานรอบด้าน ความปลอดภัยจัดเต็ม พูดได้ว่านี่เป็นรถที่หล่อ หรู ร้าย ตัวจริง!
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th